ผู้สื่อข่าว รายงานว่า วันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563 ที่ฝายบ้านเขาแดงพัฒนา หมู่ 17 ต.ทับช้าง อ.สอยดาว จ.จันทบุรี นายวินนา ศรีสงคราม ผู้ใหญ่บ้านเขาแดงพัฒนา และประธานสหกรณ์โคนมสอยดาว จำกัด ต.ทับช้าง อ.สอยดาว นำผู้สื่อข่าวตรวจสอบฝายบ้านเขาแดง และความเดือดร้อนของชาวสวนผลไม้ใน อ.สอยดาว กับ อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี พบว่า สภาพฝายที่มีความยาวกว่า 3 กม. ตกอยู่ในสภาพแห้งขอด มีน้ำเหลือติดก้นฝายเพียงไม่มาก จากเดิมที่เคยสมบูรณ์ไปด้วยน้ำ แตกต่างไปจากเดิมที่เคยเป็นมาอย่างเห็นได้ชัดเจน ขณะเดียวกันความแห้งแล้งยังทำให้สวนลำไย ผลไม้เศรษฐกิจของ จ.จันทบุรี ซึ่งปลูกกันมากภายใน อ.สอยดาว กับ อ.โป่งน้ำร้อน หลายสวนต้นลำไยเริ่มยืนต้นตายคาสวน ลูกเน่า ผิวลำไยแตกเนื่องขาดน้ำอย่างรุนแรง

 

          นายวินนา เปิดเผยว่า ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่ชาวสวนลำไยใน อ.สอยดาว และ อ.โป่งน้ำร้อน เดือดร้อนที่สุดแล้ว ไม่เว้นแม้กระทั่งวัวนมที่เลี้ยงกันมากใน ต.ทับช้าง ก็เดือดร้อนเช่นกัน เพราะไม่มีแม้แต่ฟางจะกิน ต้องสั่งซื้อข้ามจังหวัดมาเพื่อเลี้ยงวัวนม ซึ่งเป็นผลมาจากฝายบ้านเขาแดงพัฒนา ซึ่งเป็นฝายพระราชทานโดยในหลวงรัชกาลที่ 10 สภาพแทบไม่มีน้ำเหลือ จากเดิมไม่มีเคยขาดน้ำเลย ปีนี้ขาดน้ำเป็นปีแรก เพราะฝนไม่ตกมาเกือบ 3 เดือนแล้ว หลายสวนต้องแก้ปัญหาด้วยการสั่งซื้อน้ำมารดต้นลำไย เพื่อไม่ให้ตายเพราะความแห้งแล้ง ซึ่งราคาน้ำแพงถึง 800 บาทต่อ 1 รถบรรทุก 6 ล้อ ก็ใช้ได้เพียงกับลำไยไม่กี่ต้นเท่านั้น และราคาน้ำ 1 เที่ยว รถ 6 ล้อมี 10,000 ลิตร ใน 1 วัน ลำไย 1 ต้น ต้องการใช้น้ำ 200 ลิตรเป็นอย่างน้อย หลายสวนมีนับร้อยๆ ต้น เนื่องจากแต่ละวันลำไยแต่ละต้นต้องการน้ำถึง 200 ลิตร หากยังเป็นอยู่อย่างนี้ ชาวสวน คนเลี้ยงโคนม ต้องขาดทุนไม่มีเงินใช้หนี้ธนาคารที่กู้มาลงทุนทำการเพาะปลูกกับเลี้ยงวัวนมอย่างแน่นอน จึงขอวิงวอนให้รัฐบาลเก่งแก้ไขปัญหาให้ด้วย

 

​​​​​​