เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



โฆษกเกษตรฯ แจงปมไฟไหม้กระทรวงอย่าโยงการเมือง "ธรรมนัส-ไชยา" เข้าตรวจพื้นที่


5 ก.พ. 2567, 15:50



โฆษกเกษตรฯ แจงปมไฟไหม้กระทรวงอย่าโยงการเมือง "ธรรมนัส-ไชยา" เข้าตรวจพื้นที่




วันนี้ ( 5 ก.พ.67 ) ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางสาวอัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ฝ่ายการเมือง) กล่าวถึงกรณีเหตุเพลิงไหม้ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า วันนี้ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าตรวจพื้นที่จุดเกิดเหตุเพลิงไหม้ โดยได้รับการอนุญาตจากกองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อเข้าไปเก็บของและสำรวจความเสียหาย ตลอดจนดูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายเพื่อวางแผนในการปรับปรุง หลังจากที่กองพิสูจน์หลักฐานได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายเป็นที่เสร็จสิ้นแล้ว เบื้องต้น พบความเสียหายบริเวณห้องครัวได้รับความเสียหายหนักสุด และคาดการณ์ว่าน่าจะเป็นจุดต้นเพลิง เนื่องจากบริเวณจุดนี้มีเครื่องใช้ไฟฟ้าจำนวนมาก และยังมีร่องรอยการเผาไหม้ที่เกิดขึ้น สันนิษฐานว่าต้นเพลิงจากห้องครัวทำให้เปลวไฟได้ลุกลามติดผ้าม่านวอลล์เปเปอร์ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เปลวไฟทวีความรุนแรงและได้รับความเสียหายอย่างหนัก

ซึ่งทาง รมว.กษ. ได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจพื้นที่ทันทีเพื่อสำรวจความเสียหาย และวางแผนปรับปรุงห้องใหม่ทั้งโซน เพื่อซ่อมแซมทั้งโครงสร้าง พื้นเพดานใหม่ทั้งหมดเพื่อความปลอดภัย และให้ใช้พื้นที่ “กรมชลประทาน” เป็นที่ทำงานชั่วคราวของท่านรัฐมนตรีไชยา ในระหว่างรอการปรับปรุงพื้นที่ 

ขณะที่ รมช.ไชยา กล่าวว่า สิ่งของภายในห้องทำงานของตนไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด ทุกอย่างอยู่ครบตามปกติ มีเพียงแค่พื้นชุ่มฉ่ำเปียกน้ำ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ใช้น้ำฉีดสกัดเพลิงตอนเกิดเหตุ จึงกลายเป็นน้ำท่วมขังอยู่ในห้อง วันนี้ตนมาดูห้องจึงได้นำของที่สำคัญและเอกสารในการทำงานออกมาเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อในพื้นที่ทำงานชั่วคราวที่กรมชลประทาน และยืนยันว่าไม่ได้เป็นอุปสรรคในการปฏิบัติหน้าที่ ยังคงเดินหน้าทำงานต่อตามปกติ

ส่วนกรณีที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล ออกมาเรียกร้องให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด โฆษกเกษตรฯ กล่าวว่า อยู่ในดุลพินิจของทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้รวบรวมเอกสารข้อมูลไว้หมดแล้ว ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย ตามประจักษ์พยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ เน้นย้ำไม่ควรเอาประเด็นทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความสับสน ซึ่งในการทำสำนวนคดีของทางเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ไม่ควรเข้าไปก้าวก่ายหรือแทรกแซงการทำงานของเจ้าหน้าที่ หรือการสร้างภาวะความกดดันใด ๆ กับผู้ปฏิบัติงานตามกฎหมาย 

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ได้เก็บชิ้นส่วนเป็นสายไฟในที่เกิดเหตุซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นต้นเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ซึ่งต้องรอสรุปผลของกองพิสูจน์หลักฐานต่อไป









Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.