เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 23 พ.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ชยันต์ สีเกี๋ยง สารวัตรเวร สภ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี พร้อมด้วยอาสาสมัครสมาคมกูภัยโคกสำโรง ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ภายในฟาร์มเลี้ยงหมู หมู่  8 ต.นิยมชัย อ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี โดยในที่เกิดเหตุ พบศพชายนุ่งกางเกงขาสั้น สวมเสื้อยืดคอกลมสีเขียว มีบาดแผลถูกยิง ด้วยอาวุธปืนเข้าที่ศรีษะ นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ ข้างรถ จยย.ทางเข้าโรงเรือนของฟาร์ม ทราบชื่อนายประหยัด (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี อดีตภารโรง รพ.สระโบสถ์ และภายในโรงเรือน พบศพหญิงถูกยิงเสียชีวิตอยู่บนแคร่ไม้ไผ่ คาสำหรับข้าว ทราบชื่อนางกันจนา นิลสาลิกา  อายุ 48 ปี และข้างแคร่ พบศพชายทราบชื่อนายไชยมงคล อัมพวา อายุ 27 ปี ทั้งสองคนถูกยิงด้วยอาวุธปืน เช่นเดียวกัน

จากการตรวจสอบในจุดที่เกิดเหตุ พบอาวุธปืนลูกซอง 5 นัด วางอยู่บนแคร่ 1 กระบอก และพบปลอกกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ จำนวนหลายปลอก เจ้าหน้าที่ ตร.ได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน และมีนายเอ อายุ 16 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของนายประหยัด และนางกันจนา ผู้ตาย ยืนรอให้การกับตำรวจ 

จากการสอบถามเบื้องต้น จากนายเอ ทราบว่า ตนเอง นางกันจนาผู้เป็นแม่ และนายไชยมงคล ได้นั่งบนแคร่ล้อมวงกินข้าวกลางวันอยู่ ในขณะที่นายประหยัดผู้เป็นพ่อเข้ามาโดยไม่พูดจากัน ใช้ปืนลูกซองที่นำมายิงใส่แม่ และนายไชยมงคล ว่าที่พี่เขย คว่ำไปทั้ง 2 คน ตนเองตกใจได้กระโดดเข้าแย่งปืนกับพ่อ จนได้ปืนมาแล้วยิงไป 1 นัด ถูกพ่อคว่ำไป ตนจึงวิ่งมาดูแม่ เห็นแม่เสียชีวิตแล้ว ตนเองก็งงไปหมดทำอะไรไม่ถูก

ส่วน นางอบเชย (สงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี ซึงเป็นภรรยาหลวงของนายประหยัด มือปืนทราบข่าวก็รีบมาดูศพ  ให้การว่า ตนเองทราบดีว่า นายประหยัดมีนางกันจนา ผู้ตายเป็นภรรยา และอยู่กินกันจนมีลูกชาย ซึ่งตนเองก็ไม่คิดอะไร ก็เข้าใจและก็อยู่ด้วยด้วยดีเสมอมา แต่ต่อมามีนายไชยมงคล ที่เสียชีวิต มาชอบลูกสาว แต่เข้าทางนางกันจนา ทำให้นายประหยัด เข้าใจผิดคิดว่า นายกันจนา มีกิ๊กใหม่จึงคว้าปืนจากบ้านมาก่อเหตุดังกล่าว