เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



สาวสุดช้ำ หนุ่มแสบตีสนิทหลอกให้เช่าที่ขายของสงกรานต์ - รายได้ฉ่ำ สูญเกือบสองหมื่น


14 เม.ย. 2567, 13:06



สาวสุดช้ำ หนุ่มแสบตีสนิทหลอกให้เช่าที่ขายของสงกรานต์ - รายได้ฉ่ำ สูญเกือบสองหมื่น




ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.รัชนู รัตนโกสินธ์ อายุ 33 ปี หรือ น้องชมพู่ ชาวจ.อุดรธานีหอบเอกสารหลักฐานแชทการสนทนาระหว่างตนเองกับหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง ใช้ชื่อในเฟสบุ๊คคือนายสุทธิพงษ์ ไชยสงค์ เข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชนจังหวัดอุดรธานี หลังถูกนายสุทธิพงษ์ หรือ อ้อม มาตีสนิทพูดหวานฉ่ำหลอกให้เช่าพื้นที่ฟุตบาตหน้าบ้านขายอาหารและเครื่องดื่มช่วงสงกรานต์ ที่ บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่ง ถนนอดุลยเดช เขตเทศบาลนครอุดรธานี และแอบอ้างว่ารู้จักกับเจ้าหน้าที่สรรพสามิต จ.อุดรธานี สามารถเอาของกลางซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่ยึดมาได้ออกมาจำหน่ายในราคาที่ถูก ทำให้ได้ตนได้รับความเสียหายคิดเป็นเงินราว 20,000 บาท



ต่อมาน้องชมพู่พร้อมนักข่าวเดินทางไปพบกับเจ้าหน้าที่สรรพสามิตจ.อุดรธานีที่สำนักงานฯ เพื่อแจ้งเรื่องให้ทราบเกี่ยวกับการแอบอ้างว่ารู้จักกับเจ้าหน้าที่สรรพสามิตมีของกลางนำออกไปขายได้ โดยได้พบกับนายไกรโชติ กาญจนสมบูรณ์ นักวิชาการสรรพสามิตชำนาญการพิเศษ สรรพสามิตอุดรธานี ซึ่งได้ชี้แจ้งว่า ตามกฎหมายสรรพสามิตแล้ว ทางสรรพสามิตมีกระบวนการในการตรวจของกลางและทำลายของกลางบังคับใช้อยู่ เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าหน้าที่จะนำของการออกไปขาย หากเป็นบุคคลภายนอกมาแอบอ้างเจ้าหน้าที่ ยิ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะของกลางหากตรวจยึดแล้ว ทางเราต้องตรวจสอบว่าตรงตามที่เราตรวจยึดมาแล้วหรือไม่ เมื่อเวลาจะทำลายของกลางเราก็ต้องตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งว่าตรงกันไหม เป็นไปไม่ได้ว่าของกลางหลุดออกไปจำหน่ายให้คนภายนอก 

อย่างไรก็ดีบุคคลที่แอบอ้างรู้จักเจ้าหน้าที่สรรพสามิต ทำให้หน่วยงานองค์กรเสียหายทางเราจะมีการแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าวต่อไป ส่วนกรณีที่ถูกแอบอ้างว่าสามารถขออนุญาตจำหน่ายสุราชั่วคราวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ในพื้นที่ดังกล่าวได้นั้น ขอชี้แจงว่า เดิมทีแต่ก่อนกฎหมายฉบับนี้เคยอนุญาตให้สามารถขอจำหน่ายสุราชั่วคราวได้ แต่เมื่อพระราชบัญญัติกฎหมายฉบับใหม่ออกมากฎหมายฉบับนั้นก็ยกเลิกไป ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ก็ถูกยกเลิกไปตั้งแต่ปี 60 แล้ว “ขอฝากเตือนไปถึงประชาชน ว่า กฎหมายสรรพสามิตฉบับนี้ ยังไม่มีการอนุญาตให้ขายสุราชั่วคราว และไม่มีการออกใบอนุญาตให้ ซึ่งหากมีการจำหน่าย ตามข้างทางหรือเร่ขาย เจอที่ไหน เจ้าหน้าที่สรรพสมมิตสามารถดำเนินการตามกฎหมายได้ทันที


ต่อมาน้องชมพูได้เดินทางไปยังบ้านพักอาศัยหลังหนึ่ง บริเวณถนนอดุลยเดช เขตเทศบาลนครอุดรธานี ตามที่นายอ้อมอ้างว่าจุดนี้เป็นจุดพื้นที่ให้เช่า ได้พบกับเจ้าของบ้าน จากนั้นเอารูปภาพคนร้ายให้เจ้าของบ้านดูพร้อมถามว่าบุคคลนี้เป็นหลานของบ้านหลังจริงหรือไม่ โดยทางเจ้าของบ้านแจ้งว่า “บุคคลในรูปนั้นตนไม่รู้จักและไม่ได้เป็นญาติกัน” ทั้งนี้หน้าบ้านเคยมีผู้หญิงเคยมาติดต่อขอเช่าหน้าบ้านเล่นน้ำสงกรานต์มาแล้วครั้งหนึ่งแต่ตนก็ไม่ได้ให้เช่า สงสัยถูกหลอกหลายรายแล้ว ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังหมายเลขโทรศัพท์ของนายอ้อมที่ถูกให้เช่าขายของช่วงสงกรานต์ ปรากฎว่า โทรติดแต่ไม่มีใครรับสาย

น้องชมพู เปิดเผยว่า ช้ำใจมาก อยากหารายได้เสริมช่วงสงกรานต์ แต่ถูกหลอกสูญเงินเก็บเกือบ 20,000 บาท ย้อนกลับก่อนเกิดเหตุตนทำงานเป้นพนักงานต้อนรับที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ประมาณปลายเดือน มี.ค. นายอ้อมคนนี้ได้มาเข้าพักที่โรงแรม จากนั้นเข้ามาตีสนิท พูดหวานฉ่ำเหมือนน้ำสงกรานต์ และยังอวดอ้างว่ารู้จักกับเจ้าของ โรงแรมด้วย จากนั้นเขาก็มาสอบถามเราว่าช่วงสงกรานต์ไปเล่นน้ำที่ไหน มีที่ขายของหรือยัง ซึ่งตอนนั้นตนก็ กำลังหาที่จะขายของช่วงสงกรานต์พอดี ก็เลยแลกไลน์กันเพราะเขาบอกว่าจะมีที่ขายของให้ เช้าวันถัดมาเขาก็ส่งรูปสถานที่หน้าบ้านหลังหนึ่งในซอยอดุลยเดชซึ่งเขาอ้างว่า ถนนสายนี้สงกรานต์ทุกปีจะแน่นมาก ที่บ้านพร้อมจะเปิดให้เช่าขายของบริเวณฟุตบาทหน้าบ้านเขา โดยเขาบอกว่า สงกรานต์ปีนี้คนแน่นมาก รับรองรายได้ฉ่ำรับเงินหอบกลับบ้าน แต่คิดค่าเช่าราคา 12,000 บาท สามารถต่อลดลงเหลือได้ 8,000 บาท เนื่องจากเขาเป็นหลาน ทำให้ตนเองสนใจจึงตกลงขอจ่ายเงินในวันที่ 30 มี.ค.67 ที่ผ่านมา ไม่นานเข้าก็โทรกลับมาบอกว่าพี่สำรองจ่ายให้ไปก่อนเดี๋ยวเราค่อยเคลียร์กัน ครั้งแรกวันที่ 30 มี.ค.67 โอนเงินไปให้เขาก่อน 4,000 บาท และในวันที่ 31 มี.ค. จ่ายให้อีก 4,000 บาทรวมเป็นเงิน 8,000 บาท จากนั้นเขาก็หายไป 

ไม่นานเขาก็กลับมาพักที่โรงแรมอีกครั้ง จากนั้นเขาก็มาชวนถามพูดคุยว่าจะไปขายอะไร ตนบอกว่าจะขายอาหารและเครื่องดื่ม นายอ้อมเขาก็บอกว่าน้องสนใจเครื่องดื่มไหม พี่มีเครื่องดื่มราคาถูกกว่าท้องตลาด เขาบอกว่าเอามาจาก เจ้าหน้าที่ฯ กรมสรรพสามิต เป็นของกลางที่ยึดมาได้ แต่จะเอาออกมาขายต่อในราคาถูก ซึ่งตอนนี้ตนก็คิดอยู่ยังไม่โอนเงินให้เขาทันที คนร้ายก็โทรมาเร่งบอกว่าตอนนี้มีเบียร์อยู่ 23 ถาดๆละ 550 บาท จะเอาไหม ตนก็ยังไม่พร้อม บอกปัดไปก่อน ไม่นานนายอ้อมก็ติดต่อกลับมาอีกบอกว่าพี่สำรองจ่ายให้ไปก่อนแล้วเดี๋ยวเรามาเคลียร์กันในวันที่ 10 เม.ย.คือเมื่อวาน เครื่องดื่มจะเอาไปส่งที่หน้าบ้านแล้วเตรียมสถานที่พร้อมขายกันได้เลย จึงยอมโอนเพิ่มอีก 12,650 บาท รวมเป็นเงินที่ถูกหลอกโอนให้นายอ้อม จำนวน 20,650 บาท และหลังโอนเงิน นัดกันเมื่อวาน ทังวันไม่เห็นเขามาส่งของ โทรไปก็ไม่รับสายแชทไลน์อ่านรู้ว่าถูกหลอกแน่แล้ว  จึงมาแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.เมืองอุดรธานี อยากให้ ตร.ติดตามนายอ้อมมาดำเนินคดี เพราะเงินก้อนนี้เป็นเงินเก็บก้อนสุดท้ายที่อยากลงทุนหารายได้ในช่วงสงกรานต์ปีนี้ แต่สุดท้ายต้องมาสูญเงินไปเกือบ 20,000 บาท สาวอุดรกล่าวตอนท้ายด้วยความช้ำใจ


คำที่เกี่ยวข้อง : #onbnews  




Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.