เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ร้อนระอุบนโซเชี่ยล !  เมื่อเด็กรุ่นใหม่ ไม่เชื่อว่า  "ย่าโม"  มีอยู่จริง 


4 ก.พ. 2563, 13:58



ร้อนระอุบนโซเชี่ยล !  เมื่อเด็กรุ่นใหม่ ไม่เชื่อว่า  "ย่าโม"  มีอยู่จริง 




 

เฟสบุ๊ก Mentor Jakkrit ได้แชร์กระแสสังคม จากกลุ่มคนรุ่นใหม่ กลุ่มหนึ่ง ที่ไม่เชื่อว่า ท้าวสุรนารี หรือ ย่าโม มีอยู่จริง  โดยมีการพูดคุยกันในสังคมออนไลน์อย่าง ทวิตเตอร์ว่า “ย่าโมไม่มีจริง” เป็นเพียงเรื่องแต่งขึ้น โดยเจ้าของเฟสบุ๊ก กล่าวว่า

หวนคิดถึงช่วงเรียน ม.ปลาย ที่ครูวิชาภาษาไทย อาจารย์ บรรณศลรรถ ครูศรี พาไปทัศนศึกษาที่บ้านคุณย่าโม แล้วได้พูดคุยกับเหลนท่านตัวเป็นๆ ได้ดูหลักฐานเครื่องราชต่างๆ และฟังประวัติเมืองโคราช จำได้เรื่องว่าวจุฬา ติดปืนดำระเบิดที่เผาเมืองโคราช ตอนขุนบวรเดช

เอะใจคิดอยู่ว่า เด็กรุ่นใหม่โตขึ้น รุ่นแล้วรุ่นเล่า เข้าใจไปว่า คุณย่าโม เป็นนิทานแต่งเหมือนเจ้าหญิงดิสนี่ย์ จากเรื่องจริง เป็นประวัติศาสตร์
จากนั้นกลายเป็นตำนานเล่าขาน ต่อไปคงเป็นนิทานพื้นบ้านในอนาคต

แต่ก็อดคิดว่า เด็กรุ่นใหม่คิดแบบนี้ไม่ผิด หากไม่มีอนุสรณ์สถานหรือบันทึกประวัติศาสตร์ที่ให้เด็กในโรงเรียนโคราชพานักเรียนไปดู
พยานบุคคลของลูกหลานย่าโม ทั้งเด็ก ร.ร.ราชสีมา หรือ ร.ร.สุรนารี แม้มีอนุสาวรีย์คุณย่าโม ไว้ในโรงเรียนก็จริง

แต่ก็อธิบายคนรุ่นใหม่ได้ยากนะครับ ถ้าไม่มีวิชาไหน พาเราไปสัมผัสกับคนใกล้ชิดคุณย่าโมจริงๆ

คำถามคือ เราจะตอบเด็กรุ่นใหม่ สู้กับบรรดานักวิชาการที่ ว่า “วีรสตรีที่ชาวโคราชนับถือ อย่างท้าวสุรนารี เป็นเรื่องแต่ง” อย่างไร???

ถ้าหลักฐานเหล่านั้น หายไปกับความทรงจำของคนรุ่นเก่า ที่นับวันๆอายุก็มากขึ้นแล้วก็สูญสลายไป
 



 

 

 

 

 

 


สำหรับประวัติ คุณย่าโม หรือ ท่านท้าวสุรนารี เป็นชาวเมืองนครราชสีมาโดยกำเนิด เกิดเมื่อปีระกา พ.ศ. 2314 มีนิวาสถานหรือ บ้าน อยู่ตรงกันข้ามกับวัดพระนารายณ์มหาราช หรือ วัดกลางนคร ทางทิศใต้ของเมืองโคราช

คุณย่าโม เป็นลูกสาว คนที่สอง ของนายกิ่มและนางบุญมา มีพี่สาวหนึ่งคนชื่อ แป้นาผล มีน้องชายหนึ่งคน ชื่อ จุก ซึ่งภายหลังน้องชาย ได้เป็นเจ้าเมืองพนมซร็อก ต่อมามีการอพยพชาวเมืองพนมซร็อกมาอยู่ริมคูเมืองนครราชสีมาด้านใต้ จึงเอาชื่อเมืองพนมซร็อกมาตั้งชื่อ บ้านพนมศรก ต่อมาเรียกเพี้ยนเป็น บ้านสก อยู่หลังสถานีรถไฟชุมทางถนนจิระนั่นเอง

เมื่อปี พ.ศ. 2339 คุณย่าโม อายุ 25 ปี ได้แต่งงานสมรสกับนายทองคำขาว สามีเป็นพนักงานกรมการเมืองนครราชสีมา ซึ่งต่อได้เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็น “พระภักดีสุริยเดช” ตำแหน่งรองปลัดเมืองนครราชสีมา คุณย่าโม จึงได้เป็น คุณนายโม หลังจากนั่นอีกไม่นาน สามีคุณย่าได้เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็น “พระยาสุริยเดช” ตำแหน่งปลัดเมืองนครราชสีมา คุณย่าโม จึง ได้เป็น คุณหญิงโม 

ด้วยเหตุที่คุณย่าโม และสามี ไม่มีทายาทสืบสายโลหิต เพราะเป็นหมัน ชาวบ้านเมืองนครราชสีมาทั้งหลายจึงพากันเรียก แม่ แทนตัวคุณหญิงโม มีผู้มาฝากตัวเป็นลูก-หลานกับคุณย่าโม มากมาย ซึ่งเป็นกำลังและอำนาจส่งเสริมคุณย่าโมให้ทำการใด ๆ ได้สำเร็จเสมอ

พุทธศักราช 2369 เจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทน์ เป็นกบฏต่อกรุงเทพมหานคร เจ้าอนุวงศ์ออกอุบายแก่เจ้าเมือง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงให้เจ้าอนุวงศ์เกณฑ์กองทัพเวียงจันทน์ลงมาช่วยทำศึก เจ้าเมืองตามรายทาง เช่น ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ ขอนแก่น สุรินทร์ ขุขันธ์ หลงเชื่อและให้การสนับสนุนเจ้าอนุวงศ์ ยอมให้เดินทัพผ่านโดยสะดวก และมอบเสบียงอาหารให้เพิ่มเติมด้วย จนกระทั่งทัพเวียงจันทน์มาถึงนครราชสีมา ยกกองทัพเข้ามายึดเมืองนครราชสีมากวาดต้อนชาวเมืองและยึดทรัพย์สินจากนครราชสีมา

คุณย่าโม เป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกกวาดต้อนไปด้วย ก็ออกอุบายขอให้ผ่อนให้ควบคุมไปช้า ๆ เพื่อรอให้บรรดาชาวเมืองไปให้ทันกัน ครั้นถึงทุ่งสัมฤทธิ์ คุณย่าโม ร่วมกับ นางสาวบุญเหลือ* และหลวงณรงค์สงคราม หัวหน้าชาวเมือง ได้ใช้กลอุบาย ให้ชาวเมืองเลี้ยงสุราอาหารแก่ทหารลาว  เมื่อทหารเจ้าอนุวงศ์หลงกลกินเหล้าเมายาจนขาดสติเกือบหมดกองทัพ เป็นโอกาสเหมาะ ชาวนครราชสีมา ที่ทุ่งสัมฤทธิ์ทั้งชาย และหญิง ก็แย่งอาวุธโจมตีเข่นฆ่าทหารลาวจนล้มตายเป็นจำนวนมาก ทำให้กอบกู้อิสรภาพ ของเมืองนครราชสีมาสำเร็จ

เมื่อความทราบไปถึง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ในรัชกาลที่ 3 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาคุณย่าโม หรือคุณหญิงโม ขึ้นเป็น ท้าวสุรนารี เมื่อ วันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2370 ซึ่งมีอายุได้ 57 ปี พร้อมกับพระราชทานเครื่องยศ มี ถาดทองคำใส่เครื่องเชี่ยนหมาก 1 ใบ, จอกหมากทองคำ 1 คู่, ตลับทองคำ 3 ใบเถา, เต้าปูนทองคำ 1 ใบ, คนโท และขันน้ำทองคำอย่างละ 1 ใบ

 

 

และอีกหนึ่งความทรงจำที่ประชาชนชาวนคคราชสีมา หรือ ชาวโคราช ไม่มีวันลืม นั่นคือ เมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2524 เวลา 14.00 น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในรัชกาลที่ 9  และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ในโอกาสนี้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในรัชกาลที่ 9 พระราชทานบรมราโชวาทมีความตอนหนึ่งว่า ท้าวสุรนารี เป็นผู้ที่เสียสละเพื่อให้ประเทศชาติได้อยู่รอดปลอดภัย ควรที่อนุชนรุ่นหลัง จะได้ระลึกถึงคุณงามความดีของท่าน บ้านเมืองทุกวันนี้เป็นสิ่งที่ต้องหวงแหน การหวงแหน คือ ต้องสามัคคี รู้จักหน้าที่ ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ชาวนครราชสีมาได้แสดงพลังต้องการ ความเรียบร้อย ความสงบ เป็นปัจจัยสำคัญทำให้ชาติกลับปลอดภัยอีกครั้งหนึ่ง แม้ว่าสถานการณ์รอบตัวเราและรอบโลก จะผันผวนและ ล่อแหลมมาก แต่ถ้าทุกคนเข้มแข็ง สามัคคี กล้าหาญ และเอื้อเฟื้อต่อกันชาติก็จะมั่นคง
 

 

 

 

 






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.