ไทย-มาเลเซียหารือกระชับความร่วมมือด้านการจัดการน้ำ เน้นย้ำเจตนารมณ์ร่วมพัฒนาลุ่มน้ำโก-ลก อย่างยั่งยืน
23 พ.ค. 2568, 20:39

วันนี้ (23 พฤษภาคม 2568) ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หารือทวิภาคีกับ ดาโตะ ซรี ฮาจี ฟาดิลละห์ บิน ฮาจี ยูซฟ (Dato’ Sri Haji Fadillah bin Haji Yusof) รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเปลี่ยนผ่านพลังงานและปฏิรูปน้ำของมาเลเซีย ในโอกาสการเยือนไทย
รองนายกรัฐมนตรีฯ ประเสริฐ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับรองนายกรัฐมนตรีมาเลเซียในครั้งนี้ พร้อมย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับความร่วมมือด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ซึ่งมีผลสำคัญต่อการพัฒนา โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มน้ำโก-ลก ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดนที่ไทยและมาเลเซียใช้ทรัพยากรน้ำร่วมกัน
ด้านรองนายกรัฐมนตรีฯ มาเลเซีย กล่าวชื่นชมความร่วมมือระหว่างไทยและมาเลเซีย ซึ่งไม่เพียงจำกัดอยู่ที่ด้านการเมือง แต่ยังครอบคลุมถึงเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ รวมถึงมีความเชื่อมโยงกันอย่างแน่นแฟ้นผ่านประวัติศาสตร์อันยาวนาน การมีพรมแดนร่วมกัน การค้าชายแดน และความร่วมมือในหลากหลายมิติ พร้อมขอบคุณประเทศไทยที่ให้การสนับสนุนและความช่วยเหลือมาโดยตลอดในทุกด้าน
การหารือครั้งนี้นับเป็นการสานต่อผลลัพธ์จากการเยือนไทยของนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งได้เห็นพ้องร่วมกันในการยกระดับความร่วมมือทวิภาคี ทั้งในมิติของเศรษฐกิจ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ความร่วมมือด้านวัฒนธรรม ความมั่นคง และทรัพยากรน้ำ โดยเฉพาะการป้องกันและบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำโก-ลก ซึ่งเป็นประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายตระหนักถึงความจำเป็นเร่งด่วนและพร้อมผลักดันสู่แผนปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งสองฝ่ายยังหารือถึงโครงการขุดลอกปากแม่น้ำโก-ลก และการก่อสร้างเขื่อนกันน้ำ และแนวกันตลิ่งพัง ซึ่งฝ่ายไทยรับทราบข้อเสนอ และระบุว่าประเด็นนี้ต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะผลกระทบที่อาจมีต่อเขตแดน พร้อมหวังว่าจะมีการจัดการปัญหาร่วมกันทั้งสองฝ่ายอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้ง โดยจะมอบหมายให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเป็นผู้ประสานงานหลักของฝ่ายไทยเพื่อที่จะดำเนินความร่วมมือกับมาเลเซีย
ทางมาเลเซียได้กล่าวขอบคุณที่ไทยได้รายงานให้ทราบถึงปัญหาทั้งเรื่องตะกอนดินของแม่น้ำโก-ลก ทางมาเลเซียได้นำผลการศึกษาและการรายงานเพื่อส่งให้รัฐบาลมาเลเซียดำเนินการต่อไปในเรื่องการขุกลอก โดยคาดว่าโครงการดังกล่าวจะดำเนินการเสร็จภายใน 2 ปี ทั้งนี้ ไทยและมาเลเซียจะได้มีการหารือร่วมกันอีกครั้งในเดือนมิถุนายน ซึ่งหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะได้หารือร่วมกันและเสนอแนะแนวทางซึ่งกันและกัน เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน