ศาลอุทธรณ์พิพากษา "นายอ๊อฟ" จำคุกตลอดชีวิต คดีน้องหญิงตกรถเทรลเลอร์
15 พ.ค. 2563, 19:29
ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า จากกรณีเมื่อกลางดึกวันที่ 19 กรกฎาคม 2561 น.ส.นรีกานต์ ยาวิราช อายุ 19 ปี เสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาหลังกลับจากเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง โดยมี นายสุรพล ดาราคำ เป็นผู้ขับรถเทรลเลอร์พาไปส่งบ้าน พร้อมระบุว่าระหว่างทาง น.ส.นรีกานต์ กระโดดลงจากรถจนเสียชีวิต แต่ญาติไม่เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ สงสัยเป็นการฆาตกรรม จึงร้องเรียนขอความเป็นธรรม
โดยวันที่ 5 กรกฎาคม 2562 ที่ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุรพล หรือ อ๊อฟ ดาราคำ และ น.ส.สิรินาถ หรือ เป็ด รอบรัมย์ เป็นจำเลยที่ 1-2 ในคดีหมายเลขดำที่ อ.3523/2561 ในความผิดต่อชีวิต และความผิดต่อเสรีภาพ
ศาลพิจารณาพยานหลักฐานแล้วมีความเห็นโดยสรุปว่า โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานเห็นการกระทำความผิดของจำเลยที่ 1 โดยศาลพิจารณาบาดแผลที่ศีรษะและตามร่างกายของผู้ตายตามความเห็นของพยานผู้เชี่ยวชาญ และแพทย์ อาทิ แผลฟกช้ำที่หนังศีรษะ รอยแตกที่กะโหลกศีรษะเป็นลักษณะคล้ายใยแมงมุม และอาการเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง ทางนิติเวชสันนิษฐานว่าอาจเกิดจากศีรษะตกกระทบกับของแข็ง ไม่ใช่บาดแผลจากการถูกกระแทกด้วยวัตถุทรงกลม เช่น ค้อน ผู้ตายอาจตกรถแขนซ้ายกระแทกบันไดรถด้านซ้าย ร่างหมุนศีรษะด้านขวากระแทกพื้นถนนก็ได้ พยานโจทก์มีข้อสงสัย
สำหรับความผิดฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น และความผิดฐานสนับสนุนให้หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น จำเลยที่ 1 ขับรถบรรทุก 18 ล้อ จากลานจอดไปปั๊มน้ำมัน มีผู้ตายไปด้วยกันเพียง 2 คน จำเลยที่ 1 ลงจากรถปล่อยให้ผู้ตายนั่งรอ ผู้ตายย่อมลงจากรถได้ หรือขอความช่วยเหลือจากพนักงานปั๊ม แต่ผู้ตายไม่ลงจากรถหรือขอความช่วยเหลือ เชื่อว่าผู้ตายยินยอมขึ้นรถไปกับจำเลยที่ 1 นอกจากนี้ ระหว่างทางผู้ตายสามารถใช้โทรศัพท์ติดต่อเพื่อนได้ พยานหลักฐานโจทก์ไม่มีน้ำหนักให้รับฟังว่าจำเลยที่ 1 กระทำผิดฐาน หน่วงเหนี่ยวกักขัง หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้ตายปราศจากเสรีภาพ จึงไม่อาจมีผู้สนับสนุนได้ ศาลชั้นต้น มีคำ พิพากษายกฟ้อง แต่ให้ขังจำเลยที่ 1 ไว้ระหว่างอุทธรณ์
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ 15 พฤษภาคม 2563 ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 คดีระหว่าง พนักงานอัยการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โจทก์ นายสุรพล ดาราคำ หรือ อ๊อฟ ที่ 1 นางสาวสิรินาถหรือเป็ด รอบรัมย์ ที่ 2 เป็นจำเลย ศาลอุทธรณ์ภาค 1 เห็นว่าพยานหลักฐานของโจทก์รับฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 ใช้ของแข็งไม่ทราบชนิดและขนาดตี ศีรษะ ของผู้ตายอันเป็นอวัยวะสำคัญเป็นเหตุให้กะโหลกศีรษะแตกสมองช้ำเลือดบวม ย่อมเล็งเห็นผลได้ว่าการกระทำดังกล่าวทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้ ข้อต่อสู้นำสืบคดีของจำเลยที่ 1 มีข้อพิรุธสงสัยไม่น่าเชื่อถือและไม่สามารถรับฟังเพื่อหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ได้การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นแต่พยานหลักฐานโจทก์ไม่อาจรับฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 กระทำการหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้ตายให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกายจึงไม่อาจลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนได้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 จึงมีคำพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น
โดยนาง จิรภัทร์ ดาราคำ อายุ 41 ปี แม่ของ นายสุรพล หรืออ๊อฟ ดาราคำ หรือ นายอ๊อฟ หลังจากศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จ ได้ยื่นคำร้องขอ ปล่อย ตัวนายอ๊อฟชั่วคราว ระหว่างฎีกา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา
ทางด้าน นายสุบิน ยาวิราช อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 /363 หมู่ที่ 2 ตำบลคลองสาม อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี พ่อของน้องหญิง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าวันนี้เป็นวันตัดสินคดีน้องหญิงตนเองยังไม่รู้เลยว่ามีการตัดสิน ก็ได้รับแจ้งจากนายอัจฉริยะ เมื่อช่วงบ่ายจึงได้รีบเดินทางออกจากบ้านที่จังหวัดปทุมธานี มาที่ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อขอคัดสำเนา คำพิพากษาที่ศาล เนื่องจากตนไม่ได้มาฟังคำพิพากษาเลยต้องมาคัดสำเนาเพื่อนำกลับไปอ่าน ซึ่งตนเองรู้สึกดีใจมาก ที่วันนี้ ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้อ่าน คำพิพากษาของ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ให้มีคำตัดสินนายอ๊อฟ จำคุกตลอดชีวิต และตนเองก็ได้อธิษฐานบอกกับน้องหญิงว่าวันนี้เป็นวันที่ตนและครอบครัวรอคอยมาเป็นเวลาถึง 2 ปี ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ได้มีคำตัดสินให้นายอ๊อฟเป็นผู้ผิด ซึ่งตนเห็นว่า ศาลได้มีเมตตาและตัดสินลงโทษกับคนที่กระทำความผิด มาลงโทษ จึงอยากให้น้องหญิง ไม่ต้องเป็นห่วง พ่อกับแม่ ขอให้น้องหญิงหลับสบายๆ ไม่ต้องเป็นห่วงอีกแล้ว ไปสบายๆ ได้แล้ว