เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 25 พ.ย. 62  ร.ต.อ.สมชัย  ภูสิลิตร รองสารวัตรสอบสวน สภ.โพธิ์ทอง  ได้รับแจ้งเหตุมีชายวัยรุ่นถูกมีดแทงปักคาอยู่กลางหลังได้รับบาดเจ็บ  เหตุเกิดที่บริเวณบ้านเลขที่ 49/1  หมู่ที่ 2  ตำบลองค์รักษ์  อำเภอโพธิ์ทอง  จังหวัดอ่างทอง  หลังได้รับแจ้งจึงรีบรุดไปที่เกิดเหตุ  พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.โพธิ์ทอง  เจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลโพธิ์ทอง  และเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยจังหวัดอ่างทอง  

จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ยกใต้ถุนสูง  ที่บริเวณใต้ถุนบ้านพบผู้บาดเจ็บเป็นชาย  สวมเสื้อยึดสีฟ้า นุ่งกางเกงขาสั้นสีเทา  นอนคว่ำหน้าอยู่บนพื้นดิน พบว่าที่บริเวณกลางหลังมีอาวุธมีดปลายแหลมยาวด้ามไม้ยาวประมาณ 20 เชนติเมตร  ปักคาอยู่ที่ด้านกลางหลังมีเลือดไหลนอง  นอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด  ทราบชื่อต่อมาว่า นายสุรเชษฐ์  คุ้มกาย  อายุ 15 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 47/1  หมู่ที่ 1  ตำบลองค์รักษ์  อำเภอโพธิ์ทอง  ทางเจ้าหน้าที่กู้ชีพ และเจ้าหน้าที่กู้ภัย  ได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลโพธิ์ทอง  แต่เนื่องจากอาการสาหัสทางเจ้าหน้าที่พยาบาลจึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลอ่างทอง  เพื่อทำการรักษาตัวอย่างเร่งด่วน  

จากการสอบถามเบื้องต้น นายทักษิณ  แก้วสุข อายุ 31 ปี  เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ  เล่าให้ฟังว่า  ตนเองได้ทำเล้าไก่ชนอยู่ที่บริเวณสวนหลังบ้าน  แล้วพบว่ามี นายสุรเชษฐ์  เพื่อนรุ่นน้องเดินเข้ามาหาที่บริเวณหน้าบ้าน  คาดว่าคงมาพูดคุยเรื่องไก่ชน  ซึ่งเป็นปกติของทุกครั้ง  แต่จู่ ๆ ก็มี นาย เอ บางระกำ  เดินมาจากสวนบริเวณหลังบ้าน  ตรงปรี่เข้าไปหา นาย สุรเชษฐ์ ที่ยืนอยู่บริเวณใต้ถุนบ้าน  แล้วตะโกนถามว่า  มึงมองหน้ากูทำไม  ก่อนเข้าไปใช้มีดที่พกมาจ้วงแทงไปที่บริเวณกลางหลัง นาย สุรเชษฐ์  จนมีดปักติดคา แล้ววิ่งหลบหนีไป

ทางด้านนายเสกสรร  ฟักทอง  ผู้ใหญ่บ้าน  หมู่ที่ 2  เล่าให้ฟังว่า  ปกติในหมู่บ้านของตนเองก็เงียบสงบดีไม่เคยมีเหตุการณ์ทำร้ายกายแบบสยองขวัญมาก่อน  เบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุและผู้บาดเจ็บเป็นเด็กที่อยู่นอกพื้นที่  ได้เข้ามาหาเพื่อนบ้านก่อนมีเรื่องจนเป็นเหตุการณ์สยองขวัญในครั้งนี้

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน สภ.โพธิ์ทอง  ได้ลงพื้นที่  เพื่อทำการหาพยานหลักฐานคนก่อเหตุสยองที่ใช้มีแทงกลางหลังเด็กวัยรุ่นอายุ 15 ปี  ในเบื้องต้นทราบชื่อว่า นายสมภพ  สกุลชัย  อายุ 41 ป  และได้ทำการเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาทำการสอบสวนขยายผล  เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป