วันนี้ 27 พ.ค. 2563 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ขณะที่ไปพบกับผู้ค้าบางรายเดือดร้อนหนักจำเป็นต้องหาที่เพื่อขายของ เนื่องจากต้องส่งเงินกู้นอกระบบทั้งรายวัน รายเดือด วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือด่วน โดยนางมนุ ไม่มีนามสกุล วัย 57  ปี เจ้าของแผงขายผักในตลาดสดเทศบาลตำบลวังกะ ที่ถูกไฟไหม้เมื่อรุ่งสางของวันนี้ จำเป็นต้องย้ายมาตั้งเพิงขายผักอยู่บริเวณริมถนน สามแยกเข้าตลาดสดเทศบาลวังกะ เพื่อหาเงินส่งเงินกู้นอกระบบที่ไปกู้ยืมมาจาก นายทุนในพื้นที่จำนวนกว่า 4หมื่นบาท เพื่อมาลงทุนในการขายพักและใช้จ่ายในครอบครัว โดยผักที่นำมาขายในวันนี้เป็นผักที่เพื่อนๆในตลาดนำมาให้ขายก่อน ด้วยความเห็นใจ เช่นเดียวร่มที่ใช้กันแดดกันฝน ที่มีผู้ใจบุญมอบให้

 

นายยุทธจักร  แก้วจันทร์ รองนายกเทศบาลตำบลวังกะ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงแนวทางช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบเหตุไฟไหม้ในครั้งนี้ว่า เมื่อเช้าวันนี้ทางเจ้าหน้าที่เทศบาลฯได้ให้ผู้ได้รับความเดือดร้อนมาลงทะเบียน เพื่อรับการเยียวโดยพบว่ามีผู้ได้รับความเดือดร้อนทั้งหมด 70 ราย แบ่งเป็นผู้ได้รับความเสียหายบางส่วน 40 ราย ผู้ได้รับความเสียหาย 100% 30ราย โดยเบื้องต้นเทศบาลฯจะเร่งมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นรายละ 2,000 บาท พร้อมทั้งจะรวบรวมความเสียหายทั้งหมดมอบให้ทางอำเภอสังขละบุรี เพื่อนำเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อทำการช่วยเหลือต่อไป พร้อมกันนี้จะเร่งตั้งศูนย์รับบริจาค ช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้า ที่ได้รับผลกระทบจากไฟไหม้ในครั้งนี้ ที่บริเวณถนนคนเดิน เทศบาลตำบลวังกะ โดยจะเริ่มรับบริจาคตั้งแต่ในวันพรุ่งนี้เป็นต้นไป

 

ด้านนายปกรณ์ กรรณวัลลี นอภ.สังขละบุรี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตอนนี้จะเร่งช่วยเหลือหาพื้นที่ให้พ่อค้าแม่ค้า ที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุเพลิงไหม้ โดยตนเองจะได้ประสานกับ พ.ต.อ.นันทเศรษฐ์ สุขนพกิจ ผกก.สภ.สังขละบุรี และทางเทศบาล ขอใช้พื้นที่ทางเท้าให้ผู้ประสบภัยได้ทำการค้าขาย เพื่อเป็นการลดความเดือดในเบื้องต้น จะรายงานนายจีระเกียรติ จีระสวัสดิ์ ผวจ.กาญจนบุรี เพื่อเร่งมอบความช่วยเหลือเยียวยาตามระเบียบของทางราชการ ต่อไป

 

ทั้งนี้ อาคารในตลาดสดเทศบาลวังกะ มีทั้งหมด 2 อาคาร โดยตลาดที่ถูกไฟไหม้ เป็นอาคารหลังเก่าที่มีโครงสร้างเป็นไม้ และใช้งานมานานกว่า 30 ปี ส่วนอาคารหลังใหม่ขณะนี้ทางเทศบาลฯ ได้ทำการปรับปรุงพื้นด้วยการปูกระเบื้องใหม่ และเปลี่ยนสายไฟใหม่ ซึ่งกำหนดจะแล้วเสร็จตามสัญญาการจ้างงานในช่วงเดือนกันยายน จึงส่งผลให้ขณะนี้พ่อค้า แม่ค้าเริ่มได้รับความเดือดร้อนเนื่องจาก ในพื้นที่เริ่มมีฝนตก จึงอยากให้ทางเทศบาลเร่งดำเนินการก่อสร้างให้เสร็จเร็วขึ้น เพื่อลดความเดือดร้อน