เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ครม. เตรียมพิจารณาแนวทางการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ทั้งทางตรงและทางอ้อมจากกระทรวงต่างๆ


10 มี.ค. 2563, 09:22



ครม. เตรียมพิจารณาแนวทางการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ทั้งทางตรงและทางอ้อมจากกระทรวงต่างๆ




การประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ มีวาระที่น่าสนใจหลายประเด็น รวมทั้งมาตรการที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการรัฐมนตรี เศรษฐกิจ ประกอบด้วย มาตราการทางด้านการเงิน เช่น ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ พักชำระหนี้ ส่วนมาตรการด้านภาษี จะช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เป็นการชั่วคราว เช่น การให้กู้เงิน พร้อมทั้งนำรายจ่ายมาลดหย่อนภาษี กรณีที่จ้างคนทำงานเพื่อไม่ให้ตกงาน เร่งคืน ภาษีมูลค่าเพิ่ม นอกจากนี้ยังมีมาตรการบรรเทาค่าไฟ โดยคืนค่าประกันมิเตอร์ไฟ 3 พันบาท ประมาณ 21 ล้านราย ซึ่งจะทำให้มีเงินกลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเกือบ 3 หมื่นล้านบาท ลดค่าไฟลงไปอีกประมาณ 20 สตางค์ เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เมษายนถึงมิถุนายน ขยายเวลาการจ่ายค่าไฟฟ้าในรอบบิลเดือน เมษายนและพฤษภาคม ให้จ่ายช้าได้ถึง 6 เดือน กับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านพักที่อยู่อาศัย กิจการขนาดเล็กและโรงแรม พร้อมทั้งใช้เงินกองทุนพัฒนาพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประมาณ 4 พันล้านบาท ไปกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากและสู้ภัยแล้ง โดยจะบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ และลดเงินสมทบกองทุนประกันสังคม รวมไปถึงการช่วยเหลือตลาดทุน



การพัฒนาทักษะ สร้างอาชีพ เสริมรายได้ ผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากไวรัสโควิด-19 เช่น มักคุเทศก์ พนักงานโรงแรม ด้วยการอบรมจาก 50 มหาวิทยาลัย โดยเฉพาะสถาบันราชภัฏ ซึ่งผู้เข้าอบรมจะได้รับเงินสนับสนุน 300 บาทต่อวันด้วย

นอกจากนี้ คาดว่า ในที่ประชุมจะมีการหารือถึงการป้องกันการกักตุนหน้ากากอนามัย และการเตรียมกำลังเสริมเพิ่มเติมเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 แบบบูรณาการทุกกระทรวงเพื่อไม่ให้การระบาดเข้าสู่ระยะที่ 3


ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประชาสัมพันธ์โครงการความร่วมมือการรณรงค์ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ปีงบประมาณ 2563 ภายใต้โครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พร้อมประชาสัมพันธ์ ซูเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์ และกระทรวงศึกษาธิการ จัดกิจกรรม ประชาสัมพันธ์ผลงาน “ใช้โค้ดดิ้ง ชนะโควิด”






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.