เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตไม้ผล ต.ทุ่งนางาม "ปลูกมะม่วง" ส่งออกจำหน่าย 3 ประเทศ สร้างรายได้ต่อปีเกือบ 10 ล้านบาท


24 ก.พ. 2563, 15:43



กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตไม้ผล ต.ทุ่งนางาม "ปลูกมะม่วง" ส่งออกจำหน่าย 3 ประเทศ สร้างรายได้ต่อปีเกือบ 10 ล้านบาท




วันที่ 24 ก.พ. 63 ชมอีกหนึ่งของดีเมืองอุทัยธานี มะม่วงแปลงใหญ่เพื่อการส่งออก จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตไม้ผลตำบลทุ่งนางาม ที่เกิดจากการรวมกลุ่มของเกษตรกรชาวสวนในพื้นที่ กว่า 666 ไร่ ปลูกมะม่วงกว่า 10 สายพันธุ์ ส่งผลผลิตออกจำหน่ายสู่ 3 ประเทศ สร้างรายได้ต่อปี เกือบ 10 ล้านบาท จนได้รับการจัดตั้งเป็นศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) ประเภทศูนย์เครือข่าย ด้านไม้ผลเพื่อการส่งออก เพื่อเป็นจุดเรียนรู้ในการผลิตมะม่วงเพื่อการส่งออก และเรียนรู้ในการทำการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ทำให้สมาชิกมีการรวมกลุ่มที่เข้มแข็งอีกทั้งยังเป็นการทำการเกษตรแบบปลอดสารเคมี อีกด้วย 

โดย นายไพศาล จันจินดา ประธานแปลงใหญ่มะม่วงเพื่อการส่งออก เล่าว่า ในปี 2559 สำนักงานเกษตรอำเภอลานสัก ได้ยกระดับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตไม้ผลตำบลทุ่งนางาม เป็นแปลงใหญ่มะม่วงเพื่อการส่งออก ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ หมู่ที่ 3 ตำบลทุ่งนางาม อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี โดยการรวบรวมสมาชิกที่ปลูกมะม่วงจำนวน 30 ราย พื้นที่ปลูกมะม่วง 666 ไร่ มีการปลูกมะม่วงหลากหลายพันธุ์ ได้แก่ พันธุ์น้ำดอกไม้สีทอง น้ำดอกไม้เบอร์ 4 โชคอนันต์ แก้วโรงงาน แรด มหาชก ทองดำ ลิ้นงูเห่า ฟ้าลั่น พิมเสน ซึ่งเป็นมะม่วงที่ส่งขายต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี มาเลเซีย นอกจากรับประทานสุกแล้ว ยังสามารถส่งออกขายเป็นมะม่วงผลดิบ เช่น โชคอนันต์ น้ำดอกไม้เบอร์ 4 ไปทำน้ำยำ โดยมีการทำสัญญาซื้อขายและมารับซื้อถึงกลุ่ม หรือล้ง ซึ่งสมาชิกจะนำมะม่วงมารวมกันเพื่อคัดเกรด แบ่งเป็น เกรด A น้ำหนัก 350 – 500 กรัม ต่อผล ผิวสวยไม่ตกกระ เกรด B น้ำหนัก 350 กรัมขึ้นไป ต่อผล ผิวไม่สวย มีกระเล็กน้อย เกรด C น้ำหนัก 230-300 กรัม ต่อผล เก็บเกี่ยวช่วงมะม่วงแก่ประมาณ 90-95 เปอร์เซ็นต์

โดยนอกจากจัดตั้งเป็นแปลงใหญ่แล้วนั้น ยังได้รับการจัดตั้งเป็น ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) ประเภทศูนย์เครือข่าย ด้านไม้ผลเพื่อการส่งออก เพื่อเป็นจุดเรียนรู้ในการผลิตมะม่วงเพื่อการส่งออก และเรียนรู้ในการทำการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ทำให้สมาชิกมีการรวมกลุ่มที่เข้มแข็ง มีการลดต้นทุนโดยการนำเครื่องมือ เช่นรถแอร์บัส มาใช้ในการฉีดพ่นน้ำ พ่นฮอร์โมน ในสวนผลไม้ ลดต้นทุนค่าแรงงาน ประหยัดเวลา เพราะรถแอร์บัสทำงาน  ในพื้นที่ 20 ไร่ ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง เติมน้ำมันเชื้อเพลิงเพียง 5 ลิตร มีการพัฒนาคุณภาพมาตรฐานสินค้า
         
โดยได้รับการรับรอง GAP ทุกแปลง ซึ่งการได้การรับรองมาตรฐาน GAP  ทำให้กลุ่มสามารถส่งมะม่วงออกจำหน่ายต่างประเทศได้ และยังได้รับการฝึกอบรมถ่ายทอดความรู้ในการดูแลรักษาสวนมะม่วงตั้งแต่ หลังการเก็บเกี่ยว ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคม – มกราคม เช่นเป็นการตัดแต่งกิ่ง ราดสารแพคโคลบิวทราโซน เพื่อหยุดยั้งใบอ่อน หยุดไนโตรเจน เพื่อให้มะม่วงออกดอก และใส่ปุ๋ยสูตร 0-52-34, 0-42-56 (ศพก.) สร้างตาดอก การฉีดโปรแตสเซี่ยม เพื่อดึงช่อดอก การห่อผลด้วยถุงคาร์บอน จนถึงการเก็บเกี่ยวในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน 

ในปีที่ผ่านมา กลุ่มมีรายได้จากการจำหน่ายมะม่วงประมาณ 8,000,000 บาท ผลผลิตประมาณ 600 ตัน ปกติจะมีการทำมะม่วงนอกฤดูทุกปี แต่ด้วยปีนี้แล้งมาก จึงไม่สามารถทำมะม่วงนอกฤดูได้ จึงได้แบ่งพื้นที่ประมาณ 5 ไร่ ปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น พืชผักสวนครัว ขุดสระน้ำ เลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ กบ โดยได้มีการนำภูมิปัญญาชาวบ้านมาใช้ด้วย เช่น การนำไส้ปลาหัวปลาที่เหลือใช้มาใส่ถุงแขวนที่กิ่งมะม่วงเพื่อดึงดูดแมลงวันเข้ามาช่วยผสมเกสรมะม่วง และการนำลูกเหม็นใส่ถุงไปแขวนไว้ที่ต้นพุทรา วิธีนี้จะช่วยให้ไม่มีหนอนมารบกวน และไม่ต้องฉีดพ่นยาฆ่าหนอนบนต้นพุทรา เรียกว่าเป็นการทำการเกษตรแบบปลอดสารเคมีจริงๆ 
        
และยังได้เข้าร่วมโครงการชุมชนต้นแบบการทำโคกหนองนาโมเดล ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในปีหน้า พร้อมเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ให้มาเที่ยวชม ชิม มะม่วง และไม้ผลชนิดอื่นๆ ที่ปลูกแซมในสวน เช่น ทุเรียน เงาะ ลองกอง ลำไย มะปราง พุทรานมสด พุทราสามรส และชิมน้ำมะม่วง ก๋วยเตี๋ยวลุยสวนไส้มะม่วง ส้มแผ่นมะม่วง ข้าวเกรียบมะม่วง มะม่วงจี๊ดจ้าด ที่นี่ยังได้เปรียบในด้านภูมิประเทศที่มีภูเขาล้อมรอบ มีอากาศที่เย็นสบาย ใกล้แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติหุบป่าตาด สวนไม้ผลอื่น กลุ่มข้าวอินทรีย์ และมรดกโลกห้วยขาแข้ง อีกด้วย

 



 

 


 

 






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.