วันที่ 8 พฤษภาคม 2563 ที่ ถ.มิตรภาพมุ่งหน้าเข้าโคราช  ขณะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสระบุรี 2 นาย  ได้ขับรถผ่านมา  สังเกตเห็นมี ควายอยู่ที่กาะกลางถนน กลัวจะเกิดอุบัติเหตุ จึงจอดรถและไปช่วยกั้นรถ และไล่ควายให้ข้ามถนน ก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุ จากนั้นควายได้วิ่งเตลิดเข้าไปในโกดังที่เก็บแผ่นกระเบื้อง  เจ้าหน้าตำรวจที่ไม่สามารถจะช่วยจับควายที่เข้า มาในโกดังได้ จึงได้ขอความช่วยเหลือไปยังศูนย์กู้ภัยสว่างสระบุรี ให้จัดเจ้าหน้าที่มาช่วยกันจับควายตัวดังกล่าว อยู่ที่โกดัง เก็บแผ่นกระเบื้อง ของ บริษัท เอสซีจี จำกัด (แห่งหนึ่ง) ติดกับ ถ.คู่ขนานมิตรภาพ ต.ตะกุด  อ.เมือง จ.สระบุรี   

เมื่อเจ้าหน้าที่ได้มาถึงที่โกดังดังกล่าว เห็นควายเดินอยู่ในโกดังที่เก็บแผ่นกระเบื้อง เดินไป-มา เหมือนกับระแวงคนที่จะเข้ามาใกล้ เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันต้อนควาย เพื่อจะใช้เชือกไปคล้องคอ แต่เนื่องจากเชือกเล็กและอ่อนไป  จึงไม่สามารถที่จะคล้องคอควายได้ จึงได้ต้อนควายไปอยู่หลังโกดัง เพื่อจะไปตามหาเจ้าของฝั่งตรงข้ามที่ควายวิ่งข้ามมา จึงได้ฝากให้ นายวินัย  มาว่อง ซึ่งเป็น รปภ. ดูแลความปลอดภัยโกดังเก็บกระเบื้องแห่งนี้ คอยดูควายไม่ให้ออกจากประตูโกดังได้ แต่ช่วงขณะที่นายวินัย ผลอ ควายได้วิ่งออกมา และข้ามไปอยู่เกาะกลางเหมือนเดิม ดีว่าไม่เกิดอุบัติเหตุและรถชนควาย 

ต่อมาเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างที่ไปตามหาเจ้าของควายแต่ไม่เจอ ทราบข่าวว่า ควายได้วิ่งออกมาจากโกดังและมาอยู่เกาะกลางถนนที่เก่า จึงได้รีบกลับมาและทำการปิดถนนไล่ควายตัวดังกล่าวกลับไปฝั่งเขาตะกร้าที่ควายหากินอยู่เหมือนเดิม โดยที่ไม่มีการเกิดอุบัติเหตุใดๆทั้งสิ้น 

 

จากการสอบถามนายวินัย  มาว่อง อายุ 50 ปี ซึ่งเป็น รปภ. ดูแลความปลอดภัยโกดังเก็บกระเบื้องแห่งนี้ เล่าให้ฟังว่า ขณะตนเองนั่งอยู่ที่โต๊ะหน้าประตูโกดัง ได้เห็นควายวิ่งมาจากฝั่งเขาตะกร้า ตรงข้ามกับโกดัง และมายืนอยู่ที่เกาะกลางถนน คาดว่าควายน่าจะข้ามมา แต่ข้ามไม่ได้เนื่องจากมีรถวิ่งตลอด จังหวะนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ได้ขับรถมาจอด และได้ทำการช่วยเหลือ โดยกั้นรถและไล่ควายข้ามมา แต่ควายได้วิ่งเข้ามาในโกดังเก็บแผ่นกระเบื้องของบริษัทดังกล่าว ตนกลัวว่าควายจะทำแผ่นกระเบื้องแตกเสียหาย และอีกอย่างหนึ่งอากาศร้อนจัด กลัวว่าควายจะเกิดอาการเครียด และจะมาทำร้ายหรือขวิดพวกตน  เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างมาช่วยเป็นการด่วน