เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



สธ.วางพวงมาลาถวายราชสักการะ “พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย” เนื่องในวันมหิดล 2568


24 ก.ย. 2568, 12:31



สธ.วางพวงมาลาถวายราชสักการะ “พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย” เนื่องในวันมหิดล 2568




รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นำคณะผู้บริหารและข้าราชการในสังกัด วางพวงมาลาถวายราชสักการะและถวายราชสดุดี สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก “พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย” เนื่องในวันมหิดล 2568

วันนี้ (24 กันยายน 2568) ที่ บริเวณลานพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี อยู่บนแท่นฐานเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุข นพ.พงศธร พอกเพิ่มดี รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นำคณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และบุคลากรในสังกัด วางพวงมาลาถวายราชสักการะและกล่าวถวายราชสดุดี สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เนื่องในวันมหิดล
     
นพ.พงศธร กล่าวว่า วันมหิดล ตรงกับวันที่ 24 กันยายน ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ซึ่งปวงชนชาวไทยร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีคุณูปการต่อประเทศชาติ ในฐานะ “พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย” ทรงอุทิศทั้งพระราชทรัพย์ พระวรกาย พระสติกำลัง เพื่อการแพทย์และการสาธารณสุข พระราชทานทุนทรัพย์เพื่อการศึกษาและค้นคว้า ก่อสร้างตึกและขยายพื้นที่โรงพยาบาลศิริราช ทรงเคยสำรวจสุขาภิบาลในกรุงเทพมหานคร และทรงช่วยอบรมสาธารณสุขมณฑล พระราชทานทุนเพื่อส่งคนไปศึกษาต่างประเทศ ทรงงานด้านการประมงและการเพาะพันธุ์สัตว์น้ำเพื่อโภชนาการที่ดีของคนไทย พระราชทานทุนให้กับโรงพยาบาลแมคคอร์มิค และพระราชทานเงินบำรุงโรงพยาบาลสงขลาเป็นรายปี อันเป็นการวางรากฐานแก่การแพทย์และการสาธารณสุขของไทยให้เจริญพัฒนาก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศ
      
นพ.พงศธร กล่าวต่อว่า พระองค์ได้ทรงงานด้านการแพทย์เยี่ยงสามัญชน ที่โรงพยาบาลแมคคอร์มิค จังหวัดเชียงใหม่ ทรงปฏิบัติพระราชภารกิจด้วยพระทัยเมตตา เปี่ยมด้วยพระวิริยะอุตสาหะ เป็นที่ซาบซึ้งของผู้เจ็บป่วยและชาวล้านนา เหล่าพสกนิกรได้พร้อมใจถวายพระสมัญญานามว่า “หมอเจ้าฟ้า” และยังทรงมีพระอัจฉริยะภาพด้านต่างๆ อาทิ การศึกษา การต่างประเทศ การทหารเรือ และศิลปะ โดยองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNESCO ได้มีมติถวายพระเกียรติยศให้ทรงเป็นบุคคลสำคัญของโลก เนื่องในโอกาสมหามงคล วันคล้ายวันพระราชสมภพ 100 ปี เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2535 เพื่อเฉลิมพระเกียรติและระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอันเป็นประโยชน์สุขของผู้อื่นตลอดพระชนม์ชีพซึ่งบุคลากรสาธารณสุขทุกหมู่เหล่าได้มุ่งมั่นเจริญรอยตามพระราชปณิธานและพระราชดำรัสที่ได้พระราชทานไว้ว่า “ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตนเป็นกิจที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง ลาภ ทรัพย์ และเกียรติยศจะตกมาแก่ท่านเอง ถ้าท่านทรงธรรมะแห่งอาชีพไว้ให้บริสุทธิ์”





คำที่เกี่ยวข้อง : #กระทรวงสาธารณสุข  




Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.