เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ชมภายใน ศูนย์พักพิงชั่วคราว  กักตัวผีน้อย 14 วัน เพื่อเฝ้าดูอาการ 


9 มี.ค. 2563, 11:33



ชมภายใน ศูนย์พักพิงชั่วคราว  กักตัวผีน้อย 14 วัน เพื่อเฝ้าดูอาการ 





 
ยังคงต้องเฝ้าจับตามองอย่างต่อเนื่อง สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 โรคระบาดที่มีศูนย์กลางจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน จนทำให้ประชาชนชาวไทย ต่างตื่นตัว หลังแรงงานผิดกฎหมายที่เกาหลีใต้ หรือที่เรียกว่า "ผีน้อย" ต้องการเดินทางกลับประเทศไทยจำนวนมาก

โดยที่จังหวัดขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรวมทั้ง อบจ.ขอนแก่น และสาธารณสุขจังหวัด ตรวจสถานที่พักพิงชั่วคราวเพื่อเฝ้าระวังและสังเกตอาการเชื้อไวรัสโคโรนา หรือโควิด 19 ที่อาคารพุทธมณฑลอีสาน ถนนเลี่ยงเมือง อ.เมืองขอนแก่น ที่มีการจัดที่เครื่องนอน ซึ่งมีที่นอน หมอน ผ้าปู ผ้าห่ม และมุ้งครอบไว้จำนวน 40 ชุด รวมทั้งอุปกรณ์ซักล้าง ขันน้ำ ตะกร้า สบู่ ผงซักผ้า ยาสีฟัน และยังตรวจความพร้อมของห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ ด้วย

 



นายสมศักดิ์ จังตะกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ศูนย์เฝ้าดูอาการจังหวัดขอนแก่น ซึ่งมีทั้งหมด 4 ศูนย์ ที่ พุทธมณฑลอีสาน กองร้อยอาสารักษาดินแดน มณฑลทหารบกที่ 23 และสถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ถือว่าขณะนี้มีความพร้อมโดย เฉพาะที่พุทธมณฑลอีสาน ที่ได้รับความร่วมมือจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น เป็นอย่างดี ทั้งที่นอนที่วางมาตรฐานไว้ให้มีระยะห่าง สำหรับที่นอน มีเครื่องนอน เครื่องใช้ประจำตัว เครื่องซักล้าง ได้รับการดูแลอย่างดี รวมถึงเตรียมไวไฟ ไว้ให้สามารถติดต่อสื่อสารได้อย่างสะดวก ติดตั้งทีวีเพื่อลดความตึงเครียด มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด กองร้อย อสจ.ขอนแก่น ก็มีความพร้อม เตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ เจ้าที่ท่องเที่ยวและการกีฬา มาให้คำแนะนำได้ออกกำลัง กาย มีการบำเพ็ญทางศาสนา เพื่อให้ทุกคนได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดทั้งทางร่างกายและจิตใจให้ดีที่สุด

การให้กักตัวเฝ้าระวังเป็นนโยบายชัดเจนจากรัฐบาลกรณีที่ผู้ที่มาจากประเทศเสี่ยง 4 ประเทศและ 2 เมืองจากเกาหลี ใต้ ที่ไม่มีอาการ แต่ถ้ามีอาการรัฐบาลก็จะคักรองเข้าโรงพยาบาล ตั้งแต่ต้นทาง แต่ไม่มีอาการส่งมาทางเราก็จะเข้าสู่ศูนย์พักพิงชั่วคราวเป็นเวลา 14 วัน ขอยืนยันว่ามีการตรวจสอบเป็นระยะ ๆ แม้ว่าจะมาถึงที่นี่ก็จะมีการตรวจเช็คร่างกายก่อนจะเข้าที่พักและตรวจทุกวัน ซักซ้อมเข้าใจจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ซักซ้อมการเตรียมอาหาร การซักล้างจะต้องมีการใช้ชีวิต 14 วันต้องอยู่อย่าง

ทั้งนี้จังหวัดขอนแก่นได้มีการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง มีการรวบรวมข้อมูลผู้ที่เดินทางจากประเทศเสี่ยงจนถึงปัจจุบัน เบื้องต้นมีตัวเลขแล้วประมาณ 350 ราย ทั้งมีการเฝ้าระวังไปแล้วพ้น 14 วันไปแล้ว และการติดตามเป็นระยะ ๆ ด้วย และในระยะนี้ถ้าพบมีผู้เดินทางมาจากประเทศเสี่ยงก็จะดึงตัวทันที เพราะว่าเป็นสิ่งที่ต้องลดความเสี่ยงการแพร่กระจาย ถือว่าเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล และทุกคนต้องช่วยกัน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หน่วยสารธารณสุขในพื้นที่ หากพบใครหลบเลี่ยงเข้ามา ให้แจ้งมาที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด หมายเลข 097-959-6765 ซึ่งเป็นศูนย์ประสานงานตลอด 24 ชั่วโมง ก็จะส่งรถไปรับเข้ามาสู่ศูนย์แห่งนี้ แต่ก่อนจะเข้าศูนย์จะต้องมีการตรวจ ถ้าพบอุณหภูมิสูงผิดปกติก็ต้องถูกนำส่งโรงพยาบาล แต่ถ้าอุณหภูมิปกติ ก็จะเชิญมาที่ศูนย์เฝ้าระวังสุขภาพก่อน

ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า รัฐบาลได้คัดกรองที่สนามบินสุวรรณภูมิ วันนี้มีทั้งหมดมาขอนแก่น 8 คน ที่ผ่านการคัดกรองจากต้นทาง เบื้องต้นไม่มีอาการผิดปกติอุณหภูมิไม่ผิดปกติ แสดงออกมา เป็นระเบียบการปฏิบัติ เมื่อส่งมา ผู้ที่ไม่มีร่างกายผิดปกติ แต่มาจากประเทศเสี่ยงก็ต้องเข้าสู่ศูนย์เฝ้าระวัง เป็นคนในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น 2 ราย นำไปเฝ้าระวังที่โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่นแล้ว ที่เหลือเป็นของจังหวัดใกล้เคียง ที่มารอรับไปเข้าศูนย์เฝ้าระวังของแต่ละจังหวัด ขณะนี้ทุกคนอยู่ในสภาพจิตใจที่เข้มแข็ง

ส่วนกรณี 2 สาวที่โพสต์เที่ยวสถานบันเทิงชื่อดังตะวันแดงฯ ในเมืองขอนแก่น จนมีการปิดและทำความสะอาดนั้น หลังได้รับทราบข้อมูล ได้มีการตรวจเช็คแม้ว่าจะปิดเฟสบุค แต่ก็สามารถตรวจพบได้ ว่าเป็นชาวจังหวัดชลบุรี และอีกคนเป็นชาวขอนแก่น แต่ตอนนี้ไม่ได้พักที่ขอนแก่น แต่ไปพักกับเพื่อนที่จังหวัดเลย ทางอำเภอเมือง ศูนย์เฝ้าระวังโรคติดต่อระดับอำเภอ เจ้าของพื้นที่ จะทำหนังสือด่วนที่สุดไปถึงทั้ง 2 พื้นที่ ที่ทั้ง 2 คนพำนักอาศัยอยู่ เพื่อให้เข้าไปให้คำแนะนำ ในการเฝ้าดูอาการ อย่างไรก็ตามทางอำเภอเมืองได้โทรประสานไปยังทั้ง 2 ราย ทราบเบื้องต้นมีการตรวจเช็คแล้วว่า อุณหภูมิร่างกายเป็นปกติ แต่ก็ต้องขอให้เข้าไปสู่กระบวนการเฝ้าระวังสุขภาพต่อไป

 

 

 

 

 

 


 

 

 

 

 

 






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.