นายศิลป์ชัย วาณิชเจริญ ประธานชุมชนหน้าพระลาน เปิดเผยว่า กลุ่มพวกตนในฐานะกรรมการชุมชนและชาวบ้านธรรมดา รวมทั้งเป็น เกษตรกร ในพื้นที่ ตำบลแม่น้ำ พวกตนเป็นห่วงและมีความกังวและไม่สบายใจ จากที่เรือสำราญได้ทยอยนำนักท่องเที่ยว ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง หากนักท่องเที่ยวนำเชื้อโรคเข้ามายังเกาะสมุย ซึ่งตนไม่แน่ใจว่ากระบวนการระบบการตรวจคัดกรอง ว่าเครื่องมือดังกล่าวมีความแม่นยำได้แต่ไหน และกรณีนักท่องเที่ยวติดเชื้อมา และระยะการที่เชื้อโรคไวรัสโควิด-19 มีการฟักตัว 14 วัน หากสมมุติว่าเรือสำราญเข้าเทียบท่าที่เกาะสมุย ในวันนี้ ผลการตรวจคัดกรองไม่พบผู้ติดเชื้อ แต่นักท่องเที่ยวได้ขึ้นมาบนเกาะสมุยแล้ว และกลับออกไปจากเกาะสมุยแล้ว  และเราจะรู้ได้อย่างไร เพราะว่ามันไม่ได้ตรวจพบเชื้อได้ในเพียงวันเดียว

 

ตนจึงตั้งคำถาม ว่าทำไมที่ภูเก็ต เค้าไม่อนุญาตให้เรือสำราญเข้าเทียบท่า แต่ตรงกันข้ามทำไมที่เกาะสมุย ถึงยังอนุญาตให้เรือสำราญเข้าเทียบท่าอย่างต่อเนื่อง ตนจีงมีคำถามว่า อยากจะให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องและส่วนรับผิดชอบกับเรือสำราญนี้ ได้ออกมาชี้แจงหรือประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับชาวเกาะสมุย แต่ถึงปัจจุบันนี้ ยังไม่มีหน่วยงานไหนออกมาแสดงความปลอดภัยในระบบการป้องกันความปลอดภัยให้กับชาวบ้านและชาวเกษตรกรได้ ทำให้กลุ่มพวกตนมีความกังวล ขณะเดียวกันเกิดความกลัวว่าจะติดโรคดังกล่าวจาก นักท่องเที่ยว ที่เดินทางมากับเรือสำราญ และเสี่ยงต่อการเดินทางไปไหนมาไหน แม้นแต่ไปงานต่างๆ “จนกระทั้งงานศพ ก็เกิดเกรงจะติดโรค” “ซึ่งมันไม่ยุติธรรมกับพวกตนเลยหากพวกตนชาวบ้านและเกษตรกร ไปติดเชื้อมา” จึงฝากวิงวอนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกมายืนยันและประชาสัมพันธ์ ว่าร้อยเปอร์เซ็นต์ นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามากับเรือสำราญ จากประเทศสิงคโปร์ปลอดภัยไม่มีโรคร้อยเปอร์เซ็นต์ ขอให้หน่วยงานที่ดูแลและรับผิดชอบออกมายืดอกรับ ว่านักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ปลอดภัยชัวร์ นายศิลป์ชัย วาณิชเจริญ ประธานชุมชนหน้าพระลาน กล่าว

ด้านนายเทพศักดิ์ สมหวัง รองประธานชุมชนหน้าพระลาน กล่าวว่า ยากจะให้ทางภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ออกมารณรงค์ ประชาสัมพันธ์ สร้างความเชื่อมั่นให้กับกลุ่มภาคประชาชน ในชุมชนเพื่อไม่ให้เกิดความกังวลหรือหวั่นวิตกกับไวรัสโควิด -19 เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ให้กับประชาชนอย่างชัดเจน เนื่องจากประชาชนในชุมชนเองก็ยังขาดความรู้ และรับฟังข่าวสารจากสื่อออนไลน์ หรือทางเฟคนิวส์ จึงทำให้คนในชุมชนเองได้รับข้อมูลข่าวสารไม่ครบทุกด้าน ซึ่งตนเชื่อว่าสถานการท่องเที่ยวบนเกาะสมุย ตนเข้าใจดี แต่ถ้าหากว่ามีการรับคนเข้ามา และนำเชื้อโรคเข้ามาสัก 1 คน แต่สามารถแพร่เชื้อกระจายไปทั้งเกาะเช่นกัน เพราะเกาะสมุย มีพื้นที่เพียง ประมาณ 252 ตารางกิโลเมตร เฉพาะตัวเกาะสมุยเองมีพื้นที่ประมาณ 228 ตารางกิโลเมตร หากเกิดสถานการณ์ขึ้นมา จะทำให้นักท่องเที่ยวที่อยู่บนเกาะสมุยเองก็ต้องหนีออกไปหมดเช่นกัน ดังนั้นตนมองว่าเกาะสมุยเราเองก็ต้องเซฟนักท่องเที่ยวที่อยู่บเกาะเอาไว้ และต้องรักษาคำว่าเกาะสมุยเอาไว้เช่นกัน ส่วนเรือสำราญ ขณะที่มีผลกระทบอยู่ในตอนนี้ จึงอยากฝากให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทบทวนและแก้ไข ในช่วงที่เกิดสถานการณ์ เช่นนี้ 

ขณะที่ นางสาวจุฑามาส มีแสง กรรมการชุมชน หน้าพระลาน เปิดเผยว่า เรือสำราญทำไม่ยังเข้ามาเทียบท่าที่เกาะสมุยได้อย่างปกติ ขณะที่อื่น เค้ามีมาตรการห้ามเข้าเทียบท่า คงมีแต่ที่เกาะสมุยเท่านั้นที่ยังให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวจากกลุ่มเรือสำราญ ซึ่งตนเข้าใจสภาพเศรษฐกิจเกาะสมุย ว่าต้องเลี้ยงด้วยการท่องเที่ยว แต่หากว่าเกิดไวรัสโควิด -19 ติดขึ้นมาสักคน ก็คงจะเดือดร้อนกันทั้งเกาะ และจะทำให้เสียหายไม่เท่าได้ นางสาวจุฑามาส  กรรมการชุมชน หน้าพระลาน กล่าว

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สรุป คือทางคณะกรรมการชุมชน ได้ลงมติกันว่า ในขณะนี้ ต้องงดเรือสำราญเข้ามายังเกาะสมุย ไปก่อน เพราะหากนักท่องเที่ยวมากับเรือสำราญ และติดเชื้อโรคไวรัสโควิด -19 ขึ้นมาสักคน และเเพร่เชื้อทิ้งไว้ให้กับคนในชุมชน หรือชาวบ้านในภาคของประชาชน และ เกษตรกร ขึ้นมา “มันไม่ยุติธรรม สำหรับกลุ่มชาวบ้านที่ไม่ได้เกี่ยงข้องกับการท่องเที่ยว” จึงฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทบทวน หาแนวทางแก้ไข ก่อนที่เกาะสมุยจะสายเกินแก้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งแก้ไขปัญหาเรื่องนี้เเบบเชิงรุก ต้องคิดแล้วทำเลยก่อนที่สถานการณ์จะบานปลาย คณะกรรมการชุมชนหน้าพระลาน ที่ได้ลงมติกัน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว.///