เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ภรรยาร่ำไห้! เปิดแชทครั้งสุดท้าย "สามีคนไทย" เกิดอุบัติเหตุที่ไต้หวัน เผย! เพิ่งผ่านวันเกิดแค่ 2 วัน


3 ธ.ค. 2562, 14:33



ภรรยาร่ำไห้! เปิดแชทครั้งสุดท้าย "สามีคนไทย" เกิดอุบัติเหตุที่ไต้หวัน เผย! เพิ่งผ่านวันเกิดแค่ 2 วัน




จากกรณีเกิดอุบัติเหตุที่ไซต์งานก่อสร้างของบริษัท PAN ASIA CORPORATION ขณะที่แรงงานไทย 6 คน และแรงงานชาวไต้หวัน 1 คน กำลังทำงานขนย้ายก้อนปูนขนาดใหญ่โดยเรือ เพื่อลากไปถ่วงยังสถานีรับและเก็บแก๊สกลางทะเล แต่ระหว่างทางเกิดอุบัติเหตุ ทำให้แรงงานทั้งหมดร่วงตกลงไปในทะเล มีแรงงานไทย 3 คนจมน้ำเสียชีวิต คือนายพิพัฒน์ แสนโคตร อายุ 54 ปี ชาวบ้านบ้านคำอ้อ ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี, นายวรศักดิ์ ดัดคิด อายุ 41 ปี มาจากสุโขทัย และนายชโย หงษาวงษ์ อายุ 54 ปี จากจังหวัดนครพนม และยังมีแรงงานไทยที่เหลือได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 คน และบาดเจ็บเล็กน้อย 2 คน เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา

 

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 162 หมู่ 7 บ้านคำอ้อ  ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี  ซึ่งเป็นบ้านของนายพิพัฒน์ แสนโคตร อายุ 54 ปี แรงงานไทยที่ไปทำงานประเทศไต้หวันและเกิดอุบัติเหตุจนเสียชีวิต พบกับภรรยาของนายพิพัฒน์คือนางสุดารัตน์ แสนโคตร อายุ 40  ปี ยังอยู่อาการเศร้าโศกและเสียใจกับเหตุการณ์สูญเสียสามีไปอย่างไม่มีวันกลับ โดยมีญาติๆ เดินทางมาให้กำลังใจและพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

 



โดยนางสุดารัตน์กำลังง่วนอยู่กับเอกสารการเสียชีวิตของสามีและหนังสือมอบอำนาจ เพื่อเตรียมนำติดตัวไปด้วยและกำลังเก็บกระเป๋าเสื้อผ้า โดยทางบริษัทจัดหางานจะพานางสุดารัตน์บินด่วนไปยังประเทศไต้หวันในช่วงเย็นวันนี้เพื่อไปพบหน้าสามีเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเผาที่โน่นและนำกระดูกมาบำเพ็ญกุศลที่บ้าน  นางสุดารัตน์ เปิดใจทั้งน้ำตากับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนเดินทางไปทำงานที่ไต้หวันสามีได้คุย กับตนเองว่า อยากไปทำงานเพื่อหาเงินมาใช้หนี้และเป็นทุนทำไร่ทำนาและส่งเสียลูกสาวคนเล็กที่เรียนอยู่ชั้นม.1 ให้จบปริญญา ซึ่งแต่ก่อนสามีทำงานที่โรงงานน้ำตาลใกล้บ้านและเป็นช่วงฤดูปิดหีบ โดยสามีเดินทางไปทำงานไต้หวันเมื่อวันที่ 8 ส.ค.62 จนถึงขณะนี้ได้เพียง 4 เดือนก็มาเกิดเรื่องน่าเศร้า แม้สามีจะไปทำงานต่างแดนแต่ตนและสามีก็คุยแชทกันทุกครั้ง จนล่าสุดเมื่อวันที่ 29 พ.ย.62 ซึ่งเป็นวันเกิดเขา ตนเองก็ทักไปเพื่ออวยพรวันเกิด พร้อมส่งรูปที่ถ่ายคู่กันไปให้ดู สามีก็ตอบมาว่า เลิกงานห้าโมงตอนเที่ยงบ่ได้พักจ้าวันนี้ได้โอชั่วโมงเดียว วาแมนลืมวันเกิดพ่อแล้ว ต่อมาวันเสาร์ที่ 30 พ.ย.เขาก็ทักมาบอกว่าได้รับของขวัญวันเกิดแล้วจ้า ซึ่งกล่องพัสดุที่ส่งไปให้เขานั้นเป็นยาแก้โรคเก๊า ตนเองก็ตอบไปว่า ได้แล้วก็อย่ากินแต่เหล้ากินยาด้วย เขาก็บอกว่า เลิกกินเหล้าจะกินข้าวกับยาจ้า นี่คือข้อความสุดท้ายได้คุยกับสามี เพราะต่อมาวันที่ 1 เวลาประมาณ 17.32 น.ตนเองก็ทักไปหาบอกเรื่องซื้อเลขรถยนต์ แต่ไม่เห็นเขาทักมาเพราะปกติหลังเลิกงานเขาจะอ่านข้อความและทักมาหาตลอดและคุยกันเป็นครึ่งชม.ทุกวัน จนหกโมงเย็นทางบริษัทจัดหาคนงานได้โทรมาบอกว่าสามีเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตขณะทำงาน ตนเองถึงกับเข่าอ่อนร้องไห้แทบใจจะขาด ไม่คิดว่าเพิ่งผ่านพ้นวันเกิดเพียงแค่ 2 วันแท้จะได้ยินข่าวเศร้าที่เขาไม่มีวันหวยกลับมาอีกเลย และอีกอย่างก่อนวันเกิดเขาเขาได้โพสต์รูปตัวเองลงในเฟสบุ๊คเป็นรูปเขาหัวขาดแต่หลานๆ เห็นเขาโพสต์รูปตัวเองเป็นคนหัวขาด หลานๆ ก็รีบแจ้งให้เขาลบ เขาก็ลบออก แต่ไม่คิดว่าจะเป็นลางร้ายจนเขามาเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต

 

 

 

 


นางสุดารัตน์กล่าวต่อไปว่า เราแต่งงานอยู่ด้วยกันมา 10 กว่าปีเขาเป็นคนรักเมียและลูกๆ มาก ลูกมีสองคน ผู้ชายอายุ 19 ปีและผู้หญิงอายุ 13 ปี แต่ด้วยความจนเขาจึงอาสาไปทำงานยังต่างแดนเพื่อเก็บเงินมาให้เมียใช้หนี้และเป็นทุนให้ลูกๆ เรียนหนังสือ โดยช่วงที่ให้สัมภาษณ์นักข่าวนางสุดารัตน์ถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ บอกว่า เขาส่งเงินมาให้เมียทุกเดือน เดือนแรกได้ 6000 บาท เดือนที่ 2 ส่งมา เดือนที่ 3 และเดือนที่ 4 เขาบอกว่า เดือนนี้เพราะได้เงินเยอะนะ เพราะมีโอ ได้ 47,000 บาท พ่อจะส่งให้แม่ 30,000 บาทให้เอาไปใช้หนี้เขานะ แต่แกยังไม่ได้ส่งก็ก็มาเกิดอุบัติเหตุจนเสียชีวิต เสียใจอย่างมากไม่คิดเหตุการณ์สูญเสียสามีจะเกิดขึ้นกับตนเอง แกฝันว่า หากแกทำงานครบ 3 ปีที่ประเทศไต้หวันจะไปทำงานต่างประเทศครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายและกลับมาทำไร่ทำนาอยู่เป็นครอบครัวกับภรรยาและลูกๆ

 

 

โดยในช่วงเย็นวันนี้นางสุดารัตน์ แสนโคตรจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อบินไปยังประเทศไต้หวัน กับบริษัทจัดหางาน ที.เอ็น.วาย ไทร์นิตี้   ซึ่งเป็นคนส่งนายพิพัฒน์ไปทำงานที่ประเทศไต้หวัน คาดว่าจะทำพิธีฌาปนกิจศพที่โน่นและนำกระดูกมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดจ.อุดรธานี

 

 

 

 

 






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.