ในโลกสังคมออนไลน์ขณะนี้ ต่างพากันแชร์ส่งต่อโพสต์จากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ เฉลิมพนธ์ ใหญ่ หงษ์ยนต์ ประธานประดาน้ำภาค 7 หน่วยปฏิบัติการใต้น้ำ ซึ่งได้ออกเล่าถึงความทุ่มเทของทีมนักประดาน้ำในปฏิบัติการกู้ร่างนักหาปลา สูญหายในถ้ำใต้น้ำตก ที่อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี โดยเล่าว่าในคืนนั้นเป็นคืนที่ฝนตกแรงมาก ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ "ลำคลองงู" ว่ามีชาวบ้านจำนวน 4 คนเดินทางเข้าป่าไปหาปลาที่น้ำตกกลางป่าแล้วสูญหายไปในถ้ำใต้น้ำตก ขอให้มาช่วยค้นหา ได้ยินดังนั้น ตนจึงรับปากไปว่าจะนำกำลังไปช่วยค้นหา ใช้ระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร กว่าจะถึงที่เกิดเหตุ ระหว่างเดินทางฝนตกแรงมาก ต้องขับรถอย่างระมัดระวัง 

ทางเข้าที่เกิดเหตุต้องใช้รถโฟวิลเท่านั้น จากปากทางเข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตร แล้วต้องเดินเท้าต่อไปอีก 300 เมตร แต่ต้องลัดเลาะตามลำธาร และไหล่เขาที่สูงชันสภาพชื้นแฉะและลื่น การขนอุปกรณ์เข้าไปอย่างทุลักทุเล หลายคนลื่นล้มเนื้อตัวเลอะดินเลอะโคลน ฝนก็ยังไม่หยุดตก มีชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่อุทยานคอยช่วยแบกสัมภาระ และนำทาง กว่าจะไปถึงที่เกิดเหตุได้เล่นเอาเหนื่อยหอบ และบาดเจ็บกันคนละเล็กละน้อยกันไป 
 

พอถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นน้ำตกมีหน้าผาสูงประมาณ 10 เมตร ต้องไต่เขาทางที่เป็นหิน ที่ลื่น และลาดชันกันลงไป พอถึงข้างล่าง ตนสอบถามเพื่อนของคนที่สูญหายโดยได้ใจความว่าพวกเขาเดินทางเข้ามากัน จำนวน 4 คน เพื่อหาปลา แต่เพื่อนอีกคนดำน้ำหาปลาใต้น้ำตก แล้วหายไปตั้งแต่บ่าย ๆ ได้ฟังดังนั้นผมวางแผน และจัดเตรียมสวมใส่ชุดดำน้ำลงค้นหา โดยให้ทีมงานอีกคนคอยอยู่บนผิวน้ำข้างบนคอยจับเชือกทุ่นไว้ เพราะประเมินดูแล้ว งานนี้กระแสน้ำแรงแถมยังมีโพรงถ้ำใต้น้ำตกที่มีความลึกเข้าไปอีกหลายเมตร ตัดสินใจขอลงค้นหาคนเดียวก่อน โดยทิ้งเชือกทุ่นไว้ปากถ้ำใกล้น้ำตก พอทิ้งเชือกทุ่นตรงตำแหน่งใกล้น้ำตกเสร็จผมก็ไต่เชือกตามทุ่นลงไป ข้างล่างกระแสน้ำแรงมากอุณหภูมิก็เย็นจัดหนาวจนตัวสั่น ใต้น้ำพอมองเห็นได้ด้วยไฟฉายเท่านั้น ตนค่อย ๆ คืบหน้า และตามกระแสน้ำเข้าไปเรื่อย ๆ ไฟฉายก็ส่องไปรอบ ๆ ตัว เข้าไปได้ไม่นานไฟฉายในมือก็ส่องไปเห็นร่างผู้ชายสภาพนอนหงายตัวแข็งเกร็ง มีหน้ากากดำน้ำครอบอยู่ที่ใบหน้า เห็นดังนั้นจึงเคลื่อนตัวเข้าไปใช้มือจับไปที่แขนแล้วดึงร่างของผู้เสียชีวิต ฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวกรากของน้ำตกออกมาจากโพรงถ้ำ แล้วนำร่างขั้นสู่ผิวน้ำทันที