เป็นเรื่องราวที่แสนน่ารักและน่าประทับใจในโลกโซเชี่ยล ในเพจเฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า KruNui Iyavee ได้โพสต์ภาพในห้องเรียน ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่ครูกำลังสอนนักเรียนในห้องเรียน โดยมีน้องหมา 3 ตัว มานอนเฝ้าอยู่หน้ากระดานดำ เหมือนว่ามาเรียนหนังสือด้วย พร้อมข้อความ "Good afternoon class. ที่นี่คือห้องเรียนในชนบท นร.สี่ขาเข้าเรียนด้วยตลอด #เพราะพวกเจ้าคือสิ่งที่ทำให้ฉันยิ้มและมีความสุขในทุกๆวัน" โดยมีผู้เข้ามาชื่นชมและแชร์ต่อออกไปจำนวนมาก

 

 

 

 

 

วันที่ 13 มิถุนายน 2562 ผู้สื่อข่าว ONBNews ได้เดินทางไปที่โรงเรียนบ้านเชียงดา ต.เชียงดา อ.สร้างคอม ที่เป็นโรงเรียนตามภาพที่โพสต์ในสื่อโซเชี่ยล พบกับ น.ส.อัยยาวีร์ พรมหีต ครู คศ.1 หรือ ครูหนุ่ย ครูสอนวิชาภาษาอังกฤษ ของนักเรียนโรงเรียนบ้านเชียงดา ที่กำลังสอนหนังสือนักเรียนชั้น ม.1 ในห้องเรียน โดยมีนักเรียนชายและหญิง กำลังเรียนวิชาภาษาอังกฤษอยู่ ขณะที่หน้ากระดานดำพบน้องหมา 4 ขา 3 ตัว นอนและหมอบนิ่งคอยอยู่ที่พื้นด้วยอาการสงบ ไม่ได้ไปเดินรบกวนการเรียนการสอน

 

 

 

 

 

หลังเรียนจบชั่วโมง เมื่อครูหนุ่ย ออกจากห้องเรียน น้องหมา 4 ขาทั้ง 3 ตัว ก็เดินตามออกมาจากห้องเรียน โดยมีนักเรียนชั้น ป.4-ป.6 ทั้งชายและหญิง มาคอยเพื่อที่จะเล่นกับน้องหมาทั้ง 3 ตัว โดยน้องหมาทั้ง 3 ตัว ไม่มีอาการดุร้าย หรือขู่ หรือ เห่า กลุ่มนักเรียนที่มาคอยเล่นด้วยแต่อย่างใด ซึ่งน้องหมาทั้ง 3 ตัว มีชื่อว่า เจ้ากะเพรา เจ้าออสก้า และ เจ้านมสด

 

 

น.ส.อัยยาวีร์ พรมหีต บอกว่า เป็นภาพของตนเองที่โพสต์ลงในเฟสบุ๊ค ความจริงเริ่มมาไมได้ตั้งใจจะเลี้ยง เริ่มจากทางภารโรงของโรงเรียนที่ลาออกไป ที่เลี้ยงเจ้ากะเพราน้องหมาเพศเมียไว้ เมื่อเจ้ากะเพรามาเจอเรา ด้วยความที่เรารักน้องหมาอยู่แล้ว ผูกพันกับหมามาตั้งแต่เด็ก เลยให้ข้าวให้น้ำเขา เมื่อหมาได้กินกับเราแค่ครั้งเดียว เขาก็จะจำเราได้ตลอดชีวิต จากนั้นก็เลยเลี้ยงเขามา ต่อมาก็มีเจ้าออสก้า เพศผู้ ที่เป็นหมาของนักเรียนที่เรียนจบไปแล้ว มาคิดพันเจ้ากะเพาะ ก็เลยมาอยู่ที่โรงเรียนเลย กลายเป็นลูกเขยเราไปเลย จนเขามีลูกออกมา 2 คลอก

 

 

 

"โดยเจ้านมสดเป็นลูกคลอกที่ 2 ของเจ้ากะเพรากับเจ้าออสก้า เป็นเพศเมีย ก็อยู่ที่โรงเรียนด้วย ตอนนี้อายุ 8 เดือนแล้ว กำลังจะพาไปทำหมัน เราก็เลยเลี้ยงเขาทั้งหมด ทุก ๆ วันก็จะหาอาหารเม็ด อาหารกระป๋อง มาให้เขากิน ซึ่งเป็นเงินส่วนตัวของเรา และก็จะซื้อข้าวจากแม่ครัวของโรงเรียนมาให้เขาด้วย เด็กนักเรียนเขาก็จะรู้ว่า พอถึงตอนเย็นเด็ก ๆ ก็จะวิ่งไปเอาข้าวและกับข้าวกับแม่ครัวมาให้ เมื่อเด็ก ๆ กลับบ้านหมด เราถึงจะเอาข้าวให้น้องหมากิน หลังจากนั้นเราจึงกลับบ้าน ซึ่งทั้ง 3 ตัวก็จะวิ่งไปส่งที่หน้าประตูโรงเรียน และก็กลับมานอนรอในที่ที่เราให้เขาอยู่ในโรงเรียน"

 

 

 

 

 

ครูอัยยาวีร์ เล่าอีกว่า ถามว่าทำไมน้องหมาทั้ง 3 ตัว ถึงเข้าไปในห้องเรียนด้วย เริ่มต้นมาจากเจ้ากะเพรามันตามเราไปทุกที่ก่อน ตอนนั้นก็ไล่เขา ใช้ไม้เรียวเล็กๆ ตีบ้าง แต่ว่าพอตียังไงเขาก็ยอมให้เราตี จนบางครั้งบางที่มีเจ้านายมาตรวจเยี่ยมโรงเรียนเราก็ต้องตีบ้าง ซึ่งเขาก็หลบออกไป จนมาภายหลังเมื่อเขาเข้าห้องเรียน ตอนนั้นเรากลัวเรื่องเห็บหมัด เรื่องความสกปรก ก็เลยต้องรักษาความสะอาดอาบน้ำให้ กินยาฆ่าเห็บหมัดอย่างดี เม็ดละ 4-500 บาท เพราะเรากลัวว่าผู้ปกครองเด็กนักเรียนเขาจะมีฟีตแบคกลับมา แต่ก็ไม่มีอะไรผู้ปกครองเด็กก็รัก เด็กนักเรียนก็รักและผูกพัน เพราะเขาไม่กัดคน ไม่ดุร้าย

 

"ส่วนที่น้องหมาทั้ง 3 ตัวเข้าในห้องเรียน ความจริงตัวหลัก คือ เจ้ากะเพรา ตอนนี้เราพยายามจัดโซนให้เขาอยู่ เพราะที่นี้เป็นโรงเรียนคุณภาพประจำตำบล ต่อไปจะมีผู้ใหญ่เดินทางมาเยอะ เราจึงเริ่มจัดระเบียบหมา ให้เขาไปอยู่อาคารร้าง และบ้านพักครูที่ไม่มีครูอยู่ พอเราว่างจากการสอนก็จะไปดูเขา ถามว่ามันมารบกวนเวลาเรียนของเด็กไหม ตอบว่าไม่เลย พอมันเข้าไปก็จะนอน โดยทางผู้บริหารโรงเรียนขอแค่ว่า อย่าให้เขาเข้าไปในส่วนของสำนักงาน และเวลาที่มีผู้ใหญ่มาจากที่อื่น โดยเหล่า 4 ขาทั้ง 3 ตัว ก็ไม่ไปยุ่งย่าม"