วันนี้ (19 เม.ย.67) เวลา 19.00 น. ร.ต.อ.นิวัฒน์ แจงกระโทก รอง สว.(สอบสวน) สภ.ห้วยหลวง อ.เมือง จ.อุดรธานีรับแจ้งมีผู้เสียชีวิตถูกไฟคลอกกลางทุ่งนา ในพื้นที่บ้านนาคลอง ม.6  ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงเดินทางไปที่เกิดเหตุแพทย์เวรรพ.ศูนย์อุดธานีและกู้ภัยสว่างเมธาธรรมจ.อุดรธานี เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพื้นที่นาหลายไร่พบว่าไฟไหม้ตอซังข้าวจนมอดแล้ว กลางทุ่งนาพบศพนายบัวลอง พิมพ์สาลี อายุ 73 ปี เจ้าของนา ถูกไฟคลอกทั้งตัวมีแผลผุพอง  คาดว่าเสียชีวิตมาตั้งแต่บ่ายวันนี้ ส่วนญาติไม่ติดใจในการเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ฯ จึงมอบศพให้ญาติไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี

น.ส.ทิพวัลย์ ธรหาญ อายุ 41 ปี  ลูกสะใภ้ เล่าว่า ก่อนหน้าพ่อจะเสียชีวิตตอนบ่ายตนยังเห็นพ่อนั่งกินข้าวอยู่ที่บ้าน แต่ตนก็ไม่ได้พูดคุยด้วยหรือสอบถามว่าพ่อทำอะไรจะไปไหนหรือเปล่าวันนี้ จากนั้นตนก็ออกไปตลาดกลับมาตนก็ทำกับข้าวช่วงประมาณ 5 โมงกว่าๆ เห็นจักรยานพ่อจอดอยู่ที่บ้าน เอะใจว่าทำไมพ่อไม่อยู่บ้านจึงออกเดินตามหากลางทุ่งนา เห็นคนจุดไฟเผาตอซังข้าว คิดว่าเป็นพ่อแน่ๆ  เดินมาสักพักเจอมีด แล้วก็เดินหาต่อกลางทุ่งนา  ใจก็หวั่นๆอยู่ว่า อย่าให้พ่อถูกไฟคลอกนะ เพราะเรียกเท่าไหร่ไม่ตอบ กระทั่งมาพบศพว่าพ่อถูกไฟคลอกเสียชีวิตแทบช็อคเลย พ่อออกมาตั้งแต่บ่ายสอง มาเผาตอซังข้าวเพื่อเตรียมทำนา ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ก็บอกว่าอย่าเพิ่งเผาวันนี้เห็นมีพายุเข้าและลมแรง วันหลังค่อยมาเผาเดี๋ยวปู่และญาติๆ จะมาช่วยแต่แกก็ไม่เชื่อและมาทำเอง จนเกิดเหตุสลดแบบนี้
 
นางสมจิตร อายุ 70 ปี  อดีตภรรยา บอกว่า คนตายเป็นอดีตสามีแต่เลิกกันนานแล้ว วันนี้มาดูร่างครั้งสุดท้ายคิดว่าอดีตสามีออกมาเผาตอซังข้าวเพื่อเตรียมพื้นที่ทำนาในปีนี้ พอจุดไฟเผาแล้วอาจจะวูบหรือถูกควันไฟที่เผาตังซอข้าวล้อมหน้าล้อมหลัง หายใจไม่ทันจึงทำให้เสียชีวิต

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ คาดว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากผู้เสียชีวิตจุดไฟเผาตอซังข้าวในนาของตัวเอง ก่อนที่จะลงฤดูกาลทำนาในเดือนหน้านี้  แต่ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนจัดประกอบกับผู้เสียชีวิตอายุมากคาดว่าอาจเป็นลมหรือวูบจนหมดสติ และถูกไฟที่ไหม้ตามทุ่งนาคลอกจนทำให้เสียชีวิตตั้งแต่บ่ายไม่มีใครเห็น จนญาติออกตามหามาเจอศพกลางทุ่งนาดังกล่าว