เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



รอดหรือไม่ ! ศาลฎีกาตัดสินชี้ชะตา “สรยุทธ-บ.ไร่ส้ม” คดีทุจริตค่าโฆษณา อสมท.


21 ม.ค. 2563, 09:32



รอดหรือไม่ ! ศาลฎีกาตัดสินชี้ชะตา “สรยุทธ-บ.ไร่ส้ม” คดีทุจริตค่าโฆษณา อสมท.




วันที่ 21 ม.ค. 63 เวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา นักจัดรายการชื่อดัง เดินทางถึงศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีทุจริตค่าโฆษณา อสมท. หลังศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้นจำคุกคนละ 13 ปี 4 โดยก่อนหน้านี้ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุก 

ทั้งนี้ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 2 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พิชชาภา เอี่ยมสอาด หรือ ชนาภา บุญโต พนักงานจัดทำคิวโฆษณาของ บมจ.อสมท, บจก.ไร่ส้ม โดย อังคณา วัฒนมงคลศิลป์ และ สุกัญญา แซ่ลิ่ม ในฐานะกรรมการผู้จัดการ บจก.ไร่ส้ม, สรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตพิธีกรรายการข่าวชื่อดัง และ มณฑา ธีระเดช อายุ 45 ปี พนักงาน บจก.ไร่ส้ม เป็นจำเลย 1-4 ในความผิดฐานเป็นพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งหน้าที่ ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่, เป็นพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่องค์กร, เป็นพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และสนับสนุนพนักงานกระทำความผิดดังกล่าว ตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 ม.6, 8,11 กรณีถูกกล่าวหายักยอกเงินค่าโฆษณาเกินเวลาในรายการ ‘คุยคุ้ยข่าว’ ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 กว่า 138 ล้านบาท



โดยศาลนัดฟังคำพิพากษาฎีกาในวันที่ 21 มกราคม 2563 เวลา 10.00 น. ณ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถนนนครไชยศรี ซึ่งตามขั้นตอนเมื่อจำเลยทั้งหมดได้รับหมายศาลแจ้งวันนัดแล้ว ต้องเดินทางมาฟังคำพิพากษาตามนัด นอกจากหากมีเหตุจำเป็นหรือเจ็บป่วยฉุกเฉินกะทันหัน ต้องมอบหมายให้ทนายความยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขออนุญาตเลื่อนนัดฟังคำพิพากษาไปก่อน

คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2548 ถึง 28 เมษายน 2549 เมื่อ พิชชาภา พนักงานจัดทำคิวโฆษณาของ บมจ.อสมท จำเลยที่ 1 ได้จัดทำคิวโฆษณารวมในรายการ ‘คุยคุ้ยข่าว’ ซึ่งก่อนออกอากาศ พิชชาภาใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริตไม่รายงานการโฆษณาเกินเวลาเพื่อเรียกเก็บค่าโฆษณาเกินเวลาจาก บจก.ไร่ส้ม จำเลยที่ 1 จำนวน 17 ครั้ง ทำให้ บมจ.อสมท เสียหาย 138,790,000 บาท และยังได้เรียกรับเอาเงิน 658,996 บาทจากจำเลยที่ 2-4 เพื่อเป็นการตอบแทนที่พิชชาภาไม่รายงานการโฆษณา การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่มิชอบด้วยหน้าที่และเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ บมจ.อสมท โดยมีจำเลยที่ 2-4 เป็นผู้สนับสนุนช่วยเหลือ ให้ความสะดวกในการกระทำผิด และมอบเช็กธนาคารธนชาติ สาขาพระราม 4 สั่งจ่ายเงินให้พิชชาภา


ต่อมาเมื่อ 29 กุมภาพันธ์ 2559 ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้พิชชาภา อดีตพนักงาน บมจ.อสมท จำเลยที่ 1 จำคุกเป็นเวลา 20 ปี สำหรับสรยุทธและมณฑา จำเลยที่ 3-4 ก็จำคุกคนละ 13 ปี 4 เดือน และเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2560 ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนให้ลงโทษตามศาลชั้นต้น

โดยครั้งนั้นนับรวมเวลาตั้งแต่ศาลมีคำพิพากษาและไม่อนุญาตให้ประกันตัว เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม สรยุทธและจำเลยคนอื่นต้องใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำรวม 16 วัน โดยมีเพื่อนๆ ในวงการข่าวและดาราทยอยเข้าเยี่ยมอยู่ตลอด หนนี้จึงต้องลุ้นฎีกาว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร และนั่นหมายถึงเดิมพันเส้นทางชีวิตของพิธีกรชื่อดังอีกด้วย






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.