เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



“หลอก..ซ้ำสอง..” ”จิรายุ “เตือนภัยแก๊งคอลเซ็นเตอร์เปิดเพจแอบอ้างเป็นศูนย์ช่วยเหลือเหยื่อ ว่ามีทนาย และตร.คอยช่วยฟรี


18 ก.ค. 2568, 09:59



“หลอก..ซ้ำสอง..” ”จิรายุ “เตือนภัยแก๊งคอลเซ็นเตอร์เปิดเพจแอบอ้างเป็นศูนย์ช่วยเหลือเหยื่อ ว่ามีทนาย และตร.คอยช่วยฟรี




“หลอก..ซ้ำสอง..” ”จิรายุ “เตือนภัยแก๊งคอลเซ็นเตอร์เปิดเพจแอบอ้างเป็นศูนย์ช่วยเหลือเหยื่อ ว่ามีทนาย และตร.คอยช่วยฟรี แถมส่งบัตรตำรวจปลอมให้
บอกจนท.จะช่วยสุดท้ายโดนหลอกให้โอนเงินซ้ำสองย้ำอย่าติดต่อหรือโอนเงินผ่านทางออนไลน์เด็ดขาด มอบตำรวจสืบจับทันที

วันนี้ (18 กรกฎาคม 2568) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้รับเรื่องร้องเรียนผ่านรายการ“เสียงจากใจไทยคู่ฟ้า” ว่าปัจจุบันมีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ปรับรูปแบบการหลอกลวงใหม่ โดยที่ผ่านมามักจะใช้ช่องทางผ่านการโทรศัพท์หาเหยื่อโดยอ้างว่าเป็นตำรวจบ้าง เป็น หน่วยงานราชการสำคัญบ้าง อ้างว่ามีไปรษณีย์ตกค้างบ้าง รวมทั้งการส่งเอกสารหลอกลวงในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งสังคมไทยเริ่มคุ้นชินแล้ว ทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ปรับเปลี่ยนรูปแบบ

ปัจจุบันพบว่ามีการหลอกลวงโดยใช้แพลตฟอร์ม Facebook เพิ่มมากขึ้น โดยเปิดเพจแอบอ้างเป็น มูลนิธิหรือสำนักงานทนายสาธารณะที่ไม่มีค่าใช้จ่ายหรือ ศูนย์ช่วยเหลือการถูกหลอกลวง โดยปัจจุบันพบว่าในแพลตฟอร์ม Facebook มีชื่อว่า “สำนักงานช่วยเหลือเหยื่อคดีทางออนไลน์” โดยมีกลุ่มเป้าหมายเพื่อหลอกลวงซ้ำกับคนที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงให้โอนเงินไปยังบัญชีต่าง ๆ หรือกรณีที่ซื้อสินค้าไม่ได้รับสินค้าหรือสินค้าไม่ตรงปกเป็นจำนวนมาก

"กระบวนการเหล่านี้จะเปิด Facebook แฟนเพจและขึ้นหน้าเพจว่าเป็นองค์การไม่แสวงหากำไรเพื่อช่วยเหลือเหยื่อที่โดนหลอกลวงทางออนไลน์โดยจะให้แอด LINE กับทนายความ โดยระบุว่าจะมีทีมทนายให้การช่วยเหลือเมื่อขบวนการมิจฉาชีพได้รับเรื่องจากผู้ที่เป็นเหยื่อก็จะส่งต่อให้กับกลุ่มมิจฉาชีพที่ปลอมตัวเป็นตำรวจจากหลายหน่วยงาน ซึ่งจากการตรวจสอบพบมีการส่งบัตรข้าราชการตำรวจให้เหยื่อได้หลงเชื่อ จากนั้นจะทำงานเป็นทีมเพื่อหลอกลวงให้ผู้ที่โชคร้ายอยู่แล้วต้องโชคร้ายซ้ำสอง  โดยคณะทำงานได้ ตรวจสอบบัตรประจำตัวตำรวจดังกล่าวไม่ปรากฏว่าเป็นตำรวจจริง และได้ตรวจสอบพบว่าชื่อ ทนายความดังกล่าวไม่ปรากฏอยู่ในสารบบของทะเบียนทนายความ" 

นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้คณะทำงานได้ส่งเรื่องให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามตรวจสอบและจับกุมกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้อยู่ ทั้งนี้ขอแจ้งเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อในกระบวนการหลอกลวงรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะการแอบอ้างผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น TikTok  Instagram และ Facebook ซึ่งเป็นช่องทางที่กลุ่มมิจฉาชีพนิยมใช้เพื่อชักจูงให้หลงเชื่อและโอนเงิน

“อย่าโอนเงินให้บุคคลหรือเพจที่ไม่น่าเชื่อถือโดยเด็ดขาด และหากพบเบาะแสหรือพฤติกรรมต้องสงสัย สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ สายด่วน 1111 ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล หรือทาง อีเมล [email protected] เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการโดยเร็ว” นายจิรายุกล่าว









Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.