เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ตามไปดูชีวิต! 2 ตาหลานเข้าเมือง เล่นสงกรานต์ - ไม่มีค่ารถกลับบ้าน เห็นแล้วอึ้ง สู้ชีวิตเก็บหอยขาย


18 เม.ย. 2567, 14:24



ตามไปดูชีวิต! 2 ตาหลานเข้าเมือง เล่นสงกรานต์ - ไม่มีค่ารถกลับบ้าน เห็นแล้วอึ้ง สู้ชีวิตเก็บหอยขาย




 

ตามไปดู 2 ชีวิตตาหลาน ที่อ.ทุ่งฝน ตาใจดีพาหลานเข้ามาในเมืองหลานอยากเห็นรถไฟเล่นน้ำสงกรานต์และเห็นรถวิ่งขวักไขว่ หลังไม่มีค่ารถกลับบ้านจะปั่นจักรยานกลับบ้านระยะไกลกว่า 70 กม. พลเมืองสงสารมองเงินเป็นค่ารถกลับบ้าน วันนี้ไปดูสภาพชีวิตของสองตาหลานท่านนี้ เห็นสภาพบ้านถึงกับอึ้ง บ้านเก่าๆ ต้องอยู่กันเพียงลำพัง ภรรยาของตาเสียชีวิตเมื่อ 6 ปี สู้ชีวิตรับจ้างทั่วไป อาชีพหลักคือพาหลานชายงมหอยได้ครั้งละ 5 กก.ไปขายได้เงิน 100 บาทประทังชีวิต  ชาวบ้านบอกเรื่องราวจริงชีวิตตาสมควรและหลานน่าสงสาร บางวันหลานมาโรงเรียนไม่มีแม้แต่เสื้อผ้าจะใส่

วันนี้ (18 เม.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี นายสมควร จันทรเสนาหรือตาควร อายุ 60 ปี ชาวบ้านโนนสมบูรณ์ หมู่ 5 ต.นาชุมแสง อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี และหลานชายชื่อ น้องม่อน อายุ 6 ขวบ นั่งรอรถโดยสารอยู่ข้างทางตลาดหนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี มีกระเป๋าเสื้อผ้าและจักรยานคันเก่าๆ อีก 1 คัน เจ้าของร้าน 8888 โฟนเทคเห็นจึงเข้าไปสอบถาม ทราบว่า รอรถโดยสารประจำอำเภอและจะพาหลานชายกลับบ้านที่อ.ทุ่งฝน แต่ไม่มีเงิน พลเมืองดีจึงมอบเงินให้จำนวน 200 บาทและพาไปส่งขึ้นรถโดยสารสายอุดรธานี-คำตากล้า นับเป็นเรื่องราวดีๆ ดูแล้วใจฟูทั้งคนมีน้ำใจมอบเงินให้คุณตาและหลานชาย และเรื่องราวน่ารักๆ ของคุณตาที่พาหลานเข้ามาในเมือง หลังจากถูกแรงอ้อนของหลานไม่ไหว อยากเข้ามาในเมือง มาดูรถไฟ มาดูสวนหนองประจักษ์ เห็นรถยนต์วิ่งขวักไขว่ เพราะน้องม่อนหลานชายวัย 6 ขวบไม่เคยเข้ามาในเมืองอุดรธานีเลย

ล่าสุดวันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 189 หมู่ 5 บ้านโนนสมบูรณ์ ต.นาชุมแสง อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี พบกับคุณตาสมควรและน้องม่อน หลบอยู่ในบ้านท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัด จากสภาพบ้านที่เห็นเป็นบ้านปูนชั้นเดียวหลังเก่าๆ และมีเป็นกระท่อมหลังเล็กมุงด้วยสังกะสีเก่าอยู่อีกหลัง  โดยคุณตาเมื่อเห็นผู้สื่อข่าวดีใจ พร้อมบอกว่า ผมกลับมาถึงบ้านแล้วครับ กลับมาถึงบ้านเมื่อวานประมาณ 1 ทุ่ม ขอบคุณน้ำใจคนไทยที่มอบเงินช่วยเหลือ 200 บาทพาหลานกลับมาถึงบ้าน

ตาสมควร บอกว่า บ้านหลังนี้เป็นบ้านของภรรยาคือนางคำมวน เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ก็เลยอาศัยอยู่กับหลานชายคือน้องม่อน อายุ 6 ขวบเพียง 2 คน ส่วนแม่ของด.ช.ม่อน ที่ไปอยู่กับสามีใหม่ที่อ.เพ็ญ นานๆ ทีจะมาเยี่ยมลูกสักครั้ง และวันนี้แม่น้องม่อนก็มาเยี่ยมลูกชายพอดี ตอนแรกผมเข้าไปตัวเมืองอุดรธานีเมื่อวันที่ 9 เม.ย.เพื่อไปหางานทำ กลับมาบ้านอีกครั้งเห็นหลานอยู่คนเดียวก็สงสาร บางวันแม่เขาก็ไม่อยู่ด้วย ปล่อยให้หลานอยู่คนเดียว พอกลับมาหาหลาน หลานก็เลยอ้อนอยากไปเที่ยวในเมืองให้ตาพาไป

ตาสมควร บอกอีกว่า สาเหตุที่พาหลานชายไปตัวเมืองอุดร เพราะหลานชายอ้อนบอกว่า ตาๆ พาไปเที่ยวสงกรานต์ในเมืองหน่อย อยากเห็นรถไฟ อยากรถยนต์ที่วิ่งไปมาขวักไขว่ และอยากไปดูปลาที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์เพราะหลานไม่เคยไป ก็รับปากหลานชาย แต่ก่อนไปก็พากันไปงมหอยที่ฝายกั้นน้ำบ้านนาทม ได้หอยมา 4 กก.ไปขายได้เงิน 80 บาท จากนั้นก็ไปขึ้นรถโดยสารของลุงอ้าก บ้านนาทม ซึ่งท่านก็ใจดีไม่เก็บเงินสักครั้ง ตอนนั้นก็เอาจักรยานขึ้นรถไปด้วย เมื่อวันที่ 9 เม.ย.67 ที่ผ่านมา  พอพาหลานชายเที่ยวในเมืองไปนอนบ้านพี่สาว เงินหมด จะขอพี่สาวก็กระไรอยู่เพราะต่างคนต่างหากินไปวันๆ จึงพากันไปรอขึ้นโดยสารของลุงอ้าก ซึ่งเป็นรถโดยสารประจำหมู่บ้านระหว่างบ้านนาทม-อุดรธานี แต่รถไม่มาซะที  พอดีมีพลเมืองมาเห็นแล้วสอบถาม จึงมอบเงินเป็นค่ารถกลับบ้าน ขอบคุณน้ำใจที่ช่วยเหลือค่ารถผมและตาได้กลับบ้านค่ำ กลับบ้านมาถึงก็ 1 ทุ่มมืดค่ำพอดี

ส่วนน้องม่อน หนูน้อยที่ไม่เคยเมืองอุดร บอกกับนักข่าวอย่างไร้เดียงสา ว่า ตาเข้าไปในเมือง ให้ผมอยู่คนเดียว บางวันแม่ก็มาอยู่ด้วย พอตากลับมาที่บ้านอีกครั้ง ก็อยากไปกับตาด้วย เลยอ้อนตาบอกว่า ตาๆ พาผมไปอุดรด้วยนะครับ ผมอยากไปดูรถไฟ ไปเล่นน้ำสงกรานต์ และเห็นรถยนต์เยอะมาก ผมเห็นรถไฟยาวและใหญ่มาก  ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยไปเมืองอุดรสักที ดีใจครับที่ตาพาเขาไปชมเมือง

น.ส.พันธ์ทิพย์ ชมศรีอวน อายุ 27 ปีแม่ของน้องม่อน  บอกว่า ตนเองมีลูก 2 คนอีกคนเป็นผู้หญิง สามีอีกคนเอาไปเลี้ยง ส่วนน้องม่อนอยู่กับตาสมควร ส่วนตนเองก็ไปอยู่บ้านสามีที่อ.เพ็ญ นานๆ ทีจะมาเยี่ยมลูกชายสักครั้ง อย่างวันนี้ก็มาเยี่ยมลูกพอดี ที่ไม่ได้เอาลูกชายไปอยู่ด้วย เพราะมีสามีใหม่และต้องไปทำงานหลายๆ ที่จึงให้น้องม่อนลูกชายอยู่กับตาสมควร คิดถึงก็มาเยี่ยม

ผู้สื่อข่าวถามว่า คุณตาทำอาชีพอะไร ตาสมควรก็บอกว่า ปกติจะรับจ้างทั่วไป ใครจ้างให้ทำอะไรก็ทำหมด ได้ครั้งละ 100-200 บาท เอาเงินมาซื้อข้าวกัน ซื้อขนมให้หลาน แต่งานหลักคือจะไปงมหอยขาย ได้ครั้งละ 4-5 กก.และน้องม่อนจะชอบงมหอยมาก

จังหวะเดียวกันที่ตาสมควรจะไปงมหอยไปขาย ตาและน้องม่อนจึงซ้อนรถจยย.แม่น้องม่อนที่มาเยี่ยมวันนี้ไปที่ฝายน้ำล้นบ้านนาทม พากันงมหอยเชอร์รี่ หอยเกษตรได้จำนวนหนึ่ง และจะเอาไปขายเพื่อหาเงินเอาไว้ใช้แต่ละวัน นับเป็นเรื่องราวสู้ชีวิตของตาและหลานชายชาว อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี ดูแล้วหัวใจฟู

ขณะที่นางคำบด ตรีวิเศษ อายุ 63 ปีชาวบ้าน บ้านโนนสมบูรณ์ บอกว่า ชีวิตของตาสมควรน่าสงสาร จริงๆ แล้วหลานชายคือน้องม่อนเป็นลูกของลูกสาวติดภรรยามา แต่ตาสมควรก็ยังเลี้ยง ส่วนแม่ของนายม่อนไม่ค่อยอยู่บ้าน พอไข่ออกมาแล้วก็ทิ้งลูกให้ตาสมควรเลี้ยงเอาไว้ อยู่บ้านหลังเก่าๆ ชาวบ้านในหมู่บ้านทุกคนสงสารจับใจ ใครมีอะไรก็เอาไปให้ ทั้งกับข้าว เสื้อผ้า หากวันไหนไม่มีข้าวกิน สองคนก็จะพากันขอข้าววัดกิน แม้กระทั่งเสื้อผ้า บางวันหลานชายมาโรงเรียนไม่มีแม้แต่เสื้อผ้าจะใส่ ชาวบ้านต้องพากันเอาไปให้

ตาสมควรเขาเป็นคนอุดร ได้ภรรยาคนบ้านนี้คือนางคำมวน ภรรยาเลยพามาอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ แต่พอภรรยาเสียชีวิตก็ไม่มีที่ไป ลูกชายติดเมียก็เคยมาไล่ตาสมควรออกจากบ้านไปแล้วครั้งหนึ่ง นี่ก็เพิ่งกลับมา แกเป็นคนรักหลาน เลี้ยงน้องม่อนมาตั้งแต่เกิด ส่วนแม่ไม่ค่อยสนใจลูกเท่าไหร่  พอไข่เอาไว้แล้วก็ไปหาผัว เห็นว่ามีผัวหลายคนแล้ว บอกตรงๆ ชีวิตตาสมควรและน้องม่อนน่าสงสารจริงๆ









Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.