เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



กาญจนบุรี ปลดล็อกวันแรก! นทท. ไปแหล่งท่องเที่ยวสำคัญจำนวนน้อย


3 พ.ค. 2563, 16:36



กาญจนบุรี ปลดล็อกวันแรก!  นทท. ไปแหล่งท่องเที่ยวสำคัญจำนวนน้อย




วันนี้ (3 พ.ค.63) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ได้ออกตระเวนตรวจสอบบรรยากาศหลัง นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี จึงอาศัยอำนาจตามความ ในมาตรา 35 (1) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ. ศ. 2548 ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี

โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี และข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563  ข้อ 7 (1) และนายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ได้มีประกาศลงวันที่ 28 เมษายน 2563 จำนวน 3 ฉบับ

คือ ประกาศเรื่องการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ 1) ประกาศเรื่อง การให้ประกาศที่คณะรัฐมนตรี กำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินยังคงมีผลใช้บังคับ และประกาศ เรื่องการให้ข้อกำหนดประกาศและคำสั่งที่นายกรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินยังคงมีผลใช้บังคับ 

ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 4) ลงวันที่ 29 เมษายน 2563 และข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 6) ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2563

โดยเมื่อวันที่ 1 พ.ค.63 ที่ผ่านมานั้น นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี ได้มีคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 1896/2563 ลงวันที่ 1 พ.ค.2563

เรื่องมาตรการผ่อนปรนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ใน 3 กิจการ/กิจกรรม ข้างต้น เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตและทำมาหากินได้ โดยให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับ กิจกรรม/กิจการ ที่ได้รับการผ่อนปรน จากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ประกอบด้วย 1. กิจกรรมด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต

ก. การจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ในโรงแรม สถานีรถไฟ สถานีขนส่ง โรงพยาบาล ร้านอาหารหรือเครื่องดื่ม ร้านสะดวกซื้อรถเข็น หาบเร่ แผงลอย ซึ่งไม่รวมถึงสถานบริการ ผับ บาร์

ข. ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ให้เปิดได้เฉพาะซุปเปอร์มาเก็ต ร้านขายยา สินค้าเบ็ดเตล็ด ที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต และร้านขายปลีกธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม ธนาคาร ที่ทำการหน่วยงานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจเท่านั้น ส่วนแผนกร้านอาหารให้เปิดเฉพาะการนำกลับไปบริโภคที่อื่น

ค. ร้านค้าปลีก/ค้าส่งขนาดย่อม ร้านค้าปลีก/ค้าส่งชุมชน ตลาด ตลาดน้ำ และตลาดนัด

ง. ร้านเสริมสวย แต่งผม หรือตัดผม สำหรับบุรุษหรือสตรี (เฉพาะ สระ ตัด ซอยผม แต่งผม)

2. กิจกรรมด้านการออกกำลังกายหรือการดูแลสุขภาพ

ก. สนามกอล์ฟ หรือสนามฝึกซ้อมกอล์ฟ

ข. สนามกีฬา เฉพาะกีฬาประเภทกลางแจ้ง และตามกติกาสากล ได้แก่ เทนนิส ขี่ม้า ยิงปืน ยิงธนู

ค. สวนสาธารณะ ลาน-พื้นที่กิจกรรมสาธารณะ สถานที่ออกกำลังกาย สนามกีฬา ลานกีฬา (เฉพาะพื้นที่โล่งแจ้ง เพื่อการเดิน วิ่ง ขี่หรือปั่นจักรยาน หรือการออกกำลังกายด้วยวิธีอื่นเป็นส่วนบุคคล)

และ 3.กิจกรรม/กิจการ อื่นๆ ง. สถานที่ให้บริการดูแลรักษา สัตว์ สปา อาบน้ำ ตัดขน รับเลี้ยง หรือรับฝากสัตว์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับมาตรการผ่อนปรน กิจการ/กิจกรรม ที่ 1.คือกิจกรรมด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต นอกจากจะต้องปฎิบัติตามมาตรการควบคุมหลักแล้ว ยังมีมาตรการเสริม ที่เชื่อว่าประชาชนให้ความสนใจคือมาตรการเสริมย่อยข้อที่ 6 ระบุว่า สำหรับร้านอาหารหรือร้านขายเครื่องดื่ม ซึ่งจำหน่ายสุราให้เปิดกิจการได้ (ซึ่งไม่รวมถึง สถานบริการ ผับ บาร์) แต่ห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการผ่อนปรนในครั้งนี้ทำให้ร้านค้าส่งปลีก ห้างยักษ์ใหญ่ และรายย่อย ได้มีบรรดาพ่อค้าแม่ค้า ต่างเดินทางไปรอซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กันแน่น เพื่อนำกลับไปเตรียมเปิดร้านหลังจากที่ปิดมานาน และตามร้านค้าที่เปิดจำหน่าย เช่น ร้านขายก๋วยเตี๋ยว อาหารตามสั่ง ยังพบว่าไม่มีการปรับการนั่งให้ห่างกัน รวมถึงแอลกอฮอล์ล้างมือก็ไม่มีให้ลูกค้าได้ล้างมือกัน เป็นการไม่รับผิดชอบต่อสังคม เรื่องนี้ทางสำนักงานสาธารณสุข จะต้องส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบให้ถี่มากยิ่งขึ้น เพราะหากปล่อยเช่นนี้ก็เป็นการขาดความรับผิดชอบต่อสังคม เชื้อโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 อาจจะกลับมาอีกรอบได้

นายคณบดี ทองรุ่งเรืองกุล พ่อค้าใกล้เชิงสะพานข้ามแม่น้ำแคว สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดกาญจนบุรี บอกว่านักท่องเที่ยวมีไม่มาก ยังน้อยเหมือนช่วงเกิดโควิด-19 ใหม่ๆ แม้ช่วงนี้จะเป็นช่วงวันหยุดยาว รวมถึงมีการผ่อนปรนแล้วก็ตาม ของยังขายไม่ออกเช่นกัน และยังเกรงว่าเชื้อโควิด-19 รอบใหม่น่าจะยังส่อเข้ามาอีกรอบ สาเหตุเพราะคนไทยไม่มีวินัย ไม่ยอมใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันเชื้อโรค สถานการณ์ของโควิด- 19 ยังน่าเป็นห่วง ทางราชการเขาเปิดโอกาสให้วันหยุดน่าจะหยุดอยู่บ้าน แถมออกมาแล้วยังไม่ใช้หน้ากากอนามัยป้องกันอีก

สำหรับวันนี้เป็นวันแรกที่ทาง ผวจ. ปลดล็อกให้สามารถจำหน่ายสุราได้ แต่มันก็ไม่มีใครซื้อแต่อาจจะมีบ้างก็น่าจะเป็นช่วงเย็นๆ ชาวบ้านที่เคยมาซื้อ นักท่องเที่ยวไม่มี ตนเองก็ไม่ได้ขายให้เลยจากที่ทางการสั่งมา แต่เห็นใจคนติดเคยมาถามซื้อตนเองไม่ขายก็ถูกต่อว่ามากเช่นกัน ตนเองอยู่ทุกวันนี้ก็ระวังตัวเองมาก เพราะเกรงว่าเหตุการณ์มันจะเกิดวิกฤต อีกเพราะเราไม่รู้ว่าโรคภัยมันจะเกิดเมื่อใด ดังนั้นเราต้องอยู่แบบพอเพียง ตนเองแม่บ้านก็เก็บของตามรอบๆ บ้านที่มีมาปรุงเป็นอาหาร

และฝากประชาชนให้อยู่กับธรรมะ อย่าไปเครียดถึงกับฆ่าตัวตาย คนที่ดอยกว่าเรายังมีอีกมาก ต้องหันดูตัวเสมอ เราสู้กับมัน ให้รักษาศีล 5 ของพระพุทธองค์ใช้ได้ ขอให้ทุกคนรักษาไว้ทุกคนจะอยู่ได้สบาย ไหว้พระสวดมนต์อย่าไปเครียดมันต้องทำใจอะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิด

 



 

 


 






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.