เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



 ธงชัย ประสงค์สันติ กราบขอโทษแฟนละคร  หลังย้ายออกจาก ช่อง7


29 ม.ค. 2563, 14:54



 ธงชัย ประสงค์สันติ กราบขอโทษแฟนละคร  หลังย้ายออกจาก ช่อง7




 


 ธงชัย ประสงค์สันติ ตั้งโต๊ะแถลงข่าว กรณี บริษัท พอดีคำ โบกมือลา ช่อง7  เพื่อไปซบช่องวัน  โดยได้กล่าวขอโทษแฟนช่อง7  และรู้สึกเสียใจมาก ที่ต้องไป โดยให้เหตุผลว่า บริษัทต้องขยาย ต้องพัฒนา ยกบริษัทให้ลูกชายบริหารด้านละครทั้งหมด  

ธงชัย : "ผมขอเล่าให้ฟังก่อน อย่างที่เป็นข่าวมาผมไม่ได้เกิดความสบายใจเลย เราก็รอ จนพี่ๆ เขาบอกว่าพี่ธงต้องออกมาพูดแล้ว ทุกคนอยากรู้แล้ว เบื้องต้นขอบอกว่าเราไม่ได้มีปัญหากับทางช่องเลย เรารู้สึกขอบคุณทางช่อง 7 มากๆ ที่ให้โอกาสกับพอดีคำ ตั้งแต่ยุคคุณแดง (สุรางค์ เปรมปรีดิ์) ถึงปัจจุบัน เราถือว่าเราได้รับโอกาสที่มีเกียรติอย่างมากที่ได้ทำละคร เพราะมันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย และต้องชื่นชมทีมของช่อง 7 เป็นทีมที่แข็งแรง และเป็นทีมที่เก่งมาก และผลักดันให้พอดีคำ เดินทางมาได้ไกลมาก มันเป็นทั้งความรักความผูกพัน แต่วันใดวันนึงด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่มีรักก็ต้องมีจาก แต่ก็ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรกันเลย เราจากกันด้วยดีครับ"

"ผมเรียนตรงๆ เหตุผลที่ไป เพราะว่าลูกชายผมมาทำซีรีส์ ภาระกิจรัก มาทำ มธุรสโรกัน เขาก็มาพร้อมกับเครื่องมือใหม่ๆ และความคิดใหม่ๆ ผมก็ตกใจมาก และผมก็ได้ทำบริษัท บัฟฟาโล ฟิล์ม จำกัด ทำภาพยนตร์เรื่อง เลิฟยูคู่อีเกิ้ง ผมได้เห็นมุมมองของลูกชายและคนรุ่นใหม่จริงๆ มันไปไกลมากนะ เขาก็เริ่มเอาละครวายมาให้ผมดูบ้าง และพอดีคำก็มีคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานเยอะ การแข่งขันก็สูงขึ้น แบบฟอร์มต่างๆ ก็เกิดขึ้นมากมาย และผมเองก็อายุเยอะแล้ว จริงๆ ผมเป็นคนอ่อนไหวนะ ก็คิดว่าถึงเวลาที่จะต้องให้ลูกของเราเข้ามาบริหารแล้ว มันเป็นยุคของคนรุ่นใหม่ เพราะมันมีอะไรอีกมากมายที่เราทำไม่ได้ พ่อมีแค่ประสบการณ์นะ ลูกเขาก็มีทีมคนรุ่นใหม่ๆ เข้ามาทำ"

"สังเกตว่าหลังๆ ภาพของพอดีคำจะดูดีขึ้น การจัดเรียงระบบละคร ความฟินก็จะมีมากขึ้น พ่อก็อาจจะลีลาหน่อยกว่าจะจีบกัน (หัวเราะ) พอมีลูกและทีมคนรุ่นใหม่เข้ามา มันทำให้เราเห็นว่ามันต้องขยายงาน แล้วต้องไปให้ไกล ให้สุดโต่ง ฝันของผมคืออยากทำหนังสักครั้งนึง เพราะเราเริ่มมาจากหนังลูกอีสาน สุดท้ายก็มาทำละคร ก็เลยมาเปิด บัฟฟาโล ฟิล์ม ด้วยเงินส่วนตัว และเรียนรู้ไปพร้อมๆ กับลูก ทำให้เรากลับมามองตัวเอง และรู้ว่าเราต้องค่อยๆ วางมือแล้วล่ะ และให้คนรุ่นใหม่เข้ามาทำงาน"

"ซึ่งทั้งหมดที่พูดมามันคือภาพรวม คือพอดีคำมีคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงาน มอบให้รุ่นลูกและทีมใหม่ๆ เข้ามาทำงาน และทีมงานเก่าก็ยังอยู่ที่จะช่วยๆ กันไป เราพร้อมที่จะพัฒนาให้ไปพร้อมกัน ที่ผ่านมาบ้านเมืองเราก็เปลี่ยนแปลงไปเยอะ โดยเฉพาะความรู้ผมไม่ค่อยมีอะไร มีแต่ความตั้งใจ ความรักในอาชีพ และธงชัยก็เป็นคนสู้งานมาตลอด เรียนรู้งานมาโดยตลอด แต่พอมาถึงวันนึงเอาเข้าจริงๆ มันไม่พอ คนรุ่นใหม่เขามีมุมมองที่แข็งแรงกว่าเรา แต่เขาก็ต้องอาศัยฐานเดิม เราก็เลยต้องการที่จะขยับขยาย และเปลี่ยนมุมมองของพอดีคำ แต่เรายังยืนยันว่าเรายังรัก และคิดถึง เคารพช่อง 7 มากๆ และขอบคุณช่อง 7 ที่ให้โอกาสเรา และทำให้เราแข็งแรงจนมาถึงตรงนี้"

บอกแทบไม่ได้อ่านคอมเมนต์เลย เพราะเป็นคนอ่อนไหวกับเรื่องพวกนี้
ธงชัย : "ผมอ่อนไหวนะ ภรรยาและน้องๆ ก็บอกว่าอย่าไปอ่านคอมเมนต์นะ มันเยอะแยะมากเลย (หัวเระา) ดาราที่โดนไปก่อนหน้านี้ เราก็มานั่งคิดว่ามาถึงเราแล้วเหรอ มีผู้จัดด้วยเหรอ ผมอยากจะบอกแฟนๆ ละครว่างานทุกชิ้นเรากลัวผิดพลาด เรารัก เราตั้งใจ เราใส่ทุกอย่างลงไปในนั้น แต่พอวันนึงมันต้องมีการเปลี่ยนแปลง ผมรู้สึกหวั่นไหวมากกว่าคุณอีก เพราะผมเห็นตัวละครทุกตัว เห็นการทำงานทุกขั้นตอน ปลายทางที่คุณได้ชม คุณยังรัก แล้วทำไมผมจะไม่รัก"

"เราก็โดนตำหนิบ้าง โดนด่านั่นแหละ ก็ไม่เป็นไร รับได้ จะได้มีสติ บางทีคำหวานคำชม เราไปหลงกับมัน เราอาจจะไปง่ายกว่าปกติ มันก็ดีจะได้บาลานซ์กัน แต่ผมรักแฟนๆ มาก เพราะว่าผมมาจากตัวเล็กๆ ไม่คิดว่าจะมาถึงตรงนี้ ไม่คิดว่าจะมีคนเข้าใจ รักในความเป็นพอดีคำ รักในการเป็นครอบครัวธงชัย เราดีใจมาก สิ่งที่อยู่ข้างหน้าผมมันยากยิ่งกว่าสิ่งที่ผมอยู่ ณ ตอนนี้ ผมต้องไปต่อสู้อีก ตอนนี้ผมเหมือนครูบ้านนอกที่ย้ายไปอยู่ในเมือง แล้วต้องไปเจอเด็กอินเตอร์ (หัวเราะ) มันต้องเป็นแบบนั้น ไม่งั้นบริษัทผมหาย ผมก็ต้องต่อสู้เพื่อให้งานขยายออกไปให้ได้เยอะ"

"ผมยังอยากทำเรื่องเพลง ซึ่งทุกคนก็รู้ว่าตอนนี้เรื่องค่าลิขสิทธิ์เพลงมันชัดเจนมาก ด้วยความที่เราเคยเป็นพิธีกร เราอยากทำพิธีกร ด้วยความที่เราเล่นละคร เราก็อยากทำละครเวทีบ้างถ้ามีโอกาส แล้ว บัฟฟาโล ฟิล์ม ในที่ใหม่ที่ผมจะไปเขาก็ยินดีที่จะร่วมและสนับสนุนกับงานหนังที่ผมทำ เป็นโปรเจกต์ๆ ก็ได้ อันนี้เป็นอะไรที่ผมมีความสุขส่วนตัวที่ได้ทำหนัง”

เผยก่อนจะออกมาจากช่อง 7 ได้มีการบอกกล่าวผู้ใหญ่และเคลียร์ทุกอย่างกันเรียบร้อยหมดแล้ว
เก๋ : "เรื่องนี้เราได้คุยกันมาหลายครั้งแล้วนะคะ ถ้าเกิดเราลองย้อนไปเมื่อปีที่แล้วก็จะมีช่วงจังหวะนึงที่คนจะสงสัยว่าทำไมพอดีคำไม่เปิดละคร ทำไมเงียบไป นั่นเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างนานพอสมควร อันนี้แหละค่ะที่เป็นช่วงจังหวะที่เราเคลียร์ และเราได้คุยกับทางช่อง 7 ซึ่งช่อง 7 ก็ให้เกียรติและเคารพการตัดสินใจของเรา เพราะฉะนั้นเราคุยกันเรียบร้อยและเราก็เคลียร์เรียบร้อย พูดง่ายๆ ว่าเราไม่ได้คบซ้อน เราทำเป็นสเต็ป คือเคลียร์กับทางนี้เรียบร้อยแล้วเราค่อยก้าวออกมา แล้วก็มาทำอีกที่นึง และอีกที่นึงเราก็เป็นฝ่ายเข้าไปหา และไปพูดคุย ขอตอบได้เลยค่ะว่าไม่มีการซื้อตัวใดๆ ทั้งสิ้น และทั้งสองที่รู้ดีว่ามันคืออะไร เพราะเราอยู่กับช่อง 7 มานาน เ​รา​รักนะคะ ก็คือบ้านหลังหนึ่งของเรา อะไรที่เราทำได้เราจะทำให้ทุกอย่าง แต่อันนี้เหมือนเราเคลียร์คัตเป็นสเต็ปๆ ทุกอย่างชัดเจนมาก"

ธงชัย : "ก็เป็นรอยต่อระหว่างคนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามา รุ่นลูกผมก็คือคุณแผ่นดิน กับบริษัท บัฟฟาโล่ มันก็เป็นจังหวะพอดีกัน เรียกว่าเป็นจังหวะที่เปลี่ยนรุ่นในการบริหาร และเราก็อยากขยับขยาย โอกาสที่มีมันก็ไม่ได้มาก เราก็อายุเยอะแล้ว จริงๆ ก็วางรากฐานให้ลูกแหละถ้าพูดตรงๆ เลยนะ เขาจะได้สืบต่อ ถามว่ามีเหตุผลอื่นอีกไหม ไม่มีเลย มันเป็นเรื่องภายในที่เราเคลียร์กันน่ะ เคลียร์กันตรงๆ ว่าเราอยากขยับขยายและเราก็ต้องไป"

เชื่อลูกชายสามารถต่อยอดให้กับบริษัทได้อีกมาก และการทำงานกับช่องวันอาจจะเป็นแค่งานที่ทำให้ตนได้คลายเหงาก็ได้

ธงชัย : "เขาต้องไปได้ไกลกว่านี้อีกครับ เราคิดอย่างนั้นนะ โอกาสที่จะกลับมาก็มีอยู่นะครับ และผู้จัดใหม่ๆ เขาก็มีเยอะแยะมากมาย คือผมต้องชื่นชมว่าช่อง 7 เป็นทีมที่แข็งแรงมาก คนอาจจะไม่รู้นะ งานละครชิ้นนึงที่ทำออกมาได้ไม่ใช่แค่บริษัทของผู้จัดที่ทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว ทีมงานข่อง 7 ผู้บริหารนี่ต้องชมเลยว่าเขาแข็งแรงมาก ในแต่ละสถานีก็จะมีคาแรคเตอร์ของตัวเองอยู่แล้ว ถามว่าช่อง 7 มียื้อไหม ก็มีแหละครับ เหมือนแฟนละครแหละ ใจหาย ต่างคนก็ต่างใจหาย เราก็ใจหาย เขาก็ใจหาย แต่ว่ามันต้องไป มันต้องขยับขยาย เรื่องของอนาคตของคนรุ่นใหม่ ของพอดีคำด้วย และทีนี้ทึ่ผมไปเขามีอะไรที่ให้ผมทำพอสมควร"

"คือตอนนี้ผมคุยกับช่องวันครับ ผมก็อาจจะได้กลับไปทำพิธีกร และงานละครก็อาจจะเป็นลูกๆ หรืออะไรก็ว่าไป ผมก็อาจจะคลายเหงาของผม (หัวเราะ)​ อาจจะทำเล็กๆ หรืออาจจะไม่ทำเลยก็ได้ ผมอาจจะอยู่ห่างๆ ที่เหลือก็อาจจะเป็นภรรยากับลูกๆ ที่เขาจะทำ ผมก็อาจจะไปเน้นที่บัฟฟาโล่ ฟิล์ม ตอนนี้ก็อย่างที่รู้คือเลิฟยูโคกอีเกิ้งที่กำลัง​ถ่ายทำอยู่ ขบวนการในการพูดคุยก็เริ่มคุย มีหัวข้อโน่นหัวข้อนี้ แต่รายละเอียดยังไม่ได้เกิดขึ้น ถ้าทุกคนอยากได้คำตอบว่ารายละเอียดเกิดขึ้นยังไง รอแป๊บนึง ผมอยากให้ฟังจากปากผู้บริหารของช่องวันเอง ก็คือคุณถกลเกียรติและพี่ป้อน (นิพนธ์ ผิวเณร) เราก็เคยทำงานตั้งแต่สมอลทอล์ค และเล่นละครนิยายรักภาค2 สมัยนั้นนะ มันต่างกันมากเลยนะ ก็ลองดูครับ มันจะได้มีวิธีการทำงานอีกแบบนึง"

ยันไม่ได้มีเรื่องน้อยใจใดๆ และไม่ใช่เพราะไปร่วมงานกับ "คุณแดง สุรางค์ เปรมปรีดิ์" อย่างที่มีข่าว
ธงชัย : "ผมยืนยันว่าไม่มีอะไรกันจริงๆ พอถึงจุดๆ นึงทุกคนต่างเข้าใจซึ่งกันและกัน ผมอยากให้มองภาพรวมของวงการบันเทิงว่าตอนนี้มันเป็นยังไง ทุกคนต่างเข้าใจซึ่งกันและกันครับ"

เก๋ : "เรื่องเสนออะไรไม่ผ่านไม่จริงเลยนะคะ เพราะว่าช่อง 7 อยากให้เรานำเสนอด้วย และต่างคนต่างนำเสนอกัน อะไรที่โอเคที่สุดเราก็ทำสิ่งนั้น เรารับทุกอย่าง คือเราทำงานตามออเดอร์จริงๆ แล้วแต่ช่องจะสั่งมาเลย แต่ถ้าเรามีอะไรดีๆ ไปเสนอช่อง ช่องก็แฮปปี้ เราทำงานเข้าขากันมากเลยค่ะ เรื่องที่ว่าช่อง 7 ต่อว่าพี่ธงว่าไปทำงานให้กับคุณแดง ไม่มีเลยค่ะ เพราะหลายปีที่ผ่านมาเราทำงานกับช่อง 7 ที่เดียวเลย"

ธงชัย : "เรื่องคุณแดงนี่ผมขอเรียนตรงๆ ว่าผมยังรักและเคารพท่านมาก ก็จะมีไปเล่นกอล์ฟวันเสาร์เป็นเพื่อนท่านเท่านั้นเอง คุณแดงก็ยังให้ความห่วงใยผมมาก บอกพูดน้อยๆ นะธง อย่าพูดเยอะ จริงๆ นะคุณแดงสั่งมาเลยว่าพูดน้อยๆ ไม่มีอะไรเลย ในส่วนใจก็เข้าใจ แต่ในส่วนที่ต้องไปเราก็ต้องไป มันก็ต้องเป็นอย่างนั้น แกเป็นห่วงช่อง 7 มากนะ และเป็นห่วงผมมาก แกบอกว่ายังรัก คือผมจะเจอกับคุณแดงก็คือไปตีกอล์ฟ ผมก็เล่นไม่ค่อยเก่งหรอก ก็ไปเดินเป็นเพื่อนคุย ผมก็ยังชื่นชมว่าคุณแดงยังทำงานในวงการบันเทิงและเป็นคนเก่งมากเลย"

บอกยังไม่มีการเซ็นสัญญาใดๆ แต่รอให้ "บอย ถกลเกียรติ" ออกมาบอกเองดีกว่า
ธงชัย : "ทั้งหมดยังไม่มีอะไร เป็นแค่การคุยเบื้องต้น เอาของมาคุยกัน อยากได้แบบไหน แต่ยังไม่ถึงขั้นตอนนั้น ถ้าคุณอยากได้รายละเอียด อยากให้รอคุณบอยจะชัดเจนกว่าผมเยอะ พูดตรงๆ ว่าผมกลัวถ้าพูดอะไรไปแล้วมันจะบิดพลิ้วไปทางอื่น รอคุณถกลเกียรติ รอพี่ป้อน ซึ่งถามว่าวันที่บวงสรวงละครสะใภ้อิมพอร์ตก่อนหน้านี้ ช่วงบ่ายผมได้เข้าไปคุยกับพี่ป้อนไหม คือมันไม่ได้ตั้งใจให้เป็นอย่างนั้นเลย ละครจะออนแอร์แล้วเรายังไม่ได้บวงสรวง เรานัดนักแสดงถัดมาอีกวันนึงก็ได้แค่พระเอกกับนาง​เอกเท่านั้นเอง และวันนั้นเป็นวันที่ถ่ายที่นั่นเลย เราก็เลยถือโอกาสไปบวงสรวงที่นั่น ไม่ได้มีเจตนาว่าจะหลบลี้หนีอะไร ไม่มีเลยครับ ธงชัยชอบเผชิญอยู่แล้วครับ ที่อยู่ได้เนี่ยเพราะเผชิญความจริงนะ ที่อยู่ได้เพราะความตั้งใจ ความพร้อมจะต่อสู้สิ่งที่มันเกิดขึ้น"

"ถามว่าการพูดคุยทุกอย่างลงตัวแล้วใช่ไหมกับช่องวัน ก็ยังครับ คุณได้คำตอบนี้แน่นอน แต่ผมอยากให้ได้คำตอบที่ชัดเจนและมั่นคงอย่างที่คุณอยากได้ต้องจากคุณบอยและพี่ป้อนเท่านั้นแหละครับ ซึ่งก็อาจจะไม่นาน และที่ข่าวว่ามีสัญญาว่าเราจะต้องทำงานให้กับทางช่องวันอย่างเดียว ก็คงเพราะว่าจะจับมือกัน แต่ยังไม่ลงรายละเอียด แต่ ณ ตอนนี้ถามว่าผมเป็นพนักงานคนนึงของช่องวันหรือยัง ก็ยังครับ อันนี้ผมยังไม่แน่"

เก๋ : "เรายังเป็นพอดีคำค่ะ ยังเป็นลักษณะเหมือนที่เราทำกับช่อง 7 ไม่ใช่อย่างที่ข่าวว่าเรามีภาษีเท่าๆ กับพี่ปุ๊ย (ผอูน จันทรศิริ) หรือกับ พี่สันต์ ศรีแก้วหล่อ มันคนละเรื่องกันเลยค่ะ มันไม่เกี่ยวกัน"

ธงชัย : "ให้ฟังจากคุณบอยดีกว่า เดี๋ยวจะบิดพลิ้วไปที่อื่น"

เก๋ : "เราก็มีอิสระในการทำงานปกติค่ะ"

ธงชัย : "แต่ว่าการทำงานเราจะกว้างขึ้นเท่านั้นเอง เขาอยากให้เราช่วยเสนอรายการ หรือซิตคอมที่เราอยากทำ ผมเคยทำพวกโคกคูนตระกูลไข่ เคยทำอะไรแบบนี้ เขาก็อยากให้มีมุมอะไรแบบนี้บ้าง"

เผยตนไม่เคยบอกใครเลยว่าจะออกจากช่อง 7 แถมโดนตำหนิด้วยซ้ำว่าต้องให้รู้จากข่าว
ธงชัย : “ผมเรียนตรงๆ ว่าผมรักช่อง 7 และเคารพช่อง 7 มาก ดาราที่ผมสนิทด้วยทุกคน ไม่มีการปริปากได้ยิน



 

 

 

 

 

 


 






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.