วันนี้ (10 มี.ค.63) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงาน ว่า ศูนย์ปฏิบัติการณ์โต้ตอบภาวะฉุกเฉิน สนง.สาธารณสุข จ.อุดรธานี รายงานการเฝ้าระวังโรคติดเชื้อโคโรนา 2019 หรือ “โควิด-19” ยืนยันยังไม่พบผู้ป่วยหรือติดเชื้อ แต่มีผู้เข้าเกณฑ์มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง หรือสัมผัสกับกลุ่มเสี่ยง มีไข้เข้ารับการตรวจเสมหะรวม 47 ราย รู้ผลแล้วไม่พบเชื้อ 44 ราย รอผลการตรวจ 3 ราย

ส่วนการเฝ้าระวังผู้เดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยง เพิ่มจากเมื่อวานจาก 669 คน เพิ่มเป็น 904 คน โดยมีเพิ่ม เข้า 235 คน โดยเข้าระบบการกักตัวอยู่ที่บ้าน ผ่านการกักตัวเฝ้าดูอาการ 14 วัน จากวันก่อน 211 ราย เพิ่มขึ้นเป็น 272 ราย หรือเพิ่มขึ้น 61 คน และยังมีผู้ที่ยังอยู่ระหว่างกักตัวที่บ้าน เพิ่มจากเมื่อวานนี้ 458 ราย เป็น 632 ราย เพิ่มขึ้น 174 คน โดยไม่ได้รายงานจำนวนผู้ถูกกักตัวอยู่ที่ค่าย ตชด.24 และค่าย อส.อุดรธานี รวมทั้งการตามหาผู้หลบการกักตัว 21 คนที่ สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา

 

 

นายอุเทน หาแก้ว รองสาธารณสุข จ.อุดรธานี แจ้งว่า ได้เตรียมสถานที่เพื่อรับกลุ่มเสี่ยง เข้ารับการสังเกตอาการเบื้องต้น 2 แห่ง ๆ แรก ใน กก.ตชด.24 ค่ายเสนีย์รณยุทธ จัดให้กับผู้หญิง 60 คน เป็นเรือนนอนโล่ง 2 ชั้น รับพักแล้ว 2 คน แห่งที่ 2 ในค่าย อส. สำหรับผู้ชาย 100 คน เป็นเรือนนอนโล่ง รับเข้าพักแล้ว 3 คน โดยจัดเครื่องนอน (ไม่มีเตียง) และอุปกรณ์ชุดใหม่ใหม่ ( ครบ 14 วัน มอบให้กลับบ้าน ), อาหาร 3 มื้อ, WIFI, สามารถพบญาติได้ตามระเบียบ

นอกจากนั้นยังเตรียมสถานที่เพิ่ม หากจำนวนกลุ่มเสี่ยงเดินทางมาเพิ่ม และเกินกว่าจำนวนสถานที่เบื้องต้น ทั้งภายในค่ายพระยาสุนทรธรรมธาดา, ค่ายลูกเสืออุดรธานี, ค่ายฝึกอบรมภูฝอยลม, โรงเรียนไม่ได้ใช้งานกำลังส่งคืนพื้นที่ และมอบหมายให้สาธารณสุขอำเภอ หาสถานที่ในพื้นที่ตนเอง เพื่อเตรียมรองรับสถานที่ของจังหวัดเต็ม อาทิ สถานที่ราชการ, วัด, สถานปฏิบัติธรรม และอื่นๆ

ขณะรายงานสถานการณ์ ในพื้นที่ จ.อุดรธานี วันเดียวกัน “ผู้ว่าห่วงใยใส่ใจประชาชน” ระบุเช่นเดียวกันว่า ไม่มีผู้ป่วยยืนยันในพื้นที่ จ.อุดรธานี ขอให้เจ้าบ้าน สถานพยาบาล คลินิก สถานประกอบการ สถานที่อื่นใด หากพบผู้มีอาการไข้ ไอ จาม มีน้ำมูก ที่กลับจากพื้นที่เสี่ยง ในแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ภายใน 3 ชั่วโมง หรือสายด่วน จ.อุดรธานี 084-4286982 หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 หากไม่ปฏิบัติตามมีโทษปรับ 20,000 บาท

 

 

 

ทางด้าน นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ในที่การประชุมกรรมการโรคติดต่อครั้งก่อน เราได้ให้เพิ่มช่องทางเข้าถึงกลุ่มคน ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ให้ อสม., รพ.สต., อปท. ลงไปในพื้นที่ แล้วเขาก็สมัครใจแจ้งกลับมา โดยนับตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคมจนมาถึงวันนี้ มีลูกหลานชาวอุดรธานีเดินทางกลับจากเกาหลี 5 คน ได้รับการนำตัวไปพักรอกักกันโรค ในสถานที่ปลอดภัย คุณภาพชีวิตที่ดี ทุกคนก็พึงพอใจ ไม่มีใครป่วยถ้าพ้น 14 วัน ก็กลับบ้าน สำหรับกรณีวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา เป็นข่าวว่ามีผีน้อยหลบหนี เรากำลังตรวจสอบว่า ที่บอกว่าอุดรธานีของเรามี 20 คน จริงหรือเปล่า ให้เอาชื่อมากำลังตรวจสอบกัน ถ้ามีจริงเราก็จะไปเชิญตัวมา

ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี ตอบข้อซักถามด้วยว่า จากคำสั่งมหาดไทยให้ทุกจังหวัด ตามหากลุ่มเสี่ยงที่เดินทางเข้ามา ระหว่าง 23 ก.พ.-8 มี.ค. เพื่อพิจารณากักตัวนั้น ก็อยู่ในกลุ่มคนที่กักตัวเองอยู่บ้านแล้ว 669 คน เราดูแลหมดแล้วไม่ได้ไปพลุกพล่านกับใคร ส่วนการเตรียมสถานที่กักตัว 2 แห่งเบื้องต้น อุดรธานีไม่อยากคาดเดาตัวเลข เหมือนกับที่บอกว่าอุดรธานี มีแรงงานกลับมามากที่สุด ไปเอาตัวเลขมาจากไหน เพราะไม่เคยมีการลงทะเบียน แต่เรายินดีรับลูกหลานกลับบ้านทุกคน

นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี เปิดเผยด้วยว่า เรื่องปัญหาข่าวปลอม อุดรธานีจะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ และกฎหมายกำหนดอย่างตรงไปตรงมา โดยขอให้ฟังข้อมูลข้อเท็จจริง จากทางราชการระดับประเทศ และระดับจังหวัด ก่อนจะแชร์ข้อมูลบออกไปสู่สาธารณะ และได้สั่งการไปแล้วให้ตำรวจสืบสวนหาหลักฐานดำเนินคดีทุกราย ใครอยากลองดีก็เอา

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยที่ค่ายฯ กักเฝ้าดูอาการ ผู้เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง 2 แห่งของ จ.อุดรธานี ทาง ศูนย์การค้า ยูดี ทาวน์ และ ศูนย์ประชุม มณฑาทิพย์ ฮอลล์ ได้ให้การสนับสนุนอาหารกลางวัน สำหรับผู้ที่เข้ารับการกักตัว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคเชื้อไวรัส โควิด-19 เป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม-วันที่ 22 มีนาคม 2563