เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"หนุ่มใหญ่" เครียด! ปีนสะพานหวังกระโดดจบชีวิต โชคดีช่วยกันเกลี้ยกล่อมสำเร็จ


26 เม.ย. 2563, 14:52



"หนุ่มใหญ่" เครียด! ปีนสะพานหวังกระโดดจบชีวิต โชคดีช่วยกันเกลี้ยกล่อมสำเร็จ




เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วันที่ 26 เมษายน 2563 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ร.ต.อ.ไพศาล พิลา รอง สวป.สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งว่ามี ชาย ปีนขึ้นไปบนบนสะพานปรีดี-ธำรง สะพานข้ามแม่น้ำป่าสัก อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะฆ่าตัวตาย จึงไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ มูลนิธิร่วมกตัญญูและมูลนิธิพุทไธสวรรย์

พบที่บริเวณโครงสะพานมีความสูงประมาณ 10 เมตร ชายอายุประมาณ 37 ปี นั่งอยู่บนโครงสะพานส่งเสียงตะโกนตัดพ้อชีวิต และเรียกร้องอยากพบผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้เครื่องขยายเสียงเกลี้ยกล่อมพูดจาหว่านล้อมให้ชายลดความเครียดลง และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ติดต่อ หา ภรรยาและครอบครัวของชายคนดังกล่าว ให้เดินทางมาที่เกิดเหตุ แต่ชายก็ยังนั่ง สร้างความหวาดเสียวให้แก่ประชาชนที่มุงดูเหตุการณ์อยู่ด้านล่างจำนวนมาก

จากนั้น ประสานเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา นำรถกระเช้าพร้อมเจ้าหน้าที่ขึ้นไปเจรจาจนเวลาผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง ได้มี นางนงนุช บุญไมค อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71 หมู่ 7 ตำบลบ้านใหม่  อ.พระนครศรีอยุธยา มายืนยันว่าชายที่อยู่ด้านบนสะพานเป็นสามีของตนเอง ทราบชื่อ นาย สมชาย ธารีสิทธิ์ อายุ 37 ปี  มาตะโกนเรียกพูดคุยเกลี้ยกล่อมให้ลงมา แต่ไม่สำเร็จ จะขอพบแต่ผู้ว่าราชการจังหวัดเพียงคนเดียว  ต่อมาได้มีนายสุรเชษฐ์ ชัยโกศล อดีต ส.ส. พระนครศรีอยุธยาพรรคเพื่อไทย เดินทางมาพูดคุยและเกลี้ยกล่อม จนนายสมชายยอมให้รถกระเช้าเข้าไปรับท่ามกลางเสียงปรบมือของประชาชนที่มามุงดู จากนั้นได้นำลงมาได้อย่างปลอดภัย จากนั้น นายสุรเชษฐ์ ชัยโกศล อดีต ส.ส. พระนครศรีอยุธยาพรรคเพื่อไทย ได้พูดคุยปลอบใจและมอบเงินจำนวนหนึ่ง ให้กับ นายสมชาย แล้วยังมี ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาให้ตัวแทนนำเงินมาช่วยเหลือ พร้อม นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร สส.จ.พระนครศรีอยุธยา รองหัวหน้า พรรคภูมิใจไทย มอบเงินช่วยเหลือด้วย

นายสมชาย กล่าวด้วยน้ำตาว่า ตนเองเครียดเห็นภรรยาป่วยเป็นโรคหอบหืด และพื้นที่ ม.7 บ้านที่ตนอยู่นั้นมีโรงเผาอิฐ ได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบจากควัน ฝุ่นละออง เวลาเผาอิฐ ทำให้ภรรยาของตนล้มป่วย แล้วช่วงกลางคืนก็ยังมีการเผาอิฐทำให้ภรรยาตนหายใจไม่ออก หอบหืด ทุกวัน ตนเคยร้องเรียนหน่วยงานรับผิดชอบไปแล้วหลายครั้งแต่นิ่งเฉย อีกทั้งผู้ประกอบการยังพูดจาถากถาง อยู่เป็นประจำ ทำให้เครียดสะสมมานาน อีกทั้งตนเองก็ยังตกงานไม่มีงานทำในช่วงโควิด-19 ลงทะเบียนเราไม่ทิ้งกัน ก็ไม่ผ่าน  หาทางออกไม่ได้ จึงเดินออกมาจากบ้าน ช่วงเช้าโดยไม่บอกใคร มาที่สะพานปรีดี แล้วปีนขึ้นไปบนสะพานดังกล่าว เพื่อเรียกร้องที่ตนเองและประชาชน ม. 7 ได้รับผลกระทบจากโรงอิฐดังกล่าว เบื้องต้นทางหัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้เดินทางมาพูดคุยและรับปากจะลงพื้นที่ตรวจสอบโรงเผาอิฐ และจะให้ความช่วยเหลือประชาชน ม.7 ที่เดือดร้อนได้รับผลกระทบจากควัน

 

 

 



 

 

 


 

 

 






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.