จากกรณีราชกิจจานุเบกษา วันที่ 19 พ.ค.2563 เผยแพร่  ประกาศกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เรื่อง การสนับสนุนการสงเคราะห์ในการจัดการศพตามประเพณี” ฉบับใหม่ ยกเลิกประกาศฉบับปี 2557 และ 2561  จาก 2,000 บาท เป็น 3,000 บาท

ล่าสุด นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาโพสต์ เงื่อนไข การรับเงินสงเคราะห์ค่าทำศพผู้สูงอายุ รายละ 3,000 บาท ดังนี้

1.ผู้สูงอายุที่เสียชีวิต ต้องเข้าหลักเกณฑ์ดังนี้

-อายุเกิน 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และมีสัญชาติไทย

-ผู้สูงอายุที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (กรณีไม่มีบัตร ต้องมีหนังสือรับรองหากผู้เสียชีวิตเข้าเกณฑ์)

 

2.สถานที่ยื่นคำขอและเอกสารที่ใช้

-ติดต่อท้องที่ที่ผู้สูงอายุมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านหรือภูมิลำเนาในขณะเสียชีวิต

-จะต้องยื่นคำขอภายใน 6 เดือน นับแต่วันที่ออกใบมรณบัตร

 

3. เอกสารและหลักฐาน

-ใบมรณบัตร

-บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือหนังสือรับรอง

-บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรอื่นที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐ

-สมุดบัญชีธนาคารของผู้ยื่นคำขอ

-หนังสือรับรองเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดการศพ

-กรณีการจัดการศพตามประเพณีโดยมูลนิธิ สมาคม วัด มัสยิด โบสถ์ ให้แนบหนังสือแสดงการจดทะเบียน

 

ทั้งนี้ สิทธิการรับเงินสงเคราะห์จัดการศพนี้ ให้รวมถึงผู้สูงอายุที่อยู่ในศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ สถานสงเคราะห์ สถานดูแล สถานคุ้มครอง หรือสถานใดๆ ของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งจัดการศพตามประเพณี โดยมูลนิธิ สมาคมวัด มัสยิด โบสถ์