เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"ฝ่ายปกครอง-ตำรวจ" นำกำลังบุกค้นเรือนจำอำเภอเกาะสมุยหาสิ่งผิดกฎหมาย


27 มิ.ย. 2562, 11:56



"ฝ่ายปกครอง-ตำรวจ" นำกำลังบุกค้นเรือนจำอำเภอเกาะสมุยหาสิ่งผิดกฎหมาย




เมื่อเช้าตรู่วันที่ 27 มิ.ย.62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายณรงค์ หนูคง ผู้บัญชาการเรือจำอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมนายสุทธิพงษ์ ทองเรือ ปลัดฝ่ายป้องกันอำเภอเกาะสมุย พร้อมตำรวจ สภ.เกาะสมุย ตำรวจ สภ.บ่อผุด ได้ทำการปล่อยแถวกำลังเจ้าหน้าที่ ฝ่ายปกครอง ตำรวจ เจ้าหน้าที่เรือจำ และเจ้าหน้าที่สาธารณะสุข อำเภอเกาะสมุย นำกำลังเข้าทำการตรวจสอบค้นภายในเรือนนอน ตู้ล็อกเกอร์ ภายในเรือนอนของเรือนจำ 

 

 

 



เพื่อตรวจหาสิ่งผิดกฑหมาย เช่นยาเสพติด อาวุธ และโทรศัพท์มือถือ โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง โดยจากการตรวจสอบ ภายในเรือจำ พบว่า มีผู้ต้องหา ทั้งหญิงและชายที่ต้องขังอยู่ในเรือจำอำเภอเกาะสมุย จำนวน 1.137 คน แบ่งเป็นผู้ต้องขังชายจำนวน 885 คน แบ่งเป็ญผู้ต้องขังหญิงจำนวน 252 คน ผู้ต้องกักกันชาย 1 ราย ผู้ต้องกักกันหญิง 1 ราย  โดยพบว่าในแต่ละเรือนนอน มีผู้ต้องหาขังอาศัยกันอย่างแออัด เกินอัตรา

 

 


จากการสอบถามข้อมูลพบว่าเรือนจำอำเภอเกาะสมุย รับผู้ต้องหาขังได้เพียง 400 คนเท่านั้น แต่ในปัจจุบัน ผู้ต้องขังเพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างต้องเนื่อง โดยพบว่าผู้ต้องขังส่วนใหญ่ ร้อยละ 80 % เป็นผู้ต้องขังในคดียาเสพติด นอกนั้นเป็นผู้ต้องขังในคดีทั่วไป 

 

 

คลิป

ทั้งนี้จากการตรวจค้นครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นกันทุกจุด ไม่ว่าภายในโถส้วม และโถปัสสาวะ เพื่อหายาเสพติด รวมถึงโทรศัพท์ และจากการจรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด จากนั้นได้ให้ผู้ต้องหาทุกคนทำการปัสสาวะเพื่อให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อำเภอเกาะสมุย ทำการตรวจสอบหาสารเสพติด ซึ่งผลการตรวจสอบปัสสาวะผู้ต้องขังในครั้งนี้ไม่พบผู้ต้องขังมีปัสสาวะสีม่วงแต่อย่างใด 

ด้านนายณรงค์ หนูคง  ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอกาะสมุย กล่าวว่า เรือนจำอำเภอเกาะสมุย มีผู้ต้องขังส่วนใหญ่เป็นนักโทษเกี่ยวกับคดียาเสพติด อย่างไรก็ตาม การสนธิกำลังจู่โจมตรวจค้นในครั้งนี้เป็นไปตามมาตรการด้านความปลอดภัยของกรมราชทัณฑ์ ปี 2 ครั้ง  ซึ่งจากการปฎิบัติ ไม่พบยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมาย ถือว่าเป็นไปตามโครงการเรือนจำสีขาว

 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.