เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ศึกแย่งลูก! เมียที่โดนผัวจับได้ว่ามีชู้  ไม่ยอมยกลูกให้  


14 ม.ค. 2563, 14:16



ศึกแย่งลูก! เมียที่โดนผัวจับได้ว่ามีชู้  ไม่ยอมยกลูกให้  




 

จากกรณี นายไพศาล จุฑาแสง หรือท็อป ชาว จ.บึงกาฬ ได้โพสต์ลง Facebook  เกี่ยวกับพฤติกรรมภรรยา ที่ได้นำชายชู้มาพลอดรักกันถึงในห้องนอนบ้านพักของตัวเองเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.62 ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้ได้วางแผนหลอกเมียสาวว่าจะเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดบึงกาฬเพื่อเยี่ยมลูกชาย แต่พอตกตอนเย็นได้ย้อนกลับมาที่ห้องเช่าอีกครั้งหนึ่ง ได้พบภาพบาดตาบาดใจขณะที่เมียสาวได้พาชู้เข้ามานอนกกกันในห้องพักของตัวเอง และก็ได้นั่งทนรอเพื่อจะจับให้ได้คาหนังคาเขาว่าภรรยาได้คบชู้และได้พาชู้เข้ามานอนในห้องจริง ซึ่งที่ผ่านมาภรรยาก็ได้ปฏิเสธมาตลอด แต่ครั้งนี้จับได้คาหนังคาเขา


นายไพศาลได้เล่าว่า หลังจากแต่งงานจดทะเบียนสมรสกันกับ ก้อย ภรรยาสาวเมื่อ 5 ปีผ่านมา  โดยได้จ่ายเงินค่าสินสอดเป็นเงินประมาณ 100,000 บาท จนมีพยานรักเป็นชายวัย 3 ขวบชื่อน้องก้าวหน้า จึงได้ชักชวนกันกับภรรยามาหางานทำเพื่อเก็บเงินไว้สร้างอนาคตและเลี้ยงลูกชายอันเป็นที่รักให้เติบโตอย่างมีอนาคต แต่ได้งานทำที่โรงงานเครื่องกรองน้ำ ในเขตอำเภอสามโคกจังหวัดปทุมธานี โดยตนเองเป็นพนักงานช่างเชื่อม  ส่วนแฟนสาวทำหน้าที่ผู้ช่วยเสมียน  ทำงานมาได้ประมาณ 4 เดือนสังเกตเห็นภรรยาสาวมีพฤติกรรมแปลกไปจากเดิม คือทำตัวสนิทสนมกับพนักงานขับรถส่งของในบริษัทเดียวกันเป็นกรณีพิเศษ จนจับพิรุธได้ว่ามีอะไรกันกับพนักงานขับรถคนนั้น แต่เพราะความรักจึงได้ว่ากล่าวตักเตือนไปว่าทำตัวไม่ดีไม่ถูกต้อง แต่ภรรยาก็อ้างว่าคุยกันเรื่องงานเท่านั้นไม่มีอะไรกัน 

หลังจากนั้นก็จับได้ว่ามีอะไรกันกับคนขับรถ ภรรยาก็ได้ขอโทษจะไม่ทำแบบนี้อีก ด้วยความรักและเห็นแก่ลูกจึงให้อภัย แต่ก็ยังไม่เลิกรา จนมาถึงวันเกิดเหตุวันที่ 27 ธันวาคมก่อนวันปีใหม่จึงได้ออกอุบายว่าจะกลับไปบ้านเยี่ยมลูกที่จังหวัดบึงกาฬ และได้ย้อนกลับมาบ้านพักในตอนเย็นวันเดียวกัน เพื่อจะจับผิดภรรยาให้ได้ว่า ยังนำชายชู้มานอนในห้องพักตามที่เพื่อนห้องข้างเคียงได้บอกเล่าให้ฟัง ซึ่งก็ปรากฏเป็นจริงตามที่เพื่อนบอก ขณะที่ตนเองเข้าไปหลบซ่อนตัวในห้องนอนของเพื่อนซึ่งอยู่ตรงข้ามห้องเช่าของตนเองนั้นได้พบเห็นชายชู้ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดแล้วเมียสาวตัวเองก็เปิดประตูออกมารับ แล้วก็พากันเข้าไปในห้องนอน ซึ่งขณะนั้นตัวเองก็จิตใจว้าวุ่นจะทำอย่างไรดี จะตัดสินใจพังประตูเข้าไปก็เกรงจะเกิดระงับอารมณ์ไม่อยู่หากเห็นภาพบาดตาบาดใจ จึงได้ใช้สติระงับอารมณ์ หากตัวเองผิดพลาดกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทำอันตรายชายชู้และเมียสาว ตัวเองก็อาจจะติดคุก ภรรยาและชายชู้อาจบาดเจ็บหรือเสียชีวิตส่วนลูกชายอันเป็นที่รัก คือน้องก้าวหน้าจะอยู่กับใคร ทำให้ตนต้องคิดหนัก เพื่อนก็คอยปลอบใจไปด้วย

จังหวะนั้นเองขณะที่เมียสาวกับชายชู้จู๋จี๋กันอยู่ในห้องนอน เพื่อนก็ได้ช่วยวางแผนการณ์แกล้งทำเป็นไปเคาะประตูที่เมียรักกับชู้นอนอยู่ และเรียกให้เปิดประตูเพื่อจะขอพริกมาทำกับข้าว แต่มีเสียงภรรยาสาวตอบเล็ดลอดออกมาว่าพริกหมดไม่มีเหมือนกัน และก็ไม่ได้เปิดประตูออกมาพบ จนเวลาล่วงเลยไปจนถึง 21:00 น ทั้งคู่ได้เสร็จกามกิจด้วยกันจึงเปิดประตูออกมา ตนจึงเดินเข้าไปต่อว่าทั้งคู่ และบอกให้ภรรยาเปิดประตูไปดูหลักฐานจึงพบว่าผ้าปูที่นอนมี รอยเปรอะเปื้อนน้ำซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นน้ำรักของทั้งคู่นั้นเอง

จากนั้นจึงได้บอกกับภรรยาไปว่าตั้งแต่นี้ต่อไป ขอให้เราได้หย่าขาดเลิกราเป็นสามีภรรยาต่อกันเด็ดขาด ห้ามนำชายชู้มานอนในห้องนี้อีก หากจะมีอะไรกันก็ให้ไปทำที่อื่นและตนจะขอรับเลี้ยงดูแลลูกชายคือน้องก้าวหน้าไว้เอง จากนั้นได้เดินทางกลับมาบ้านที่จังหวัดบึงกาฬ โดยได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันเอาไว้กับ ร.ต.อ.สนิท คำชมพู รอง สว.(สอบสวน)สภ.บึงโขงหลง และขอรับลูกชายเด็กชายก้าวหน้าไว้เลี้ยงดูเอง หากจะมาอ้างในสิทธิ์ของของแม่ต้องมาเจรจาตกลงกันอีกครั้งหนึ่ง

  

 



ถามว่าหากภรรยามางอนง้อขอคืนดีจะยินดีหรือไม่ นายไพศาล ตอบแบบมั่นใจโดยที่ไม่ต้องคิดว่าไม่เอาแล้ว ถึงจะมาขอคืนดีอย่างไรก็ไม่รับเป็นภรรยาอีกต่อไป เพราะทำกับต้นมามากแล้ว เคยตักเตือนมาไม่รู้กี่ครั้งเคยจับได้มาครั้งหนึ่งก็ได้แต่กล่าวคำขอโทษจะไม่ทำอีกสุดท้ายก็ยังมีพฤติกรรมกระทำเหมือนเดิมคือคบชายชู้คนนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ที่แต่งงานกันอยู่ที่บ้านก็ไม่ได้มีพฤติกรรมแบบนี้ แต่พอไปทำงานแล้วจึงเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นมาจึงรับไม่ได้ ส่วนจะมาเยี่ยมลูกก็อนุญาตให้มาเยี่ยมได้ 

ด้านภรรยา พูดเพียงสั้น ๆ ว่า ตนได้รับผลกระทบมากจากโซเชียล ปัจจุบันลูกชายตนก็อยู่ในความดูแลของครอบครัวฝ่ายชายอยู่แล้ว ตนขอเวลาไปเยี่ยมลูกทุกวันเสาร์-อาทิตย์ แต่ในอนาคตก็ยังไม่แน่ว่าจะนำลูกชายมาอยู่ด้วยไหม เพราะตนก็รักลูกเช่นกัน 

ล่าสุด นายไพศาล  เปิดเผยว่า ได้คุยกับภรรยาครั้งล่าสุด ภรรยาบอกว่าอยากจะกลับมาคืนดีอีกครั้ง แต่ตนเองไม่ยอม คุยกันไปแล้วภรรยาก็โมโห จะไม่ยอมให้ลูกไปเลี้ยง ตนจึงบอกว่าอนุญาตให้ภรรยามาหาลูกชายได้ แต่ไม่ให้ภรรยาเอาลูกชายไปเลี้ยง ตนขอสิทธิ์ในการเลี้ยงดูลูกชาย ไม่อยากขึ้นโรงขึ้นศาล แต่ทางภรรยาบอกว่า ให้เลี้ยงดูได้ แต่ไม่ให้สิทธิ์ จะฟ้องก็ตามใจ

โดยหากภรรยาไม่ยอมยกลูกชายให้ดูแล ก็จะไปฟ้องหย่า และขอรับสิทธิ์เป็นผู้ดูแล จะทำทุกวิถีทางเพื่อจะเป็นผู้ดูแลลูกชาย เพราะคิดว่าหากภรรยาเลี้ยงดูอาจจะไม่เหมือนกัน การดูแลสั่งสอน ไม่เหมือนกับที่ แม่ของตนเองเลี้ยงดูลูกชายมาตั้งแต่เด็ก แต่ถ้าฝ่ายหญิงไม่ยอมจริง ๆ ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย 

 

 

 

 







Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.