จากการสอบสวน นายนันท์ธนพงษ์ ผ่องอินทรี อายุ 59 ปี หรือ “จ๊อด เชิญยิ้ม” ให้การว่า ตนได้ขับรถเก๋งกลับมาจากงานแต่งงานญาติของเพื่อนสนิทที่ในตัวเมืองชุมพร จะรีบไปแสดงตลกในวันพรุ่งนี้ที่ จ.ลพบุรี โดยมากันทั้งหมด 4 คน มีภรรยาตนนั่งมาเบาะข้าง ส่วน “ปลาคราฟ เชิญยิ้ม” กับ “พี่เป้าสายัณห์ สวัสดีน๊านนาน” นั่งมาเบาะหลัง ได้ขับมาจอดติดไฟแดงเพื่อรอขึ้นไปยังถนนเพชรเกษมสายหลักจะมุ่งหน้าไปกรุงเทพมหานคร ขณะจอดสัญญาณไฟเขียวยังได้พูดคุยกันอย่างสนุกสนานเกี่ยวกับมาพบเพื่อนๆ ที่ จ.ชุมพร จู่ๆ เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดได้มีรถยนต์กระบะขับมาด้วยความเร็วโดยไม่ได้เบรกเลยพุ่งเข้าชนท้ายอย่างแรงจนรถเก๋งตนไถลไปข้างหน้าเกือบ 5 เมตร แล้วรถไปขวางอยู่กลางถนนเพชรเกษมบนช่องทางเลนขาล่องใต้พอดี ซึ่งถือว่าโชคดีมาก เพราะเป็นจังหวะที่ไฟจราจรเปลี่ยนไปเป็นสัญญาณไฟแดงพอดี ทำให้รถยนต์โดยเฉพาะรถบรรทุกใหญ่หลายคันที่วิ่งมาได้ชะลอเพื่อหยุดจอดไฟแดง ไม่เช่นนั้นรถเก๋งตนคงถูกชนซ้ำสองยับทั้งคันอย่างแน่นอน ตนไม่อยากคิดเลยว่าว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก นับว่าโชคดีที่เราทั้ง 4 คน แค่จุกแน่นเคล็ดขัดยอกตามตัวจากแรงกระแทกเท่านั้น

ขณะที่นายบุญชัย ลัทธลาภกุล คนขับรถยนต์กระบะคู่กรณีได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยยอมรับสารภาพว่า ตนเองกลับมาจากทำธุระในตัวเมืองชุมพร เพื่อจะกลับบ้านที่ อ.ท่าแซะ แล้วมีอาการง่วงนอน เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้เกิดวูบหลับในไปไม่รู้ตัวจนเป็นเหตุให้รถพุ่งชนท้ายรถเก๋งของคณะตลกที่จอดติดไฟแดงอยู่เต็มแรง โดยเจ้าหน้าที่ได้พาคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย ไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.ท่าแซะ และเจรจาค่าเสียหายพร้อมกับให้ช่างมาตีราคาค่าซ่อมเป็นเงินประมาณ 8 หมื่นบาท เนื่องจากฝ่ายรถยนต์กระบะคู่กรณีไม่มีประกันภัย ส่วนรถเก๋งของ “จ๊อด เชิญยิ้ม” ทำเพียงประกันภัยประเภทสอง ที่ประกันจะรับผิดชอบซ่อมค่าเสียหายให้เฉพาะคู่กรณีที่เราเป็นฝ่ายผิดไปชนรถคันอื่นเท่านั้น โดยนายบุญชัย ยอมรับผิดพร้อมชดใช้ค่าเสียหายให้ทั้งหมดเบื้องต้นจ่ายให้ก่อน 2 หมื่นบาท ส่วนที่เหลือจะจ่ายให้ครบตามวันนัดหมาย และถูกปรับฐานขับรถประมาทเป็นเงิน 400 บาท ก่อนแยกย้ายกันกลับ