เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ผู้การ ไม่รอช้า!! สั่งลูกน้อง เร่งล่าแก๊งเจาะกะโหลก "ศพน้องเก้า" ใช้ทำคุณไสยปั้นเหน่ง


2 มิ.ย. 2562, 17:49



ผู้การ ไม่รอช้า!! สั่งลูกน้อง เร่งล่าแก๊งเจาะกะโหลก "ศพน้องเก้า" ใช้ทำคุณไสยปั้นเหน่ง




ผู้การสั่งล่าแก๊งเจาะกะโหลกเด็กทำคุณไสย จากกรณีนางอุไรรัตน์ สุวรรณหงส์ อายุ 45 ปี ชาวอุดรธานี เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยหลวง อ.เมือง จ.อุดรธานี ว่า ศพของน้องเก้า อายุ 6 ปี 9 เดือน หลานชาย ที่เสียชีวิตเนื่องจากจมน้ำ เมื่อเดือนมกราคม 2562 ก่อนจะนำศพไปบรรจุไว้ในเบ้าปูนข้างเมรุวัดส่งเสริมธรรม ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมือง จ.อุดรธานี เพื่อรอให้ครบ 1 ปี ตามประเพณีอีสาน และรอแม่ที่อยู่ในเรือนจำพ้นโทษออกมาในเดือนสิงหาคมนี้ จะทำพิธีฌาปนกิจ แต่มาถูกคนร้ายทุบเบ้าเจาะกะโหลกหน้าผาก เชื่อเป็นแก๊งคุณไสยมนต์ดำ เอาไปทำปั้นเหน่ง

 

 

ความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 2 มิถุนายน 2562 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า พล.ต.ต.วรณัฎฐ์ ผันผ่อน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.สรายุทธ ฉ่ำผิว ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.วิบูลย์ นนทะแสง สว.สส.ภ.จว.อุดรธานี นำตำรวจสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี สภ.ห้วยหลวง สภ.เมืองอุดรธานี และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุ ที่เบ้าปูนเก็บศพของน้องเก้า พร้อมกับสอบปากคำพยานบุคคล พยานแวดล้อม และวัตถุพยาน พร้อมนำพระลูกวัด ของวัดป่าส่งเสริมธรรม ที่มีกุฎิห่างจากเมรุและจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร

เนื่องกุฏิพระลูกวัดรูปนี้อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ตำรวจจึงได้ตรวจค้นภายในกุฏิยกพื้นสูง ที่กำลังอยู่ระหวางการก่อสร้าง พบค้อนปอนด์ เลื่อย ชะแลง สว่านไฟฟ้า ค้อนตอกตะปู ซึ่งทั้งหมดเป็นอุปกรณ์ก่อสร้าง ทางตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้ถ่ายภาพเก็บไว้ และจะทำการตรวจสอบดีเอ็นเออีกครั้ง นอกจากนี้ยังเข้าตรวจค้นกุฏิปูนชั้นเดียวของพระลูกวัดรูปดังกล่าว พบว่าภายในกุฏิมีพระเครื่องจำนวนมาก ลูกประคำ กระปุกพลาสติกบรรจุของเหลวคล้ายไขมันสีขุ่นข้น วางอยู่ในห้อง 2 กระปุก ซึ่งพระรูปวัดอ้างว่าเป็นยานวดคลายกล้ามเนื้อและแก้ปวด มีเพื่อนให้มานานแล้ว แต่ไม่พบเศษกะโหลกหน้าผากของน้องเก้าแต่อย่างใด

 

 



ทั้งนี้พระลูกวัดรูปนี้ มีการสักลายบริเวณแขน ขา และลำตัว สวมลูกประคำที่คอและข้อมือ เล่าว่า ก่อนบวชได้มาอาศัยอยู่วัดนี้ และไปบวชที่ จ.ชัยภูมิ และกลับมาจำพรรษาที่วัดป่าส่งเสริมธรรมได้ 3 พรรษา โดยจำวัดอยู่ที่กุฏิปูนชั้นเดียว แต่ต่อมาได้ชวนชาวบ้าน ที่มีฝีมือช่างมาปรับปรุงกุฏิเก่าใกล้กัน ยกพื้นสูง แต้ยังไม่เสร็จเรียบร้อย โดยได้มาจำวัดอยู่บนกุฏินี้ แทน ซึ่งก่อนหน้านี้ประมาณ 2-3 สัปดาห์ มีพิธีจัดงานเผาศพที่วัดแห่งนี้ 2 งาน ติดต่อกัน ตอนนั้นมีคนจำนวนมากที่เดินทางมาร่วมงานเผาศพ น่าจะเป็นช่วงนั้นหรือไม่ โดยอาตมาบริสุทธิ์ใจ ให้ความร่วมมือทุกอย่าง ยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุ

พล.ต.ต.วรณัฎฐ์ ผันผ่อน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า วันนี้ตนพร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี ชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ชุดสืบสวน สภ.ห้วยหลวง และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บวัตถุพยานหลักฐานต่าง ๆ ได้บางส่วน ทั้งเก็บดีเอ็นเอที่จุดเกิดเหตุ และวัตถุต้องสงสัย โดยทาง ผวจ.อุดรธานี และ ผบช.ภ.4 กำชับให้ติดตามจับกุมตัวคนร้ายให้ได้ คาดว่าน่าจะได้ตัวคนร้ายในเร็ว ๆ นี้

 

ผู้การ จ.อุดรธานี บอกว่า "การเจาะกะโหลกไปทำปั้นเหน่ง คนร้ายที่เอาไป น่าจะเหมือนเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2558 ที่มีเหตุลักศพ และเจาะกะโหลกศพ 2 ราย ที่จับกุมคนร้ายได้ เหตุในพื้นที่ อ.กุมภวาปี อ.ประจักษ์ศิลปาคม ผู้ต้องหา 4 ราย และ อ.น้ำโสม ผู้ต้องหา 3 ราย ตอนนี้กำลังเช็คว่าพ้นโทษออกจากเรือนจำหรือยัง แต่คาดว่าน่าจะออกมาแล้ว เพราะคำพิพากษาศาลตัดสินจำคุก 8 เดือน จึงสั่งการให้ตรวจสอบกลุ่มบุคคลเหล่านี้อีกครั้ง”

 


พล.ต.ต.วรณัฏฐ์ กล่าวถึงการตรวจค้นกุฏิพระลูกวัดในวัดป่าส่งเสริมธรรม วัดที่เกิดเหตุว่า เป็นเรื่องของงานสืบสวนที่ต้องตรวจสอบพยานหลักฐาน และวัตถุพยานที่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุดก่อน อีกทั้งพระรูปนี้ มีการรื้อและก่อสร้างกุฏิใหม่ มีเครื่องมือช่างต่าง ๆ ที่จะเก็บเป็นวัตถุพยานได้หรือไม่เท่านั้น ซึ่งบางอย่างที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเก็บไปจากจุดเกิดเหตุ เช่น กระเป๋าที่ทางญาติของศพบอกว่าใส่ไปในเบ้าเก็บศพด้วย แต่ว่าหลังเกิดเหตุกระเป๋าออกมาอยู่นอกเบ้าเก็บศพ จึงต้องนำไปตรวจหาดีเอ็นเอ หลังจากนั้นจะทราบว่ามีดีเอ็นเอของใครบ้างที่กระเป๋าใบนี้

 

“ส่วนการจะเปิดเบ้าเก็บศพเพื่อตรวจสอบอีกครั้ง เรื่องนี้ถ้ามีวัตถุพยานที่สามารถยืนยันคนร้ายได้แล้ว ก็คงไม่ทำ เพราะหากเปิดอีกจะทำให้ญาติสะเทือนจิตใจเพิ่มขึ้น แต่ว่าหากจำเป็นต้องเปิด คงต้องขอกับทางญาติของศพให้มาทำการเปิดอีกครั้ง โดยเหตุที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ได้กำชับให้ทุกสถานีในพื้น ตรวจสอบวัด สุสาน ป่าช้าทุกแห่ง ว่ามีกลุ่มคนร้ายไปก่อเหตุเช่นนี้หรือไม่ เพราะเกรงจะเกิดเหตุเหมือนกับปี 2558 อีกครั้ง ที่มีหลายกลุ่มคนร้ายลงมือก่อเหตุ”

 

 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.