เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



สธ. เผย! ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ "โควิด-19" เพิ่ม! ยังคงจับตาเฝ้าระวัง "ผู้ป่วย" ต่อเนื่อง


21 ก.พ. 2563, 12:42



สธ. เผย! ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ "โควิด-19" เพิ่ม!  ยังคงจับตาเฝ้าระวัง "ผู้ป่วย" ต่อเนื่อง




วันที่ 21 ก.พ. 63 นายแพทย์ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวความคืบหน้าสถานการณ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในประเทศไทย ระบุว่าในปัจจุบันนี้มีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่เข้าเกณฑ์สบสวนเฝ้าระวังจำนวน 1,151 คน โดยเมื่อวันที่ 20 ก.พ. 63 มีรายงานเพิ่มเข้ามาถึง 99 คน อาการดีขึ้นกลับบ้านได้แล้ว 939 ราย และยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 210 ราย สังเกตุอาการอยู่ที่บ้านอีก 2 ราย 

ทั้งนี้ ได้มีการขยายวงเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางกลับมาจากประเทศที่มีการระบาดจากเดิมที่มีแค่ประเทศเดียวคือประเทศจีน แต่ขณะนี้ได้เฝ้าระวังผู้ที่เดินทางกลับมาจากประเทศเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และจะฮ่องกง มาเก๊า และไทเปรวมเข้าไปด้วย และได้เริ่มเฝ้าระวังผู้ป่วยปอดบวมไม่ทราบสาเหตุในพื้นที่ 8 จังหวัดที่เคยมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก คือ เชียงใหม่ เชียงราย กระบี่ ภูเก็ต ประจวบคีรีขันธ์ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ และชลบุรี ซึ่งก็จะดำเนินการตรวจวินิจฉัยต่อไป 

 

ในส่วนของผู้ป่วยยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนา ยังคงมีจำนวน 35 คน มีอาการดีขึ้นและกลับบ้านได้แล้ว 19 ราย ยังคงรักษาตัวต่อในโรงพยาบาลอีก 16 ราย อาการรุนแรง 2 ราย

ทางกระทรวงสาธารณสุขได้วางแผนรับมือในระยะที่ 3 ไว้แล้ว จึงขอความร่วมมือประชาชน ช่วยประคับประคองสถานการณ์ไปด้วยกัน ช่วยกัน รักษาสุขภาพ สุขอนามัย และตื่นตัวตลอดเวลา แต่ไม่ตื่นตระหนก 



สำหรับการตรวจเป็นรหัสพันธุกรรม ในช่วงแรกใช้เวลานาน เพราะต้องถอดรหัสพันธุกรรม หลังจากถอดรหัสพันธุกรรม ได้ก็กระจายกรรมวิธีการตรวจ ให้กับหลายที่ ดังนั้น ยืนยันเป็นครั้งที่ 6 ว่า การไม่สนับสนุนให้ตรวจนั้นไม่เป็นความจริง  ขณะนี้สามารถเพาะเชื้อดังกล่าว เพื่อใช้ในการทดสอบ-ทดลองในการตรวจเชื้อได้เพิ่มขึ้น สามารถขยายขอบข่ายการตรวจได้เพิ่มขึ้น 
หากโรงพยาบาลใด มีความพร้อม ก็จะรับรองมาตรฐานกันให้กับโรงพยาบาลนั้นๆ ในการตรวจหาเชื้อได้เอง

นอกจากนี้ ก็สนับสนุนประเทศเพื่อนบ้านด้วย ซึ่งเป้าหมายต่อไป แต่ละจังหวัดจะต้องตรวจเชื้อได้เอง ในการตรวจมีหลายวิธี ตอนนี้ใช้การตรวจเสมหะ โดยเก็บจากด้านหลังจมูกและในคอ ซึ่งเป็นวิธีที่เร็วที่สุด และมีการตรวจเลือด  กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์สามารถเพาะเชื้อในเซลล์ได้แล้วจะทำให้ต่อยอดเรื่องการพัฒนาวัคซีน, ยารักษา ได้มากขึ้น

สำหรับสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ที่มีฤทธิ์ต้านไวรัส ในขณะนี้ ทำการเพาะเชื้อได้แล้ว สามารถวิจัยต่อได้ คิดว่าใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ในการทดสอบความสามารถ จึงจะสามารถทราบได้ว่า สมุนไพรไทยจะใช้ยับยั้ง ป้องกัน และรักษาผู้ติดเชื้อได้หรือไม่


สำหรับกรณี Superspreader ทางสาธารณสุข มองว่า ก็ไม่ได้ต่างจากผู้ติดเชื้อทั่วไปมากนัก แต่ชีวิตประจำวัน ประชาชนของในประเทศเกาหลีใต้มีการสัมผัสกับผู้คนต่างๆ เป็นจำนวนมาก 

ดังนั้น ปัจจัย Superspreader คือ การใช้ชีวิตประจำวันออกไปแพร่เชื้อได้แค่ไหน
ซึ่งจะเห็นว่า ไม่ได้ต่างจากคนทั่วไป ดังนั้นคนไทยที่มีอาการป่วย หรือไม่สบาย ก็ให้ป้องกันตัวเอง ใส่หน้ากากป้องกันคนอื่นๆ ไม่ให้ติดเชื้อ และเลี่ยงพบปะผู้คน

ในกรณีผู้ป่วยรุนแรง 2 ราย  มี 1 ราย ภาพรวมทั่วไป อาการดีขึ้น แต่ก็ยังอยู่ในระดับวิกฤติ อีก 1 ราย อาการทรงตัวอยู่ ขอย้ำว่าทุกฝ่ายพยายามดูแลอย่างเต็มที่ ซึ่งมีเกณฑ์การใช้วิธีการรักษาของผู้ป่วยแต่ละรายอย่างดีที่สุด

 






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.