เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



นายกฯ ขอบคุณ กลาโหมหลังใช้ศักยภาพเทคโนโลยีของกองทัพบรรเทาสาธารณภัย พร้อมช่วยเหลือประชาชนแบบครบวงจร ในการปรับใช้ศักยภาพเพื่อประชาชน ยามมีภัยฯ


20 พ.ค. 2568, 16:33



นายกฯ ขอบคุณ กลาโหมหลังใช้ศักยภาพเทคโนโลยีของกองทัพบรรเทาสาธารณภัย พร้อมช่วยเหลือประชาชนแบบครบวงจร ในการปรับใช้ศักยภาพเพื่อประชาชน ยามมีภัยฯ




นายกฯ ขอบคุณ กลาโหมหลังใช้ศักยภาพเทคโนโลยีของกองทัพบรรเทาสาธารณภัย พร้อมช่วยเหลือประชาชนแบบครบวงจร ในการปรับใช้ศักยภาพเพื่อประชาชน ยามมีภัยฯ

วันนี้ (20 พ.ค. 68) เวลา 09.50 น. ณ บริเวณโถงกลาง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นำคณะผู้บริหารกระทรวงกลาโหม เข้าพบนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดแสดงนิทรรศการยุทโธปกรณ์ เทคโนโลยี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือประชาชน การบรรเทาสาธารณภัย และการพัฒนาประเทศของกระทรวงกลาโหม เรื่อง “การบรรเทาสาธารณภัยและช่วยเหลือประชาชนของกระทรวงกลาโหม”  โดยมีคณะรัฐมนตรี และผู้บริหารหน่วยงานกระทรวงกลาโหมเข้าร่วม
 
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี รับฟังภาพรวมการจัดแสดงนิทรรศการ “การบรรเทาสาธารณภัยและช่วยเหลือประชาชนของกระทรวงกลาโหม” ได้นำเสนอศักยภาพและขีดความสามารถของหน่วยงานต่าง ๆ ในสังกัดกระทรวงกลาโหมอย่างเป็นรูปธรรม โดยแบ่งการจัดแสดงออกเป็น 2 หัวข้อหลักที่สะท้อนภารกิจสำคัญในการปกป้องและช่วยเหลือประชาชนในยามวิกฤต ดังนี้

ภารกิจที่หนึ่ง การค้นหาและกู้ภัยอาคารถล่มและแผ่นดินไหว หัวข้อนี้ได้จำลองสถานการณ์และแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของชุดปฏิบัติการพิเศษต่าง ๆ ที่ถูกฝึกฝนมาเพื่อรับมือกับภัยพิบัติร้ายแรง เช่น อาคารถล่มและแผ่นดินไหว โดยมีการนำเสนอชุดปฏิบัติการที่สำคัญ ได้แก่
 
ชุดค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (Urban Search and Rescue: USAR) ชุดปฏิบัติการนี้มีความเชี่ยวชาญในการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังของอาคารที่พังทลาย กำลังพลได้รับการฝึกฝนเทคนิคการเข้าถึงพื้นที่เสี่ยง การใช้อุปกรณ์พิเศษในการเจาะ ตัด ถ่างโครงสร้างที่เสียหายและการประเมินความปลอดภัยของพื้นที่ปฏิบัติงาน เพื่อให้สามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย
 
ชุดแพทย์เผชิญเหตุ (Medical Emergency Response Team : MERT) พร้อม Drone ทางการแพทย์ ทีมปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉินเคลื่อนที่เร็ว (MERT) มีความพร้อมในการให้การรักษาพยาบาลเบื้องต้น ณ จุดเกิดเหตุอย่างทันท่วงที มีความเชี่ยวชาญในการประเมินอาการผู้ป่วย การให้การรักษาฉุกเฉิน และการลำเลียงผู้ป่วยไปยังสถานพยาบาลที่เหมาะสม รวมทั้งสนับสนุนทีมปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉินเคลื่อนที่เร็ว (MERT) ในการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ณ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอเทคโนโลยี Drone ทางการแพทย์ ซึ่งสามารถใช้ในการสำรวจพื้นที่ประสบภัย ส่งเวชภัณฑ์เบื้องต้นหรือแม้กระทั่งช่วยในการประเมินสถานการณ์และติดต่อสื่อสารในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก ซึ่งงานวิจัยหุ่นยนต์ค้นหาและกู้ภัย ส่วนนี้เป็นการแสดงศักยภาพของเทคโนโลยีและนวัตกรรม ที่กระทรวงกลาโหมพัฒนาขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานกู้ภัย หุ่นยนต์ค้นหาและกู้ภัย สามารถเข้าไปสำรวจในพื้นที่อันตรายที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าถึงได้โดยง่าย เช่น ช่องแคบ ใต้ซากปรักหักพัง หรือพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการทรุดตัว หุ่นยนต์เหล่านี้มักติดตั้งกล้อง เซ็นเซอร์ และอุปกรณ์สื่อสารต่าง ๆ เพื่อส่งข้อมูลภาพ เสียง และสภาพแวดล้อมกลับมายังทีมควบคุม ทำให้สามารถค้นหาผู้ประสบภัยและประเมินสถานการณ์ได้อย่างแม่นยำ
 
ชุดสุนัขกู้ภัย (Rescue Dog) สุนัขกู้ภัยเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการค้นหาผู้ประสบภัยที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง มีความสามารถในการดมกลิ่นที่เป็นเลิศ ทำให้สามารถตรวจจับร่องรอยของมนุษย์ได้แม้ในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อน ชุดสุนัขกู้ภัยประกอบด้วย สุนัขที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นพิเศษ และผู้ควบคุมที่มีความเชี่ยวชาญในการนำทางและตีความสัญญาณจากสุนัข เพื่อให้การค้นหาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
 
ภารกิจที่สอง การสนับสนุนการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) หัวข้อนี้แสดงให้เห็นถึงบทบาทของกระทรวงกลาโหมในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยมีการนำเสนอ ดังนี้
การจัดแสดงภารกิจการอำนวยการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ของศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ภาค 3 (ศอ.ปกป.ภาค 3) ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของกองทัพบก ส่วนนี้จะแสดงให้เห็นถึงกลไกการทำงานของ ศอ.ปกป.ภาค 3 ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ในการป้องกัน เฝ้าระวัง และดับไฟป่า รวมถึงการจัดการปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองในพื้นที่รับผิดชอบ มีการนำเสนอแผนปฏิบัติการ การประสานงานกับหน่วยงานภาคส่วนต่าง ๆ และการใช้ทรัพยากรของกองทัพบกในการสนับสนุนภารกิจ และการจัดแสดงเทคโนโลยีการเฝ้าติดตามและจัดทำแผนที่จุดความร้อน (Hot spot)  จากดาวเทียมระบบ VIIRS ส่วนนี้เป็นการนำเสนอเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการตรวจจับและติดตามสถานการณ์ไฟป่าและจุดความร้อนดาวเทียมระบบ VIIRS (Visible Infrared Imaging Radiometer Suite) เป็นระบบที่สามารถตรวจจับรังสีอินฟราเรดที่ปล่อยออกมาจากไฟ ทำให้สามารถระบุตำแหน่งและขนาดของไฟป่าได้อย่างแม่นยำ ข้อมูลจากดาวเทียมจะถูกนำมาวิเคราะห์และจัดทำเป็นแผนที่จุดความร้อน ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการวางแผนการดับไฟ การเฝ้าระวัง และการประเมินความเสี่ยงของการเกิดไฟป่า รวมถึงการติดตามและประเมินสถานการณ์หมอกควันและฝุ่นละอองที่อาจมีสาเหตุมาจากไฟป่า
 
ทั้งนี้ ระหว่างเยี่ยมและรับฟังบรรยายสรุป นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมกระทรวงกลาโหมที่สามารถบูรณาการเทคโนโลยีและทรัพยากรของกองทัพมาใช้ในการช่วยเหลือประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะในภารกิจการค้นหาและกู้ภัย การแพทย์ฉุกเฉิน และการแก้ไขปัญหาไฟป่าและมลพิษ PM 2.5 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทที่สำคัญของกองทัพในการสร้างความมั่นคงทั้งในด้านความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตของประชาชน พร้อมทั้งเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานร่วมกันเสริมสร้างระบบการเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ซึ่งการจัดแสดงนิทรรศการครั้งนี้ ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและศักยภาพของกระทรวงกลาโหมในการเตรียมพร้อมและตอบสนองต่อภัยพิบัติและสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ เพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของสังคมไทยต่อไป





คำที่เกี่ยวข้อง : #ภาครัฐ  




Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.