วันที่  26  มีนาคม   2567  ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง สภ.โพธาราม ภายหลังเมื่อคืนเวลาประมาณ 23.00 น.มีเหตุการใช้อาวุธปืนยิงกันทำให้มีผู้บาดเจ็บสาหัส 2 ราย เหตุเกิดกลางงานขึ้นบ้านใหม่ ในพื้นที่ ม.3 ต.บ้านฆ้อง อ.โพธาราม ซึ่งทางผู้ต้องหาได้ติดต่อเข้ามอบตัว ภายหลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ติดตามตัวและกดดันอย่างหนัก จึงให้ญาติพาเข้ามอบตัวพร้อมอาวุธปืน โดยติดต่อขอเข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.ชัชชน นราวุฒิพร ผกก.สภ.โพธาราม และ พ.ต.อ.วิชยานนท์ เอกตาแสง ผกก.กลุ่มงานสอบสวน ภ.จว.ราชบุรี ซึ่งย้อนหลังไปเมื่อคืนเมื่อเวลาประมาณ 22.50 น.วันที่ 25 มีนาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธาราม ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ชัชชน นราวุฒิพร ผกก.สภ.โพธาราม ได้รับแจ้งมีเหตุงกัน จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.ปรัชญา เตชะ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.พันธ์ฤกษ์ สร้อยทองมูล สว.สส. พร้อมชุดสืบสวนลงพื้นที่ไปตรวจสอบเหตุใช้อาวุธปืนยิงกันในงานขึ้นบ้านใหม่ ม.3 ต.บ้านฆ้อง ในที่เกิดเหตุพบเพียงรอยเลือด ห่างจากบ้านงานประมาณ20เมตร นอกจากนั้น ยังพบรอยกระสุน 2 รู ที่ฝากระโปรงรถยนต์กระบะโตโยต้าวีโก้สีดำทะเบียน ถน-8491 กทม.ที่จอดอยู่ในบ้าน ของนางสายทอง  อายุ 56 ปี  ได้รับความเสียหาย และในบ้านงานพบรอยกระสุนพุ่งไปเจาะที่พื้นปูนหน้าบ้าน ส่วนคนเจ็บญาติได้นำส่งโรงพยาบาลโพธารามไปก่อนหน้าแล้วทราบชื่อคนเจ็บคือนายไกรสร  อายุ 42 ปี ได้รับบาดเจ็บถูกอาวุธปืนยิง เฉียวที่ใบหน้า และนายวรโชติ  ถูกยิงเข้าที่ท้อง ส่วนมือปืนคือนายคม(ขอสงวนชื่อและนามสกุล) อายุ 27 ปี  ชาวต.บ้านสิงห์ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป

ซึ่งหลังเกิดเหตุได้ตรวจสอบกล้องวรจรปิดของเพื่อนบ้าน ซึ่งในภาพกล้องวงจรปิดนั้นเห็นไกลๆว่าก่อนเกิดเหตุตัวคนร้ายยิงทางผู้บาดเจ็บจนล้มทั้งยืนและมีแม่ยายของผู้ต้องหาค่อยห้ามปราม และมี 1ในกลุ่มผู้บาดเจ็บวิ่งหนีคมกระสุนโดยวิ่งสวนกล้องมาและที่เหลือก็วิ่งกระจาย ซึ่งเสียงปืนในกล้องนั้นประมาณ7 นัด 

 หลังจากที่ชุดสืบสวนรู้ตัวคนร้ายได้ติดตามตัวไปยงบ้านคนร้ายแต่ไม่พบ และแจ้งกับญาติว่าให้ติดต่อเข้ามอบตัว ทำให้คนร้ายถูกกดดัน จึงแจ้งญาติให้พาเข้ามอบตัวดังกล่าว ส่วนสาเหตุนั้น     นายคมสรรค์ ผู้ต้องหา ได้กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ไปหาแฟนตนที่ข้างบ้านที่จัดงานขึ้นบ้านใหม่โดยต้องการจะไปเอาแค่นาฬิกาที่ฝากให้แฟนสาวไปซ้อม เพราะทักมาทางไลน์แต่ติดต่อแฟนไม่ได้จึงมาที่บ้านแฟน แต่ไม่เจอตัวแฟนสาว จึงเดินไปที่บ้านงานเห็นแฟนสาวนั่งกินอยู่ที่โต๊ะกินเลี้ยงกับแม่เขาตนก็จับแขนให้แฟนออกมาคุยด้านนอก แต่จังหวะนั้นมีกลุ่มวัยรุ่นที่อยู่ในงานได้เข้ามาห้ามและจับตัวตนและลากตัวให้ตนออกไปจากงาน พอมาถึงจุดเกิดเหตุ ตนได้ถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายร่างกายและถูกขู่จะยิง และตนเห็น1ในกลุ่มวัยรุ่นชักอาวุธจากเอวเป็นสีดำจึงมั่นใจว่าจะเป็นปืน ตนจึงรีบชักปืนของตนที่พกมาด้วยยิงใส่ก่อน1นัดทำให้คนที่ถูกยิงร่วงลงไปกองกับพื้น พอสิ้นเสียงปืน กลุ่มวัยรุ่นตางพากันวิ่งหนี ตนก็ตามไปยิงบาดเจ็บไปอีก1คน และยิงแบบมั่วๆทำให้คมกระสุนไปถูกรถและหน้าบ้านงานดังกล่าว จากนั้นได้หลบหนีไป สาเหตุที่ยิงเพราะตนถูกทำร้ายตนจึงยิงเพื่อป้องกันตัวเอง

    ทางด้านนางสายทอง   ซึ่งเป็นแม่ยายของนายคมนั้นได้กล่าวว่า คืนเกิดเหตุลูกสาวตนได้วิ่งเข้าไปหาตนที่งาน และบอกว่าแม่คมมา ซึ่งลูกสาวพูดเสร็จทางลูกเขยคือ คมได้เดินตามมาติดๆพร้อมกระซากแขนลูกสาวตนออกไป ตนก็บอกว่ามีอะไรค่อยๆคุยกัน คมก็ไม่ฟังจนทำให้เพื่อนบ้านที่อยู่ในงานเข้าไปห้ามและลากลูกเขยตนคือคมให้ออกไปบริเวณงาน และตอนนั้นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดเหตุการณ์อะไรบ้างเพราะมันชุนละมุน พอได้ยินเสียงปืนคนที่ถูกยิงก็ล้มลง ส่วนที่เหลือก็วอ่งหนีกันคนละทิศละทาง เจ้าคมคนยิงช่วงนั้นคงสติแตกวิ่งเอาปืนไล่ยิงจนไปถูกฝากระโปร่งรถตน และยิงไปทางโน้น ทางนี้ ตนก็เป็นห่วงลูกสาวตามหาลูกสาวก็ไม่เจอ แต่ลูกสาวปลอดภัยดีแต่ไม่รู้ก่อนหน้าที่ลูกสาววิ่งมาหาตนจะถูกทำร้ายหรือเปล่า เพราะยังไม่ได้ถามลูกสาว

   นายศิริ  อายุ 41 ปี เจ้าของงานขึ้นบ้านใหม่ เล่าว่า ตนเห็นคนยิงเดินเข้ามาในงานและมาดึงผู้หญิงไป และเกิดการชุลละมุนกันบริเวณหลังเวที และได้ยินเสียงปืนดังยาวเลย มีคนวิ่งหลบกระสุนมาทำให้กระสุนพุ่งมาโดนพื้นบ้านตน ส่วนตัวแล้วผมไม่รู้จักคนยิงเลย เพราะคนยิงเขาเป็นแฟนหลานสาวตนที่อยู่บ้านใกล้กัน ตอนที่เขาเข้ามาเพื่อนตนก็พยายามดันเขาให้เขาออกไป เพราะช่วงนั้นแขกก็ยังอยู่เยอะ เด็กๆก็วิ่งเล่นกันเต็มหน้าบ้าน