เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



รัฐบาลจัดระเบียบ หน่วยสืบหน่วยจับ เดินหน้าเชิงรุก บูรณาการทุกหน่วยงาน ปราบปรามสินค้าลิขสิทธิ์ ธุรกิจนอมินี บุหรี่ไฟฟ้า หลังต่างคนต่างทำ


22 มิ.ย. 2568, 15:35



รัฐบาลจัดระเบียบ หน่วยสืบหน่วยจับ เดินหน้าเชิงรุก บูรณาการทุกหน่วยงาน ปราบปรามสินค้าลิขสิทธิ์ ธุรกิจนอมินี บุหรี่ไฟฟ้า หลังต่างคนต่างทำ




วันนี้ (22 มิ.ย. 68) เวลา 09.30 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมชี้แจงการดำเนินการแก้ไขปัญหา การนำเข้า และการละเมิดสินค้าลิขสิทธิ์ ธุรกิจผิดกฎหมาย บุหรี่ไฟฟ้า และนอมินี โดยมี นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง นายณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ผู้แทนจากกระทรวงพาณิชย์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมศุลกากร ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กองบังคับการตำรวจนครบาล6 ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล 1111 และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กอรมน.ฝ่ายเศรษฐกิจ เข้าร่วมประชุม

นายจิรายุ กล่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งที่ 8 ประจำปี 2568 เมื่อวันอังคารที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในเรื่อง บุหรี่ไฟฟ้า การลักลอบนำเข้าและขายสินค้าลิขสิทธิ์ การป้องกันและปราบปรามธุรกิจผิดกฎหมาย อาทิ 1) การจดทะเบียนของบริษัทนอมินี 2) การลักลอบนำเข้าสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน 3) การลักลอบสวมสิทธิ์เป็นสินค้าไทย และ 4) โรงงานต่างชาติฝ่าฝืนกฎหมาย และการรับสินบนของเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งนี้ ตนได้สอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถึงผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาสินค้าลิขสิทธิ์ ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2567 จนถึงปัจจุบัน ดังนี้

ผู้แทนจากกระทรวงพาณิชย์ รายงานความคืบหน้าการปราบปรามธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย (NOMINEE) โดยผลการดำเนินการในช่วงตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2567 - 31 พฤษภาคม 2568 หน่วยงานต่าง ๆ ได้ดำเนินการกับผู้กระทำความผิดแล้ว 861 ราย และมีมูลค่าเสียหายรวม 15,296 ล้านบาท 

ผู้แทนจากกรมศุลกากร รายงานสถิติการจับกุมสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ในปีงบประมาณ 2567 ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566 - 30 กันยายน 2567 ยึดสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญารวม 1,138,566 ชิ้น มูลค่าความเสียหาย 47,341,510 บาท และงบประมาณปี 2568 ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2567 - 31 พฤษภาคม 2568 ยึดสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญารวม 74,253 ชิ้น มูลค่าความเสียหาย 27,063,702 บาท 

ผู้แทนจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ รายงานผลการปฏิบัติ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 ถึง กันยายน 2567 ในฐานความผิดเรื่อง พ.ร.บ. เครื่องหมายการค้า พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ และ พ.ร.บ. สิทธิบัตร คดีจับ 686 ราย ผู้ต้องหา 686 คน ของกลาง 1,891,968 ชิ้น มูลค่าความเสียหาย 365,682,493 บาท 

ผู้แทนจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 ได้มีการลงตรวจสอบพื้นที่แพร่ระบาดของสินค้าลิขสิทธิ์ ได้แก่ ศูนย์การค้า MBK ซึ่งเป็นพื้นที่แพร่ระบาดหลัก ภายหลังการดำเนินการตรวจสอบ ปราบปราม และจับกุม พบว่ามีการเปลี่ยนรูปแบบการจำหน่ายสินค้า จากรูปแบบหน้าร้าน เป็นรูปแบบออนไลน์ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับกุม

ผู้แทนจากกองอำนวยรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร รายงานผลการดำเนินงานว่าได้มีการประสานงานร่วมกับหน่วยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางในการป้องกันและปราบปรามสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ทั้งยังมีการดำเนินการรณรงค์ปลูกจิตสำนึกเกี่ยวกับการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อเป็นการกระตุ้นผู้ขายและผู้ซื้อให้ทราบว่าสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย โดยการดำเนินการประจำปีของ กอ.รมน. มี 3 โครงการ ได้แก่ โครงการประชุมเชิงปฏิบัติการด้านการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โครงการพัฒนาเครือข่ายเฝ้าระวังการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และโครงการประสานงานและแก้ไขปัญหาด้านการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา

ผู้แทนจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ รายงานผลการดำเนินงานในรอบปีงบประมาณ 2567 และ 2568 โดยในปี 2567 มีคดีพิเศษจำนวน 16 คดี ดำเนินการแล้วเสร็จ 7 คดี ยึดของกลางได้ 224,477 ชิ้น มูลค่าความเสียหาย 275,701,200 บาท และปี 2568 มีคดีพิเศษ 8 คดี ยึดของกลางได้ 847,928 ชิ้น มีมูลค่าความเสียหาย 269,578,408 บาท 

นายจิรายุ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อหาแนวทางการดำเนินการทำงานที่สามารถบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและข่าวสารต่าง ๆ เข้ามาร่วมกัน เนื่องจากแต่ละหน่วยงานมีการทำงานที่แตกต่างกัน กว่า 10 หน่วยงานมีความรับผิดชอบเหมือนกัน แต่ที่ผ่านมาต่างคนต่างเข้าจับกุม แต่ยังไม่มีการรวบรวมข้อมูลผลการดำเนินงานในแต่ละไตรมาสว่าเป็นแบบไหนอย่างไร ผลออกมาในแต่ละปีเป็นอย่างไร ทั้งนี้ เพื่อให้มีแนวทางการทำงานและกรอบการทำงานที่ชัดเจนมากขึ้น รวมถึงการรวบรวมข้อมูลเพื่อนำเสนอต่อเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอท่านนายกรัฐมนตรีเป็นข้อสั่งการ เพื่อยกระดับการทำงานของรัฐบาลที่รวดเร็วและชัดเจนต่อไป

นายจิรายุกล่าวอีกว่า คณะทำงานยังได้รับเรื่องร้องเรียนเป็นจำนวนมากว่าเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานรับสินบนจากผู้กระทำผิดกฎหมาย ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ สืบสวนสอบสวนในทางลับเพื่อเตรียมสรุปรายงาน เพื่อยื่นคำร้องฟ้องเอาผิด เจ้าหน้าที่ ที่มีพยานหลักฐานชัดเจนทั้งผู้ทำหน้าที่เก็บส่วยผู้เปิด บัญชี ม้าที่พบว่าเชื่อมโยงกับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม และเส้นทางการเงินที่ไปยังเจ้าหน้าที่ และคนใกล้ชิดหลายส่วน ต่อ ปปท.ปปช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป









Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.