“ร้อยเอก ธรรมนัส” เปิดคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ฯ นครปฐม เฉลิมพระเกียรติ ร.10 รุกบริการวิชาการ แก้ปัญหาสินค้าเกษตรครบวงจร
20 ธ.ค. 2568, 15:49

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ฯ โดยมี จ่าเอกยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้บริหารในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม ณ โรงเรียนวัดโพรงมะเดื่อ (ศรีวิทยากร) ต.โพรงมะเดื่อ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม เพื่อเฉลิมพระเกียรติและสนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสืบสาน รักษา และต่อยอดแนวพระราชดำริเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในทุกมิติ โดยโครงการนี้มุ่งเน้นการให้บริการเชิงรุก นำบุคลากร อุปกรณ์ และองค์ความรู้ทางวิชาการลงไปแก้ปัญหาให้เกษตรกรถึงในพื้นที่แบบครบวงจร ทั้งด้านดิน พืช ประมง และปศุสัตว์ เพื่อช่วยลดขั้นตอน ลดค่าใช้จ่าย และสร้างความสะดวกสบายให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ห่างไกลอย่างทั่วถึง
ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวว่า รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ฯ ซึ่งเป็นโครงการที่เชิดชูและสานต่อพระราชปณิธานด้านการพัฒนาประเทศ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมุ่งมั่นสืบสาน รักษา และต่อยอดแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในทุกมิติ ทั้งด้านการเกษตร การศึกษา การบริหารจัดการน้ำ การสาธารณสุข และสิ่งแวดล้อม อีกทั้ง โครงการดังกล่าวเป็นภารกิจสำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการนำนโยบายของรัฐบาลลงไปสู่การปฏิบัติในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม โดยมุ่งนำองค์ความรู้ เทคโนโลยี และบริการด้านการเกษตรไปให้ถึงมือเกษตรกรโดยตรง ลดขั้นตอน ลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มโอกาสให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงบริการของรัฐได้อย่างทั่วถึง และสามารถนำประโยชน์จากโครงการนี้ไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
“คลินิกเกษตรเคลื่อนที่ไม่ใช่เพียงการให้บริการเฉพาะหน้า แต่เป็นการวางรากฐานองค์ความรู้ให้เกษตรกรสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตจริง รัฐบาลต้องการให้เกษตรกรพึ่งพาตนเองได้ มีอาชีพที่มั่นคง และสามารถแข่งขันได้ในระบบเศรษฐกิจปัจจุบัน” ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวเพิ่มเติม
ทั้งนี้ จังหวัดนครปฐมเป็นฐานการผลิตทางการเกษตรที่สำคัญ โดยมีมูลค่า GDP ภาคเกษตรสูงถึง 19,357 ล้านบาท (ปี 2566) มีสินค้าเกษตรเด่นหลากหลายชนิด ทั้งพืชเศรษฐกิจ (ข้าว ส้มโอ มะพร้าวน้ำหอม กล้วยไม้) ปศุสัตว์ (สุกร โคนม ไก่) และประมง อย่างไรก็ตาม จังหวัดยังเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน ได้แก่ ปัญหาหนี้สินเกษตรกร ข้อจำกัดด้านที่ดินทำกิน สถานการณ์อุทกภัยที่สร้างความเสียหายแก่พื้นที่เกษตรกรรม และปัญหาความเค็มในแม่น้ำท่าจีนที่ส่งผลกระทบต่อการเพาะปลูก อีกด้วย




