เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นำทีมไทยเข้าร่วมประชุมระดับสูงของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติฯพร้อมรับรองปฏิญญาทางการเมืองฯ เร่งจัดการโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง


25 ก.ย. 2568, 14:08



ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นำทีมไทยเข้าร่วมประชุมระดับสูงของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติฯพร้อมรับรองปฏิญญาทางการเมืองฯ เร่งจัดการโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง




รวมถึงแสดงความเข้มแข็งระบบสาธารณสุขไทยด้วยการวางรากฐานบริการสุขภาพปฐมภูมิ และหารือเร่งรัดการบรรลุเป้าหมาย SDGs ด้านสาธารณสุขในภาวะวิกฤต การเตรียมพร้อมรับรอง Pandemic Agreement และการลงทุนด้านสุขภาพและสร้างหลักประกันสุขภาพอย่างยั่งยืน
     
(วันนี้ 25 กันยายน 2568) ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นหัวหน้าคณะนำทีมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ประกอบด้วย อธิบดีกรมสุขภาพจิต อธิบดีกรมอนามัย รองอธิบดีกรมควบคุมโรค และเจ้าหน้าที่เข้าร่วมการประชุมระดับสูงของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 4 ว่าด้วยการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อและการส่งเสริมสุขภาพจิตและสุขภาวะที่ดี (High-level Meeting on the prevention and control of NCDs and the promotion of mental health and wellbeing :HLM4) และกิจกรรมคู่ขนานด้านสาธารณสุขในห้วงการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ครั้งที่ 80 (UN General Assembly :UNGA80) ระหว่างวันที่ 22 - 26 กันยายน 2568 โดยมีผู้นำและผู้บริหารระดับสูงจากประเทศสมาชิกทั่วโลก รวมทั้งองค์กรระหว่างประเทศและภาคส่วนต่าง ๆ เข้าร่วม
     
นพ.โอภาสกล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการรับรองปฏิญญาทางการเมือง (Political Declaration) ของการประชุมระดับสูงครั้งที่ 4 ของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ว่าด้วยการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อและการส่งเสริมสุขภาพจิตและสุขภาวะที่ดี ที่ประกาศจุดยืนของผู้นำของรัฐและรัฐบาล และตัวแทนของรัฐและรัฐบาล ในการเร่งรัดงานด้านโรคไม่ติดต่อเพื่อบรรลุเป้าหมายในการลดอัตราการตายก่อนวัยอันควรจากโรคไม่ติดต่อลง 1 ใน 3 และบรรลุเป้าหมายระดับโลกภายในปี พ.ศ. 2573 ส่วนห้วงการประชุม UNGA 80 ตนได้กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมคู่ขนาน “The Political Economy of Implementing Primary Health Care: Key Policy Shifts” จัดโดยกลุ่ม Global Coalition on Public Health Care พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนการทำงานของประเทศไทยที่สนับสนุนการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบสุขภาพปฐมภูมิ ซึ่งเป็นการวางรากฐานสำคัญต่อการเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีประสิทธิภาพของประชาชนไทย ทั้งการออก พ.ร.บ.ระบบสุขภาพปฐมภูมิ พ.ศ. 2562 ควบคู่ไปกับแนวทางการกระจายอำนาจและส่งเสริมบทบาทชุมชนและท้องถิ่น พัฒนาศักยภาพบุคลากรสุขภาพและ อสม. อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อพัฒนาระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิ ถือเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความเป็นธรรมทางด้านสุขภาพควบคู่ไปกับการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
     
“ประเทศไทยยังได้ร่วมจัดกิจกรรมคู่ขนาน เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนนโยบายทางด้านสาธารณสุข ความสำเร็จและความท้าทายในการดำเนินงานของประเทศไทยด้านการมีส่วนร่วมของสังคมด้วย นอกจากนี้ ยังเข้าร่วมกิจกรรมคู่ขนานอื่น อาทิ การเร่งรัดการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านสาธารณสุขในภาวะวิกฤต การเตรียมพร้อมประเทศสำหรับการรับรอง Pandemic Agreement การป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อและสุขภาพจิต รวมถึงการลงทุนด้านสุขภาพและสร้างหลักประกันสุขภาพอย่างยั่งยืน” นพ.โอภาสกล่าว









Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.