เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



เปิดใจ "ดาว ขำมิน" ดาราตลกชื่อดัง ที่มีปากเสียงกับตำรวจเหตุขับรถเร็วเกินกำหนด


30 ม.ค. 2563, 17:21



เปิดใจ "ดาว ขำมิน" ดาราตลกชื่อดัง ที่มีปากเสียงกับตำรวจเหตุขับรถเร็วเกินกำหนด




วันที่ 30 ม.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากคลิปเหตุการณ์ที่กำลังวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ เมื่อตลกหน้าตาย ดาว ขำมิน ได้ปะทะอาคมเดือดกับตำรวจกาฬสินธุ์ ปมขับรถเร็วกว่ากฎหมายกำหนด โดยตลกดังไม่ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจใบขับขี่และยืนยันไม่ได้ขับรถเร็วจนเกิดการโต้เถียงกัน

 

 

แต่สุดท้ายก็ให้เจ้าหน้าที่ดูใบขับขี่และรับใบสั่งไป โดยเจ้าหน้าที่ดำเนินคดี 2 ข้อหา ฐานขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนดและไม่แสดงใบขับขี่ให้ตรวจสอบ



สำหรับความคืบหน้าดาว ขำมินเปิดใจกับข่าวสดออนไลน์ ถึงเหตุการณ์นี้ว่า

“เหตุการณ์เป็นอย่างในคลิปที่ออกไป ผมไม่ได้เถียงอะไร แค่ขอหลักฐานเท่านั้นเอง คือผมเป็นคนที่ขับรถดูไมล์ตลอด และไม่ใช่คนขับรถเร็ว แล้วปกติเวลาขับรถไปต่างจังหวัด เพื่อนผมจะเป็นคนขับให้ ซึ่งวันนั้นตอนแรกเพื่อนเป็นคนขับ แต่เห็นว่าเขาขับมาไกลแล้ว ก็เลยสลับกับเพื่อนมาขับเอง”

“จริงๆ เรื่องไม่มีอะไรเลย ผมแค่ขอหลักฐานเขาเท่านั้นเอง เพราะผมมั่นใจว่าผมไม่ได้ขับเร็ว คือระหว่างทางจะมีรถอีกคันที่ขับตามกันมา ซึ่งขับห่างจากรถที่ผมขับ ประมาณช่วงหนึ่ง แล้วเขาก็เพิ่งขับแซงไป แต่พอไปถึงด่านกลายเป็นว่ารถผมถูกเรียก แต่รถคันหน้าไม่ถูกเรียกจับความเร็ว”

 

 

“ผมก็ถามเขาว่าทำไมคันหน้าถึงไม่โดน เขาก็ตอบว่ากล้องจับได้แค่รถคันผม ผมเลยบอกว่าให้เอาหลักฐานมาดู ยอมรับครับว่าตอนนั้นมีอารมณ์โมโหอยู่แล้ว คือผมจะไม่รู้สึกโกรธเลย ถ้าเขาไม่พูดว่ากล้องจับไม่ได้ทุกคัน แต่จับได้คันผม กล้องทำงานไม่ดี แต่คนทำงานดี”


เมื่อถามว่าหลังจากที่มีคลิปนี้ออกไป มีกระแสกลับมาหาเราอย่างไรบ้าง ดาวกล่าวว่า “ผมเพิ่งทราบครับ แต่ก็ไม่ได้อะไร เพราะว่าเพื่อนผมเป็นคนไลฟ์สดในเฟซบุ๊กของเขา ซึ่งผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเพื่อน และก็รู้ว่าเขาไลฟ์สด อีกเรื่องนึงที่เขาบอกว่าผมไม่ยอมให้ใบขับขี่ ไม่จริงครับ ผมให้ใบขับขี่เขาไป แล้วในคลิปก็จะได้ยินเจ้าหน้าที่อีกคนบอกให้ออกใบสั่งไปตามใบขับขี่ แต่เจ้าหน้าที่อีกคนก็ไม่สนใจ”

เมื่อถามว่าตอนนั้นจำได้ไหมว่าขับรถความเร็วอยู่ที่เท่าไหร่ ดาวเผยว่า “ยังไงก็ไม่เกิน 90 กม./ชม. แต่เขาบอกว่าผมขับเร็วอยู่ที่ 110 กม./ชม. ซึ่งเขาก็ให้ดูหลักฐานในกล้องมือถือของเขา แต่ผมไม่ได้ ในเมื่อเขามีหลักฐาน ผมก็ยอมรับผิด เพราะผมแค่อยากเห็นหลักฐานเท่านั้นเอง คืออันนี้ไม่ได้ต้องการที่จะโจมตีตำรวจ แต่ผมก็เคยดูคลิปจากหลายคนๆ ที่เขาโดนประมาณว่าอุปกรณ์ไม่ครบ หรือประกอบผิดประเภทอะไรประมาณนี้ แต่สำหรับผมโดนเรื่องตรวจจับความเร็ว ซึ่งผมก็ถามเขาว่าทำไมคันหน้าผมไม่โดน เขาไม่มีคำตอบให้ผม แต่ก็ไม่เป็นไรครับ เขามีหลักฐานก็คือจบ คือผมเข้าใจเขาในความไม่เข้าใจของผม”






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.