ที่จังหวัดสุพรรณบุรี วันที่ 14 เม.ย.67 ร.ต.ท.ธนโชติ มณีโชติ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี รับแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันตกลงคลองจมน้ำมีคนเจ็บที่ถนนเลียบคลองชลประทานสายบางลี่ - วัดป่าเลไลยก์ หมู่  7 ตำบลดอนกำยาน จึงเจ้าหน้าที่มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรีนำรถยกและอุปกรณ์ตัดถ่าง รีบไปตรวจสอบเพื่อให้การช่วยเหลือ

ที่เกิดเหตุบริเวณริมถนนทางแยกใต้สะพานข้ามคลองดอนกำยาน พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อ ออร่า ORA สีครีม ทะเบียน 4 ขอ 9840 กรุงเทพ จอดอยู่สภาพหน้ารถมีรอยชนเสียหาย ห่างกันประมาณ 60 เมตรมีเศษชิ้นส่วนรถยนต์แตกกระจายอยู่กลางถนน ภายในคลองซึ่งมีน้ำลึกประมาณ 3 เมตรมีรถกระบะยี่ห้อ ฟอร์ด สีดำ ทะเบียน บล 3696 พระนครศรีอยุธยา จมอยู่มิดคัน เจ้าหน้าที่จึงใช้รถยกมาช่วยดึงขึ้นจากน้ำพบว่าหลังคาบุบกระจกหน้าร้าว นอกจากนี้ยังพบผู้บาดเจ็บเป็นผู้หญิงสูงอายุ อยู่ในอาการตกใจ และได้รับบาดเจ็บที่ไหล่ขวา เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำส่งโรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราชให้แพทย์ตรวจรักษาอาการ

จากการสอบถามนายขวัญชัย ตระการจันทร์ อายุ 48 ปีคนขับรถกระบะเล่าว่าตนทำงานอยู่ที่โรงงานแห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์จึงพาภรรยากลับมาเยี่ยมบ้านและกำลังขับรถพาแม่ไปทานข้าวในตัวจังหวัด มาตามถนนสายดังกล่าวซึ่งเป็นทางวันเวย์ รถวิ่งทางเดียวถึงที่เกิดเหตุบริเวณใต้สะพานซึ่งเป็นทางแยกจู่ๆมีรถเก๋งคู่กรณี ขับออกจากทางแยกเลี้ยวขวาแบบกะทันหันตนตกใจพยายามหักหลบแต่ไม่พ้นจึงเฉี่ยวหน้ารถเก๋งก่อนที่รถจะเสียหลักพลิกตะแคงไถลไปตามถนนเป็นทางยาวกว่า 60 เมตรก่อนจะตกลงไปในคลอง ระหว่างนั้นมีชาวบ้านที่ขับรถมาเล่นสงกรานต์ผ่านมาเจอเหตุจึงลงมาให้การช่วยเหลือนำพวกตนออกจากรถได้ก่อนที่รถจะจมน้ำทำให้รอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวุด

ทางด้านนางพรณิชา เปรมศิริ อายุ 40 ปีคนขับรถเก๋งคู่กรณี เล่าว่าก่อนเกิดเหตุได้ขับรถพาลูกมาเที่ยวในพื้นที่สุพรรณบุรี และกำลังจะกลับบ้านที่จังหวัดนครปฐม แต่ด้วยความที่ตนไม่เคยมาสุพรรณบุรีและไม่รู้เส้นทางจึงตั้ง จีพีเอส นำทาง เมื่อถึงที่เกิดเหตุเป็นทางแยก และทางบังคับให้เลี้ยวซ้าย ด้วยความที่ตนไม่รู้เส้นทาง ว่าถนนสายดังกล่าวเป็นทางวันเวย์ จึงเลี้ยวขวา ตามคำสั่ง จีพีเอส  ทำให้รถย้อนศร ระหว่างนั้นมีรถกระบะขับมาตามถนนซึ่งเป็นทางตรงทำให้เกิดเฉี่ยวชนกันขึ้นและรถคู่กรณี เสียหลักตกลงไปในคลองซึ่งตนตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะกลัวว่าคนในรถกระบะจะเป็นอะไรมาก หลังจากตั้งสติได้ตนก็เข้าไปไหว้ขอโทษและยอมรับผิดว่าตนเองประมาทไม่ระวัง และเชื่อ จีพีเอส มากเกินไป อย่างไรก็ตามตนยินดีรับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 

ทางด้านพนักงานสอบสวนก็จะได้เรียกคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาสอบสวนอย่างละเอียดก่อนจะแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป