วันที่ 17 พ.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งคืนและช่วงวันที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนักทำให้จังหวัดชุมพรมีน้ำป่าไหลหลากท่วมพื้นที่การเกษตรและ ถนนสายรองในหมู่บ้านชุมพรน้ำไหลผ่านรถสัญจรผ่านลำบากต้องใช้ความระมัดระวัง โดยถนนสายหลักเอเซีย 41 บริเวณหน้าค่ายตชด.41 อำเภอเมืองชุมพรฝั่งขาขึ้นกรุงเทพมหานคร รถติดหนัก พร้อมทั้งฝั่งขาขึ้นกรงเทพฯตรงข้ามป้อมตำรวจบ้านนาโพธิ์ อำเภอสวีน้ำท่วมขังเสียช่องทางการเดินรถไป 1 ช่องทาง เจ้าหน้าที่กรมทางหลวงนำกรวยพลาสติกมาปิดช่องทางซ้ายสุดเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ

         พื้นที่น้ำท่วมหนักสุดเบื้องต้นรายงานว่าอำเภอสวีหนักสุดคือ ตำบลทุ่งระยะ หมู่ 7 หมู่ 5 บ้านน้ำชน น้ำท่วมบ้านเรือนสูงกว่า 2 เมตร ถนน-สะพานในหมู่บ้านตัดขาด  ตำบลครนหมู่ 2 ถนนในหมู่บ้านถูกน้ำไหลผ่านรถเล็กไม่สามารถผ่านได้   แต่รถกระบะยกสูง หรือรถขนาดใหญ่สามารถผ่านไปได้ ทั้งนี้ได้มีผู้นำชุมชนจากอบต.ครน นำเรือท้องแบบออกช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียงเคลื่อนย้ายไปอาศัยอยู่ที่ศูนย์หมู่บ้านเป็นที่พักชั่วคราว   หมู่ 6 ตำบลทุ่งตะไคร อำเภอทุ่งตะโกน้ำท่วมเริ่มเอ่อล้นบ้านเรือนประชาชนแล้ว      

           ด้านนายวิชัย  สุดสวาสดิ์ ส.ส.เขต 1 พรรครวมไทยสร้างชาติ ลงพื้นที่สำรวจน้ำท่วมอำเภอสวี กล่าวว่า ตำบลปากแพรก  นาโพธิ์   วิสัยใต้ และตำบลครน ซึ่งเป็นพื้นที่โซนล่างและเป็นพื้นที่ราบลุ่มรองรับน้ำจากที่สูง เมื่อฝนตกหนักเป็นพื้นที่รองรับน้ำก่อนจะไหลลงสู่ทะเล ส่วนบนถนนเพชรเกษมบางส่วนรถผ่านลำบาก ขณะเดียวกันกำลังหาแนวทางแก้ปัญหาในระยะยาวแล้ว

        ขณะเดียวกันนายวิสาห์  พูลศิริรัตน์  ผู้ว่าฯ ชุมพร พร้อมด้วยปลัดจังหวัดชุมพร/เลขานุการเหล่ากาชาดจังหวัดชุมพร นายอำเภอเมืองชุมพรและประชาสัมพันธ์จังหวัดชุมพร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่อำเภอเมืองชุมพร ที่ตำบลตากแดด ตำบลขุนกระทิง เนื่องจากมีน้ำท่วมเอ่อล้น น้ำระบายไม่ทัน  โดยได้สั่งการให้ขุดลอกลำห้วยสาธารณะเนื่องจากมีสิ่งกีดขวางทางน้ำ และสำหรับพื้นที่น้ำท่วมขังบ้านเรือน ได้สั่งการให้นำเครื่องสูบน้ำช่วยผลักดันน้ำลงคลองให้เร็วที่สุด และบรรเทาความเดือดร้อนมอบข้าวกล่องให้ประชาชน ในช่วงที่ยังมีน้ำท่วมขัง ไม่สามารถประกอบอาหารเองได้