วันที่ 5 เม.ย. 63 ภายใต้การอำนวยการของ ว่าที่ร้อยเอก พงศ์ศักดิ์ เวทยาวงศ์ นายอำเภอตะกั่วป่า/ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอตะกั่วป่า นายสมศักดิ์ ชูแสง ปลัดอำเภออาวุโส อ.ตะกั่วป่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองนำโดย นายภานุวัฒน์ สองเมือง ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.ตะกั่วป่า นายทรงศรี นพฤทธิ์ ผญบ.ม.6 ต.คึกคัก นายอนิรุท นพฤทธิ์ ผรส.ม.6 ต.คึกคัก, นายสถาพร ชนะการ ผช.ปค.ม.5 ต.คึกคัก พร้อมด้วย สมาชิก อส.สังกัด กองร้อย อส.อ.ตะกั่วป่า ที่ 7 ประกอบด้วย นายหมู่ใหญ่ชาตรี พรหมคีรี นายหมู่โทธีระสิทธิ์ จันเพชร์ สมาชิกเอกธำรง บำรุงมิตร สมาชิกเอกวิเชียร ธรรมบุตร สมาชิกพรชัย แก้วประเสริฐ สมาชิกเอกทรงธรรม ชูช่วย อส.อุสมาน ใจเหล็ก อส.สุขสันต์ สมทรัพย์ และ อส.ฤทธิชัย พลอยขาว ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายสุทิน ปัถวี อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 ม.3 ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม และนาย KYAW ZIN PHYO สัญชาติเมียนมา พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 ต้นพืชกัญชา จำนวน 1 ต้น น้ำหนักชั่งรวมลำต้น กิ่ง ราก ใบ ประมาณ 900 กรัม ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 ต้นพืชกระท่อม จำนวน 53 ต้น น้ำหนักชั่งรวมลำต้น กิ่ง ราก ใบ ประมาณ 130 กิโลกรัม ที่ลักลอบปลูกในพื้นที่ฟาร์มเลี้ยงกุ้ง หมู่ที่ 4 ต.บางนายสี อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา

 

 

 

จากการจับกุมได้ในครั้งนี้เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอตะกั่วป่า ได้รับแจ้งว่าบริเวณพื้นที่หมู่ที่ 4 ต.บางนายสี อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา มีการลักลอบปลูกต้นพืชกัญชา และต้นพืชกระท่อมโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง จนเวลาที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้เดินมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ พบนายสุทิน ปัถวี อายุ 56 ปี แสดงตัวเป็นผู้จัดการฟาร์มเลี้ยงกุ้งฯ ที่เกิดเหตุ ทำงานและพักอาศัยในฟาร์มเลี้ยงกุ้งดังกล่าวมานานกว่า 28 ปี และนาย KYAW ZIN PHYO สัญชาติเมียนมา เป็นลูกจ้างของฟาร์มดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัว โดยได้แสดงบัตรเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. และใช้อำนาจตามตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปราม ยาเสพติด พ.ศ. 2519 มาตรา 14(1) เข้าไปในเคหสถาน หรือสถานที่เพื่อตรวจค้นเมื่อมีเหตุอันควรสงสัย ตามสมควรว่ามีบุคคลที่มีเหตุอันควรสงสัยว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดหลบซ่อนอยู่ หรือมีทรัพย์สินซึ่งมีไว้เป็นความผิดหรือได้มาโดยการกระทำความผิด หรือได้ใช้หรือจะใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด หรือซึ่งอาจใช้เป็นพยานหลักฐานได้ ประกอบกับมีเหตุอันควรเชื่อว่าเนื่องจากการเนิ่นช้ากว่าจะเอาหมายค้นมาได้ บุคคลนั้น จะหลบหนีไป หรือทรัพย์สินนั้นจะถูกโยกย้าย ซุกซ่อน ทำลาย หรือทำให้เปลี่ยนสภาพไปจากเดิม โดยผู้ต้องหาทั้งสองรายยินยอมและเป็นผู้นำตรวจค้น ก่อนเข้าทำการตรวจค้น เจ้าหน้าที่ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจให้ผู้ต้องหาดูจนเป็นที่พอใจแล้ว จากการตรวจค้นพบของกลางที่ใช้ในการกระทำผิดกฎหมาย เป็นต้นพืชกัญชา จำนวน 1 ต้น และต้นพืชกระท่อม จำนวน 53 ต้น ปลูกอยู่ในบริเวณฟาร์มเลี้ยงกุ้งฯที่เกิดเหตุ ซึ่งผู้ต้องหารับว่าเป็นของพวกตน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอตะกั่วป่า จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมด มาทำบันทึกจับกุมที่กองร้อย อส.อ.ตะกั่วป่า ที่ 7 พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่า 1.ร่วมกันผลิตและมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 ต้นพืชกระท่อม ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต 2. ผลิตและมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 ต้นพืชกัญชา ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ตะกั่วป่า เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป