หลังจากที่นางอำพร อำไพ และนายสมหมาย สุขมนตรี ลูกสาวและลูกชาย ได้เข้าแจ้งความว่านายสมบูรณ์ สุขมนตรี ผู้เป็นพ่อเป็นผู้ขุดหลุมฝังศพแม่คือนางบุปผา อำไพ เมื่อสองปีที่ผ่านมา ตำรวจนำโดย  พ.ต.ท.มงคล เพชรนิล สารวัตรสืบสวน  สภ.หลังสวน ได้ไปควบคุมตัวนายสมบูรณ์ มาสอบปากคำ โดยเบื้องต้นทางนายสมบูรณ์ ได้สารภาพเป็นผู้ฝั่งภรรยาจริง โดยอ้างว่าภรรยาเป็นลมตาย ซึ่งตนไม่อยากให้ใครลำบากและต้องเดือดร้อนในการจัดงานศพซึ่งต้องใช้เงินจำนวนมาก จึงได้ขุดหลุมฝังศพภรรยา

 

 

พ.ต.ท.มงคล เพชรนิล สารวัตรสืบสวน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ก็ได้นำตัวนายสมบูรณ์ มาชี้จุดที่ขุดหลุมฝั่งศพภรรยา ซึ่งอยู่ใต้ในตัวห้องน้ำ ภายในอาคารสำนักงานตลาดมรกต 2  ในขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้นำตัวนายสมหมาย ลูกชายซึ่งเห็นเหตุการณ์แต่ไม่กล้าปริปากบอกใครเนื่องจากถูกพ่อขู่ไว้หากไปบอกใคร ก็จะฆ่าฝั่งหลุมเดียวกับแม่ มาชี้จุดที่ฝั่งแม่ ซึ่งอยู่นอกตัวอาคารสำนักงานและห่างจากจุดที่นายสมบูรณ์ ผู้เป็นพ่อชี้ไว้  เพียง 3 เมตร

 

 

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดีจากเจ้าของตลาด ได้นำแบ็คโฮ ของเจ้าของตลาด มาช่วยขุดดินเพื่อค้นหาศพนางสาวบุปผา ท่ามกลางความสนใจของประชาชนที่รู้ข่าว มามุงรอลุ้นดูและภาวนาขอให้พบศพนางสาวบุปผา จุดที่แบ็คโฮขุด เป็นบริเวณนอกอาคารสำนักงาน ซึ่งเป็นจุดที่ลูกชาย ชี้ว่าเห็นพ่อฝังแม่ ซึ่งแบ็คโฮขุดดินจนถึงดินเดิม และลึกกว่า 2 เมตร กว้างกว้า 4 เมตรและยาวขนานไปตามแนวพื้นปูนของตัวอาคารกว่า 10 เมตร ใช้เวลาไปกว่า 1 ชม.ก็ไม่พบศพและสิ่งที่พอเป็นพยานหลักฐานที่พอเชื่อมโยงคดี ก่อนจะกลบดินและรอดำเนินการค้นหาต่อไป และต้องเจรจากับเจ้าของตลาดเพื่อขอขุดในจุดสงสัยอื่นๆต่อไป

ผู้ที่อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา นายธงชัย วันอังคาร อายุ 54 ปี อาชีพรับจ้าง เล่าว่า "เคยมีผู้ที่ทำโทรศัพท์หายและให้บริษัทเจ้าของเครือข่ายทำการวัดหาสัญญาณ โทรศัพท์มือถือ พบว่าสัญญาณอยู่ในจุดใต้ต้นกะถิน เมื่อเข้าไปพบว่ามีร่อยรอยการขุดและฝังกลบ พร้อมทั้งมีกลิ่นเหม็นออกมา เมื่อเดินข้ามหลุมในจุดนั้นรู้สึกขนลุกซู่และได้กลิ่นเหม็นอย่างแรง ทำให้รู้สึกกลัว แต่ไม่ได้คิดว่าจะมีศพถูกฝังไว้ จนกระทั่งจุดดังกล่าวและต้นกะถินถูกรื้อสร้างเป็นห้องน้ำของตลาด แต่เคยสอบถามนายสมบูรณ์ถึงนางบุปผาผู้เป็นเมีย มักจะได้รับคำตอบว่าย้ายไปอยู่กับญาติพี่น้องแล้ว ก็ไม่ได้สนใจอะไร จนตำรวจมาสอบถามในวันน้ำ"

 

 

นายสรายุทธ์ สีน้ำอ้อม อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 67หมู่ที่ 1 ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฏร์ธานี เจ้าของร้านศรัณยาเฟอร์นิเจอร์ ที่ตั้งร้านอยู่ด้านหน้าที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า "มาตั้งร้านขายเฟอร์นิเจอร์ไม้ในตลาดแห่งนี้มานาน 8 เดือน ทุกเช้าเวลาประมาณ 4 นาฬิกา จะลุกขึ้นเข้าห้องน้ำซึ่งเป็นห้องน้ำ 2 ชั้น โดยตนเองเข้าไปเพียงคนเดียวในห้องน้ำไม่มีใคร ก็จะได้ยินเสียงห้องน้ำชั้นบนมีเสียงเปิดน้ำ ปิดน้ำ เหมือนมีคนใช้ห้องน้ำ และมีเสียงดังกล่าว อยู่ตลอดเวลาในระยะ 8 เดือนที่ผ่านมา ในช่วงแรกก็ไม่คิดอะไร จนกระทั่งมีข่าวเรื่องนี้ในช่วงเช้าของวันนี้ก็ ยิ่งได้ยินเสียงดังชัดเจนมากขึ้น ตนเองก็ได้แต่ยกมือไหว้ขอให้วิญญาณไปสู่ที่ชอบและจะได้ทำบุญไปให้"