ผนึกกำลังปิดช่องโหว่ทางกฎหมาย! สกัดนอมินีใช้คนไทยถือครองที่ดินแทน จับตาเข้มใน 6 ธุรกิจเสี่ยง
1 มิ.ย. 2568, 13:46

วันอาทิตย์ ที่ 1 มิถุนายน 2568 เวลา 09.00 น. นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าปัจจุบันมีคนต่างด้าวเข้ามาถือครองที่ดินในไทย โดยใช้วิธีให้คนไทยถือครองที่ดินแทน เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดของกฎหมาย และยังพบว่ามีการนำที่ดินไปใช้ประโยชน์ สำหรับประกอบธุรกิจที่ต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าว หรือธุรกิจที่คนไทยยังไม่พร้อมแข่งขัน ซึ่งเป็นการบิดเบือนกลไกตลาด จนส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ เพื่อให้การตรวจสอบสามารถทำได้ครอบคลุมมากขึ้นนั้น
นายคารม กล่าวว่า กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้ดำเนินการ MOU ระหว่างกันด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อแก้ไขปัญหาการใช้คนไทยถือครองที่ดินแทนคนต่างด้าว และเพื่อปิดช่องโหว่ทางกฎหมาย ป้องกันไม่ให้คนต่างด้าวใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ทางกฎหมายเข้ามาถือครองที่ดิน สำหรับความร่วมมือครั้งนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะส่งต่อรายชื่อนิติบุคคลเสี่ยงให้กับกรมที่ดิน ทั้งนี้ ได้มีการตรวจสอบแล้วพบว่า มีนิติบุคคลที่เสี่ยงเป็นนอมินีจากการที่มีคนต่างด้าวเข้ามาถือหุ้นตั้งแต่ 0.001-49.99% ใน 6 ธุรกิจเสี่ยง จำนวน 46,918 ราย ซึ่งในจำนวนนี้เป็นธุรกิจค้าที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ จำนวน 26,038 ราย คิดเป็น 55.49% ของธุรกิจเสี่ยงทั้งหมด โดยจะดำเนินการส่งรายชื่อทั้งหมดให้กรมที่ดิน เพื่อพิจารณาประกอบการอนุญาตให้ถือครองที่ดิน และป้องกันไม่ให้คนต่างด้าวเข้ามาถือครองที่ดินต่อไป
นอกจากนี้ จะมีการพิจารณาเพิ่มโทษการถือครองที่ดินของคนต่างด้าว จากเดิมที่มีโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 2 หมื่นบาท ซึ่งเป็นโทษตามกฎหมายเดิม ปี 2497 แต่จะมีการปรับให้มีความเข้มข้นและทันสมัยมากขึ้น ซึ่งล่าสุด สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กำลังยกร่างกฎหมายใหม่ที่ทำร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในการบรรจุฐานความผิดนอมินี เป็นความผิดมูลฐาน และเปิดช่องให้ยึดทรัพย์ได้ ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาคนต่างด้าวถือครองที่ดินได้ดีขึ้น
“รัฐบาลเร่งขับเคลื่อนมาตรการต่าง ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาธุรกิจนอมินีอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าการผนึกกำลังของหน่วยงานภาครัฐในครั้งนี้ จะเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในป้องกันและปกป้องสิทธิของประชาชนไทย ตลอดจนสร้างความเป็นธรรมในการดำเนินธุรกิจของประเทศได้” นายคารม ระบุ