เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 29 ก.พ.63 พ.ต.อ.ชนินทร์  ณรงค์น้อย  ผกก.สภ.เมืองชุมพร  พ.ต.อ.ธานี  นาคหกวิค  ผกก.สส.ภ.จ.ชุมพร พ.ต.ท.ยุทธนา  ทองปาน  สว.สส.สภ.เมืองชุมพร พ.ต.ต.ฐิติณัฐฏ์  ศรีสัง  สว.กก.สส.ภ.จ.ชุมพร ร.ต.อ.หญิง นันทิยา  รักดี  พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจ.ชุมพร ชุดสืบสวนสภ.เมืองชุมพร และเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด ชุดEOD

ควบคุมตัวนายธรรมนูญ  ชุมชนะ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 143 หมู่ 11 ตำบลบ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร ทำแผนประกอบรับคำสารภาพข้อหา “กระทำความผิดฆ่าบุผการี”  ที่บ้านเลขที่ 143/3 หมู่ 11 ช่องเพรียกซอย 1 ตำบลบ้านนา ซึ่งอยู่ห่างจากถนนสายขุนกระทิงตัดสายเอเชีย 41-บ้านถ้ำสิงห์ประมาณ 1 กม.หลังก่อเหตุใช้ปืนยาวขนาด .22 ลูกกรด ยิงนายจรัญ  ชุมชนะ อายุ 73 ปี ผู้เป็นพ่อ จำนวน 3 นัด จนถึงแก่ความตายเมื่อช่วงเย็นวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา

โดยนายธรรมนูญ  ผู้ต้องหาฆ่าพ่อตนเองถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจพันนาการและเดินทางมายังบ้านเกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านของนายจรัญฯผู้เสียชีวิตเอง  มีนางเลื่อม  ชุมชนะ อายุ 83 ปี ผู้เป็นแม่ และชาวบ้านเฝ้ามุงดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมากโดยนำตัวไปชี้ตู้ใส่ปืนใช้สังหารภายในบ้านก่อนนำตัวมาทำแผนบริเวณหน้าบ้านซึ่งเป็นจุดยิงหลังสังหารได้ขับรถจักรยายนต์พ่วงข้างออกจากที่เกิดเหตุ  ขณะเดียวกันด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจห้ามให้ผู้สื่อข่าวบันทึกภาพโดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที ก่อนนำตัวขึ้นรถตู้กลับสภ.เมืองชุมพรทันที

จากคดีดังกล่าวด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่าหลังเกิดเหตุได้ลงพื้นที่เพื่อสอบสวนพยานและเก็บวัตถุหลักฐานในที่เกิดเหตุพร้อมสอบปากคำคนในพื้นที่จนสืบทราบว่าวันเกิดเหตุเวลา 14.00 น.นายธรรมนูญฯผู้ต้องหามีปากเสียงทะเลาะวิวาทกับนายจรัญผู้เป็นพ่ออย่างรุนแรง ด้านพ.ต.อ.ธานี  นาคหกวิค ผกก.สส.ภ.จ.ชุมพร จึงนำตัวสอบเครียดกว่า 5 ชั่วโมง ประกอบกับเก็บหลักฐานจากรอยนิ้วมือ คราบเขม่าดินปืน และพยานหลักฐานอื่นๆจนนายธรรมนูญ จำนนด้วยหลักฐานและสำนึกผิด

โดยรับสารภาพว่า วันเกิดเหตุเวลาประมาณ 15.35 น.ได้ขับขี่รถจักรยายนต์พ่วงข้างออกจากบ้านพักซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพ่อประมาณ 200 เมตร เพื่อไปรับลูกชายที่โรงเรียนและได้แวะหานายจรัญผู้เสียชีวิตเพื่อขอเงินจำนวน 1000 บาท ให้ลูกซื้อขนมที่โรงเรียนแต่นายจรัญไม่ให้เงินแถมด่าทอและถามกลับว่าเงินที่ขายหมากไปไหนหมด ตนบอกว่าใช้หมดแล้ว จากนั้นนายจรัญก็ด่าทอต่างๆนานา  ทำให้ตนทนไม่ไหว จึงเดินเข้าไปหยิบปืนยาวชนิดลูกกรด .22 ซึ่งอยู่ในตู้ไม้ภายในบ้านออกมาแล้วใช้พานท้ายปืนตีนายจรัญบริเวรท้ายทอย จนกระทั่งนายจรัญล้มลง และลุกขึ้นนั่งอยู่บนพื้นปูนหน้าบ้านปากก็ด่าตนอยู่ตลอดเวลา จนตนทนไม่ไหวขึ้นลำปืนจ่อยิงที่บริเวณใบหน้า 1 นัด ล้มหงายทันทีและยิงซ้ำที่ใบหน้าอีก 1 นัด และลำตัวอีก 1 นัด จากนั้นนำปืนไปเก็บใส่ตู้ไว้ที่เดิม

หลังก่อเหตุยิงนายจรัญ แล้วขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างไปรับลูกชายที่โรงเรียนกลับบ้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นต่อมามีเพื่อนบ้านบอกว่าพบนายจรัญล้มนอนจมกองเลือดอยู่หน้าบ้าน นายธรรมนูญผู้ก่อเหตุก็ทำเป็นเนียนโทรศัพท์ไปบอกพี่สาวว่า “พ่อเสียแล้ว” หลังจากนั้นนางเลื่อนแม่นายธรรมนูญผู้ก่อเหตุ เดินทางมาถึงบ้าน นายธรรมนูญสำนึกผิดจึงบอกความจริงว่า “ผมยิงพ่อแล้ว” ทำให้นางเลื่อนเสียใจเป็นอย่างมากถึงกับช็อก  ต่อมาด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดชุมพรเรียกสอบสวนอีกครั้งพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาและตนได้สำนักผิดจึงยอมรับสารภาพ

ด้านนางเลื่อม แม่ผู้ก่อเหตุยิงพ่อตนเอง ให้การว่า ให้ยอมรับเพื่อชดใช้กรรมที่ก่อขึ้นโดยไม่ขอยื่นประกันตัว ส่วนสาเหตุได้ถามลูกชายแล้วบอกว่าทำพ่อทำไม ลูกชายตอบว่า “ทำเพื่อความจำเป็น” คาดว่าเนื่องจากทะเลาะกันบ่อย  นางเลื่อม กล่าว