เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ญาติๆเศร้า "ทนายวิจัย" เหยื่อยิงในศาลจันทบุรี ถึงบ้านเกิดแล้ว เตรียมเผา 17 พ.ย.


14 พ.ย. 2562, 17:38



ญาติๆเศร้า "ทนายวิจัย" เหยื่อยิงในศาลจันทบุรี ถึงบ้านเกิดแล้ว เตรียมเผา 17 พ.ย.




วันนี้ (14 พ.ย. 62) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ศาลาวัดป่ามัชฌิมวงษ์รัตนาราม บ้านเหล่าใหญ่ ต.แชแล อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพนายวิจัย สุขรมย์ ทนายความซึ่งถูกยิงเสียชีวิตที่ศาลจันทบุรี ซึ่งบรรยากาศวันนี้ครอบครัวและเพื่อนบ้าน ได้ต่างช่วยกันจัดสถานที่เพื่อเตรียมงานสวดอภิธรรม ซึ่งคืนนี้จะสวดอภิธรรมเป็นคืนแรกโดยมีนายสาคร สุขรมย์ อายุ 75 ปี บิดา และนางธนินท์ธร ผัสดี อายุ 51 ปี ภรรยา และญาติเป็นเจ้าภาพ ทั้งนี้ญาติจะมีการตั้งศพสวดอภิธรรม 3 วัน และจะฌาปนกิจในวันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายนนี้ 

 

นางธนินท์ธร ผัสดี ภรรยา เปิดเผยว่า ตนรู้สึกเสียใจมาที่เหตุการณ์มาเกิด เคยเห็นแต่ในข่าวไม่คาดคิดว่าจะมาเกิดกับครอบครัว ตนกับนายวิจัยฯสมรสกันมา 11 ปี ไม่มีบุตร นายวิจัยฯ เป็นคนตั้งใจทำงาน เพราะว่าเขาเรียนจบมาสายนี้เฉพาะ และเป็นคนดีเป็นคนไม่ค่อยพูดจา ตนก็จะพยายามพูดคุยกับนายวิจัยฯ ไม่ให้เครียดกับงาน “ตนก็ขอให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเป็นครั้งสุดท้าย และก็ขอให้สถานที่ราชการหรือว่าหน่วยงาน ขอให้รอบครอบ และมีการป้องกันให้มากกว่านี้ เพราะสังคมปัจจุบันไม่รู้จักหน้า แต่ไม่รู้จักใจ และเราไม่รู้ว่าคนไหนต้องการชนะหรือไม่ชนะในคดีเราก็ไม่รู้ ซึ่งให้มีการครอบคลุมสถานที่ราชการแน่นหนากว่านี้ โดยนายวิจัยฯ เป็นนักกฎหมายจริงๆ เพราะตอนค่ำนายวิจัยฯ ก็ตั้งใจทำงานอดหลับอดนอน ซึ่งเจตนาอย่างอื่นไม่มีเรียนมาทางด้านนี้จึงทำงานเต็มที่” การที่นายวิจัยฯ เสียชีวิตไปนั้นก็ไปสบายแล้ว และนายวิจัยฯ ยังจากไปในหน้าที่การงาน ในสถานที่ที่ทำงานก็ถือว่าเป็นเกียรติ

 

 



ทางด้านนายเกรียงศักดิ์ ศรีโบราณ นายกเทศมนตรีตำบลเชียงแหว เปิดเผยว่า ตนเองกันทนายวิจัยเป็นเพื่อรุ่นพี่รุ่นน้องกัน เรียนหนังสือด้วยกันตั้งแต้ชั้นประถมศึกษาชั้นที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเดียวกัน ลักษณะนิสัยของเขาเป็นคนใจเย็น ตลอดเวลาที่รู้จักกันมาไม่เคยมีเรื่องชกต่อย สุราก็ไม่ดื่มเป็นคนใจเย็นมาก จนคนในหมู่บ้านพูดกันว่าเป็นทนายที่ไม่ค่อยพูด

 

หลังเรียนจบแล้วทนายวิจัยฯเขาเป็นทนายอิสระ จากนั้นไปทำงานที่สำนักงานทนายความที่กรุงเทพฯ จนปัจจุบัน ตั้งแต่เรียนจบกระทั่งได้งานทำก็ยังติดต่อเพื่อรุ่นน้องคนนี้ประจำ ซึ่งเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่าน ตนยังติดต่อให้ทนายวิจัยช่วยคดีความอยู่ การทำงานของทนายวิจัยฯ เป็นทนายที่ไม่ค่อยพูดอะไรเป็นอะไรไม่ค่อยพูดเลย ลูกความก็บอกว่าทนายคนนี้ไม่ค่อยพูดต่างจากทนายคนอื่นๆที่ช่างพูดช่างเจรจา ส่วนฝีมือว่าความนั้นยอมรับว่าเก่ง และหากจะเปรียบเป็นมวยก็ “ไม่พูดมากแต่ต่อยเยอะ”

 

สำหรับคดีความที่ทนายวิจัยว่าความล่าสุดนี้ ตนเคยพูดเล่นกับทนายว่า ระวังตัวหน่อยนะเรื่องคดีพวกนี้ ทนายวิจัยฯ ก็ตอบว่าคดีนี้ทำมานานแล้วคงไม่มีปัญหาอะไรหากจะมีเกิดขึ้นนานแล้ว

 

 


นายเกรียงศักดิ์ฯ กล่าวอีกว่า ชีวิตสมัยก่อนตอนเราเป็นเด็กเราก็เลี้ยงวัวเลี้ยงควาย วิถีชีวิตเราอยู่กันแบบอีสานอีสานจริงๆ บ้างก็ไม่ไกลจากหนองน้ำหนองหานกุมภวาปี เวลาอยากกินปลาก็ลงเรือพายเรือไปหาปลา บางทีก่อนจะไปเรียนหนังสือต้องไปเกี่ยวข้าวก่อน และหลังเลิกเรียนก็ยังมาเกี่ยวข้าว ไม่มีเวลาที่จะไปหาเที่ยวเตร่

 

ส่วนตัวแล้วคิดว่าคดีนี้การต่อสู้กับเรื่องมรดกมีได้มีเสีย ถึงจะถูกฎหมายแต่คนที่สูญเสียก็เจ็บแค้นเช่นเดียวกัน เมื่อเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเราต้องยอมรับตรงนั้น มันก็ควรจะเป็นไปตามกระบวนการของมัน ทนายก็ต่อสู้ด้วยหลักฐาน ศาลก็ตัดสินด้วยหลักฐาน เมื่อมันเป็นอย่างนั้นแล้วมันก็ต้องเป็นอย่างนั้น ตัดสินคนแบบนี้มันมันก็ไม่ยุติธรรมหรือจะเอาความเครียดกว่านั้นมา ส่วนประเด็นเรื่องอื่นๆที่ที่จะไปต่อว่าอะไรข้างนอกนะผมคงไม่รู้นะครับ มันจะมีหรือไม่มีแต่ผมไม่ทราบ

 

 

สำหรับประวัติของนายวิจัย สุขรมย์ มีพี่น้องร่วมกัน 4 คน เกิดที่บ้านเมืองพรึก ซึ่งเป็นชุมชนโบราณ ริมทะเลบัวแดง เรียนประถม รร.บ้านเมืองพรึก มัธยนต้น-ปลาย รร.กุมภวาปี อ.กุมภวาปี นิติศาสตร์ ม.รามคำแหง ประกอบอาชีพทนายความ ปัจจุบันที่ สนง.บริหารงานกฎหมาย เคลอ กรุงเทพฯ สมรสกับนางธนินท์ธร ผัสดี อายุ 51 ปี ร่วมกันเปิดร้านอาหารเหนือ "อู่ข้าว อู่น้ำ" วิภาวดี 16 เมื่อ 12 พ.ย.58 และปิดร้านไปเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อนเสียชีวิต เนื่องจากเจ้าของพื้นที่ต้องการขายและเตรียมหาที่ใหม่เพื่อปิดร้านแต่ก็มาจบชีวิตเสียก่อน

 

 

 

 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.