เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



2 หนุ่มอิตาลีโร่พบตำรวจ ยืนยันไม่ได้หนีออกจากโรงพยาบาล พร้อมขอโทษ ทำคนไทยเดือดร้อน


16 มี.ค. 2563, 19:11



2 หนุ่มอิตาลีโร่พบตำรวจ ยืนยันไม่ได้หนีออกจากโรงพยาบาล พร้อมขอโทษ ทำคนไทยเดือดร้อน




จากที่กรณี ในโลกโซเชียลนำภาพ 2 หนุ่มนักท่องเที่ยว ชาวอิตาลี ว่าหนีออกจากโรงพยาบาล ให้ตามหาด่วนอาจเป็นผู้ป่วยโควิด -19 ล่าสุด 2 หนุ่มนักท่องเที่ยวชาวอิตาลี เดินทางเข้าพบตำรวจ สภ.บ่อผุด ทำตำรวจสะดุ้งโหยงกันทั้งโรงพัก ก่อนแจ้งให้นายอำเภอเกาะสมุย ทราบแล้วประสาน สาธารณสุขอำเภอเกสมุยเข้าตรวจสอบ ผลการตรวจสอบในเบื้องต้นยังไม่พบไข้ แต่ทางสาธารณสุขอำเภอเกาะสมุย ให้ 2 นักท่องเที่ยวกักตัวเองในที่พัก จำนวน 14 วัน และทางสาธารณสุขจะติดตามผลตรวจอาการเฝ้าระวันจนครบ 14 วัน

 



เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ในสื่อโลกออนไลน์เฟซบุ๊กได้นำภาพ หน้าตรงหนังสือเดินทาง ของ 2 หนุ่มนักท่องเที่ยวชาวอิตาลี มาแชร์ในกันโลกโซเชียล มีข้อความว่า “ ชาวต่างชาติ หนีการกักตัว Covid -19 จากเกาะสมุย ข่าวบอกว่ามาเกาะพะงัน เมื่อวานนี้ ใครพบเห็นแจ้งด่วน ขอบคุณคะ ช่วยๆกันนะคะ” ภายหลังที่มีการนำภาพและชื่อหน้าหนังสือเดินทางของ 2 นักท่องชาวอิตาลี นำออกไปโพสต์ ทำให้คนแห่เข้าไปกดแชร์ และส่งกันทางไลน์ต่อๆ กันเป็นจำนวนมาก ทำให้คนตื่นตระหนกตามสื่อโซเชียล

 

 

 

ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวันเดียวกัน ได้มีนักท่องเที่ยวชาย 2 คน ทราบชื่อ นายแกมเปอร์ โจเซฟ สัญชาติอิตาลี  26 ปี พร้อมด้วย นายอัลเบริด ยานิค อายุ  24 ปี สัญชาติ อิตาลี ได้เดินทางเข้าพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พร้อม แจ้งกับเจ้าหน้าที่ ว่ามายืนยันตัวตน ตามที่มีกลุ่มบุคคล นำภาพของตนไปแชร์ในสื่อโซเชียล ทำให้เอาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ่อผุด พากันสะดุ้งโหยง และตกอกตกใจ เกรงงว่านักท่องเที่ยวชายทั้ง 2 มีเชื้อไข้ไวรัสโควิด -19 เข้ามาใน โรงพัก จึงได้รายให้ พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก.สภ.บ่อผุด และ พ.ต.ท.มาโนช จันทร์เที่ยง รองผกก ป.สภ.บ่อผุด พ.ต.ท.ชัชชีวิน นาคมูสิค สวป และ ร.ต.อ.อรุณ มูสิกิ้ม รอง สารวัตรตรวจคนเข้าเมือง  จ.สุราษฎร์ธานี เดินทางไปตรวจสอบ

 

ต่อมา พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก.สภ.บ่อผุด ได้แจ้งให้ ว่าที่ ร้อยตรี กิตติภพ รอดดอน นายอำเภอเกาะสมุย ว่ามี 2 นักท่องเที่ยวชาวอิตาลี ที่มีการแชร์กันทางโลกโซเชียล โดย 2 นักท่องเที่ยวดังกล่าว ได้เดินทางมายืนยันตัวตนที่ สภ.บ่อผุด แล้ว  ต่อ มาทาง ว่าที่ร้อยตรี กิตติภพ รอดดอน นายอำเภอเกาะสมุย ได้สั่งการให้ นายธนภณ หวังแก้ว  เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเกาะสมุย นำอุปกรณ์ เดินทางไปไปตรวจสอบที่ สภ.บ่อผุด


ในเบื้องต้น จากการตรวจสอบนักท่องเที่ยวหนุ่มอิตาลี ทั้ง 2 คน ไม่พบมีอาการไข้แต่อย่างใด แต่จากการตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่านายอัลเบริด ยานิค ได้ประสบอุบัติเหตุ ทำให้ข้อเท้าข้างซ้ายแพลง และเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง และหมอ ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ได้ทำการตรวจวัดไข้ และไม่มีอาการใดๆ แต่เนื่องจาก นักท่องเที่ยว ทั้ง 2 รายนี้เดินทางมาจากประเทศอิตาลี เป็นประเทศที่เป็นประเทศเสี่ยง จึงได้สั่งให้ 2 นักท่องเที่ยว อยู่ในที่พัก เป็นเวลา 14 วัน แต่นักท่องเที่ยวทั้ง 2 กลับไม่เชื่อฟัง และได้เดินทางไปท่องเที่ยวในพื้นที่ต่างๆ จนมีคนนำภาพของ 2 นักท่องเที่ยวดังกล่าวมาแชร์ ต่อๆกัน ทำให้นักท่องเที่ยว ทั้ง 2 เห็นภาพตัวเองตามสื่อโซเชี่ยล จึงเกิดอาการตกใจ  จึงได้พากันเข้ามามอบตัวเพื่อยืนยันตัวตนที่ สภ.บ่อผุด ดังกล่าว

 

 

 

 

 

 

ในเบื้องต้น นายธนภณ หวังแก้ว  เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเกาะสมุย ได้ทำการตรวจวัดไข้ ของ 2 นักท่องเที่ยวชาวอิตาลีแล้ว แต่ไม่พบเชื้อไข้ จึงได้ย้ำกับ 2 นักท่องเที่ยวว่า ให้กักตัวเองห้ามเดินทางออกไปไหน โดยให้อยู่ในที่พัก ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในย่านหาดเฉวง จำนวน 14 วัน โดยทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเกาะสมุย จะทำการติดตามประเมินผล ตรวจดูอาการทุกๆวัน จนครบ 14  วัน 

 

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติของ 2 นักท่องเที่ยว ชาวอิตาลีทั้ง 2 รายนี้ ทราบว่าเดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทย ผ่านด่านตรวจคัดกรองด่านตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ที่ผ่านมา และได้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวต่อที่เกาะสมุย เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง หมู่ 3 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จนประสบอุบัติเหตุ เดินและข้อเท้าแพลง และเข้ารักษาตัวที่ โรงพยาบาลเอกชน จนกระทั้งมีกระแสข่าวตามสื่อโซเชียล ล่าสุด 2 หนุ่มนักท่องเที่ยวชาวอิตาลี ทั้ง 2 ยังได้เปิดเผยว่า ตนทั้ง2 เข้าใจต่อสถานการณ์ เป็นอย่างดี พร้อมขอโทษ ที่ทำให้คนไทยเดือดร้อน และวิตก ผลกระทบที่ตนเป็นนักท่องเที่ยว มาจากประเทศเสี่ยง และตนจะปฎิบัติตัวตาม เจ้าหน้าที่สั่งกักบริเวณในที่พัก เป็นเวลา 14 วัน อย่างเคร่งครัด 2 นักท่องเที่ยวกล่าว.//






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.