นายสันติ ปิยะทัต รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คุมเข้มร้านทอง ลงพื้นที่ตรวจผู้ประกอบการร้านทองย่านเยาวราช ตามนโยบาย “Quick Big Win”
11 พ.ย. 2568, 19:16

วันที่ (11 พฤศจิกายน 2568) เวลา 13.00 น. ณ ถนนเยาวราช เขตสัมพันธ์วงศ์ กรุงเทพมหานคร นายสันติ ปิยะทัต รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ ดร.อรุณ คงเจริญ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ประกอบธุรกิจค้าทองคำที่ซึ่งเป็นทั้งผู้ผลิตและผู้จำหน่ายทองรูปพรรณเพื่อมุ่งเน้นการสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับทองรูปพรรณที่มีคุณภาพ รวมถึงเฝ้าระวังการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค
ดร.อรุณ คงเจริญ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ประกอบธุรกิจค้าทองคำ ซึ่งเป็นผู้ผลิตและผู้จำหน่ายทองรูปพรรณในวันนี้ พบว่า ผู้ประกอบธุรกิจส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือ และมีการจัดทำฉลากสินค้าถูกต้อง ครบถ้วน ตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลากที่กำหนด ซึ่งจะต้องระบุข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับทองรูปพรรณอย่างละเอียด โดยมีชื่อประเภทหรือชนิดของทองรูปพรรณ ชื่อและสถานที่ประกอบการ หรือเครื่องหมายการค้าของผู้ผลิต/ผู้จำหน่าย ปริมาณความบริสุทธิ์ โดยระบุเป็นกะรัตหรือเปอร์เซ็นต์ (เช่น K หรือ %) น้ำหนักทองรูปพรรณ โดยระบุเป็นกรัม (g หรือ ก.) รวมถึงราคา ที่ต้องระบุเป็นเงินสกุลไทย และต้องระบุราคาการรับซื้อคืนทองรูปพรรณขั้นต่ำ ตามที่สมาคมค้าทองคำประกาศอย่างชัดเจน
“รัฐบาลให้ความสำคัญกับการคุ้มครองผู้บริโภคอย่างจริงจัง โดยเฉพาะสินค้ามูลค่าสูงอย่างทองรูปพรรณ การมีฉลากที่ระบุ ความบริสุทธิ์ น้ำหนัก และราคา อย่างชัดเจน ถือเป็นมาตรการด่านแรกที่ช่วยให้ผู้บริโภคได้ข้อมูลครบถ้วนและตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ การตรวจสอบเชิงรุกนี้ เป็นการสร้างมาตรฐานความโปร่งใสทางเศรษฐกิจ อีกทั้งยังยกระดับความน่าเชื่อถือของธุรกิจค้าทองคำไทย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการในระยะยาว ตามกรอบนโยบาย Quick Big Win ของท่านรมต.สันติ ปิยะทัต” ดร.อรุณ กล่าว
ทั้งนี้ นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้เน้นย้ำถึงบทลงโทษสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยฉลาก หากผู้ประกอบธุรกิจขายสินค้าควบคุมฉลากโดยไม่แสดงฉลาก หรือแสดงฉลากไม่ถูกต้องตามกฎหมายกำหนด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ๖ เดือน หรือปรับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากเป็นการกระทำของผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ๑ ปี หรือปรับไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมแนะนำผู้บริโภคต้องตรวจสอบราคาขาย ป้ายบอกประเภทสินค้า ข้อความแสดงปริมาณความบริสุทธิ์ ชื่อและสถานที่ประกอบการ และน้ำหนักของทองรูปพรรณให้ชัดเจนก่อนเลือกซื้อทองรูปพรรณ
สำหรับผู้บริโภคที่ถูกเอารัดเอาเปรียบหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการซื้อสินค้าสามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนสคบ.1166, แอปพลิเคชัน OCPB Connect, เว็บไซต์ www.ocpb.co.th หรือร้องทุกข์ด้วยตนเองที่ศูนย์ราชการฯ อาคารรัฐประศาสนภักดี หรือคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัด เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบลทุกแห่ง




