เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



คืบหน้า!! รุมตบเด็กหน้าโรงเรียนชื่อดัง ในบ้านโป่ง คู่กรณีอีกฝ่ายไม่ยอมมาโรงพัก


10 พ.ย. 2562, 20:15



คืบหน้า!! รุมตบเด็กหน้าโรงเรียนชื่อดัง ในบ้านโป่ง คู่กรณีอีกฝ่ายไม่ยอมมาโรงพัก




จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ “ต้นหนาม มีกุหลาบ” ได้โพสต์ข้อความ “สังคมสมัยนี้อยู่ยาก รุมตบเด็กหน้าโรงเรียนชื่อดังในบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ต่อหน้าตำรวจและผู้ปกครองไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมืองเหตุเกิด วันที่ 5 พฤศจิกายน 2562 ยังไม่ทราบชื่อคนร้าย เนื่องจากคนร้ายบางคนปิดหน้า วอนสังคมเมตตาเด็ก #ใครทราบโปรดแจ้งเบาะแส” พร้อมคลิปภาพเหตุการณ์ ทำให้ผู้คนในสังคมออนไลน์ให้ความสนใจ และวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุ รวมถึงแนวทางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในกรณีเหตุซึ่งหน้า
 

 



ล่าสุดวันนี้ (10 พ.ย. 62) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ สภ.บ้านโป่ง พ.ต.ท.อภิวิชญ์ จันทวงศ์ รอง ผกก. หัวหน้าพนักงานสอบสวนและ ร.ต.ท. ทรงพล ตันเจริญ ร้อยเวร สภอ.บ้านโป่ง ได้เรียก น.ส.พัชรญาณี (ขอสงวนนามสกุล)  พร้อมลูกสาว เข้าพบเพื่อสอบสวน กรณีเหตุตบเด็กนักเรียนหน้า รร.แห่งหนึ่งพร้อมทั้งครู แต่ทางคู่กรณีไม่ยอมมาพบในครั้งนี้ ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบภามกับ น.ส.พัชรญาณี (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ก่อเหตุและเป็นผู้ปกครองของ น้องเจ (นามสมมติ) น้องเจ เปิดเผยว่า ตนเริ่มมีปัญหากับ “อ้อ” (นามสมมติ) ตั้งแต่เริ่มรู้จักกับเพื่อนชายคนหนึ่ง ช่วงประมาณต้นปี 61 จากนั้นเป็นต้นมาตนก็มักถูกอ้อส่งข้อความมาก่อกวนเป็นประจำ มีการท้าทายถึงขั้นนัดท้าตบกับแม่ตนมาแล้ว ซึ่งตนก็บ่ายเบี่ยงมาตลอด กระทั่งวันเกิดเหตุอ้อพยายามยั่วยุอยู่หลายครั้ง จนตนทนไม่ไหว ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันในโรงเรียน โดยมี “เก๋” (นามสมมติ) ซึ่งเป็นเพื่อนของอ้อได้เข้ามาทำร้ายร่างกายของตนด้วย ก่อนที่ทุกคนจะโดนคุณครูเรียกเข้าห้องปกครอง ตนจึงได้โทรศัพท์ไปบอกแม่ให้ทราบเรื่อง ทันทีที่ออกจากห้องปกครอง อ้อก็ยังพูดท้าทายให้ตนมาพบและสู้กันอีกรอบในตอนเย็นหลังเลิกเรียน

ด้าน น.ส.พัชรญาณี เปิดเผยว่า หลังจากตนทราบเรื่องจากลูกสาวว่ามีปัญหาที่โรงเรียนจนได้รับบาดเจ็บ และคู่อริยังไม่ยอมเลิกรา พูดท้าทายไม่ยอมจบเรื่อง ทำให้รู้สึกโกธร ด้วยความเป็นห่วงลูกสาว จึงขับรถไปรับที่หน้าโรงเรียน แต่ก็ไม่สามารถติดต่อลูกสาวได้ ประกอบกับเจออ้อที่หน้าโรงเรียนพอดี จึงบันดาลโทสะและลงมือก่อเหตุ หลังจากที่ตนลงมือก่อเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและโรงเรียนก็ได้เรียกตนและฝั่งคู่กรณีไปพบ มีการพูดคุยกัน โดยทางโรงเรียนได้ลงโทษพักการเรียนเด็กทั้ง 2 คน เป็นเวลา 7 วัน ในส่วนด้านกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจก็แจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย

ที่ผ่านมาตนรับรู้ปัญหาของลูกมาโดยตลอด ในฐานะแม่ก็ได้แต่ปลอบใจ และบอกให้ลูกหลีกหนี ให้ตั้งใจเรียนและทำงานพิเศษหารายได้ไม่ต้องสนใจคู่กรณี แต่การที่ลูกของตนตัดสินใจทะเลาะวิวาทกับเพื่อน ตนเชื่อว่าลูกคงถึงที่สุดแล้ว หลังจากเกิดเรื่อง ตนก็ได้รับการติดต่อจากผู้ปกครองท่านอื่นที่มีปัญหาทะเลาะกับอ้อเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ตนยอมรับผิดที่ลงมือกับเด็ก และในอนาคต อย่างไงลูกก็ยังคงต้องเรียนในโรงเรียนและห้องเรียนเดียวกับอ้อ จึงทำได้เพียงแค่บอกลูกว่าขอให้อดทน อย่าไปสนใจ ขอให้เป็นเพียงแค่อากาศ และตั้งใจเล่าเรียนให้จบการศึกษา    

 

 

 


 






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.